xs
xsm
sm
md
lg

สื่อจีน-ไต้หวัน ตีข่าว สส.หื่น ข่มขืนสาวไต้หวัน หวั่นทำท่องเที่ยวไทยสะเทือนอีกครั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สส.ไทย ข่มขืนสาวไต้หวัน หวั่นทำท่องเที่ยวไทยสะเทือนอีกครั้ง หลังเป็นข่าวดังในจีน-ไต้หวัน
เหตุการณ์ สส.หื่น ทำงามไส้ ข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันนอกจากจะเป็นข่าวฉาวโด่งดังในประเทศไทยแล้ว ยังปรากฏเป็นข่าวดังในประเทศจีนและไต้หวันอีกด้วย ทำให้หลายคนหวั่นส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและทำการท่องเที่ยวไทยสะเทือนอีกครั้ง

จากกรณีศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกหมายจับที่ จ.262/2568 ตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวนในคดีอาญาที่ 95/2568 ซึ่งมีการร้องทุกข์จากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีการกล่าวหาว่านายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือที่รู้จักในชื่อ “สส.ปูอัด” จากพรรคไทยก้าวหน้า ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ได้กระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่

สื่อในจีนและไต้หวันรายงานข่าว สส. ไทย ข่มขืนหญิงสาวชาวไต้หวัน
เหตุการณ์นี้นอกจากจะเป็นข่าวโด่งดังในเมืองไทยแล้ว ตอนนี้สื่อในประเทศจีนและไต้หวันก็นำเสนอข่าวนี้เช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ไต้หวันนิวส์ ที่รายงานว่า สื่อไทยต่างรายงานข่าวดังกล่าว โดยตำรวจเชียงใหม่เปิดเผยว่า หญิงไต้หวันวัย 25 ปี ระบุว่า ถูก ส.ส.ปูอัดข่มขืนในโรงแรมแห่งหนึ่งเมื่อเดือนมกราคม หลังจากที่ดื่มด้วยกัน โดยศาลได้ออกหมายจับปูอัดไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทั้งนี้ มีภาพวิดีโอวงจรปิด และ บันทึกทางการแพทย์ยืนยัน

ทั้งยังไต้หวันนิวส์ ยังระบุว่า ภายใต้กฎของรัฐสภาไทย ตำรวจต้องได้รับอนุญาตจากสภาผู้แทนราษฎร จึงจะสามารถจับกุมได้ ตำรวจกล่าวว่าได้ส่งหนังสือไปยังรัฐสภาว่าความล่าช้า อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมของไทย และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

หลังข่าว สส. ไทยข่มขืนสาวไต้หวัน ชาวเน็ตไทยต่างพากันประณามพฤติกรรมอันเลวร้ายของ สส. คนนี้กันเป็นจำนวนมาก รวมถึงต้องการให้ลาออกจากการเป็น สส. เพื่อมาสู้คดีโดยไม่ใช้เอกสิทธิ์ สส. คุ้มครอง

นอกจากนี้หลายคนยังหวั่นว่าเหตุ สส.ไทยข่มขืนสาวชาวไต้หวันอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยวไทย เพราะชาวต่างชาติจะมองว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย อันตราย คนไทยไม่น่าไว้ใจ เพราะแม้กระทั่งคนเป็นถึง สส. ยังกล้ากระทำการขืนใจนักท่องเที่ยว

สื่อในจีนและไต้หวันรายงานข่าว สส. ไทย ข่มขืนหญิงสาวชาวไต้หวัน
สำหรับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ “ปูอัด” ปัจจุบันเป็น สส. กรุงเทพมหานคร เขตจอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม พรรคไทยก้าวหน้า โดยก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นอดีต สส. พรรคก้าวไกล ก่อนถูกขับออกจากพรรคด้วยมติเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เนื่องจากมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ โดยมีผู้เสียหาย 3 รายด้วยกัน ปัจจุบันเป็น สส. หนึ่งเดียวของพรรคไทยก้าวหน้า

อย่างไรก็ดีคดีสส.ไทยข่มขืนสาวชาวไต้หวัน วันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม ซึ่งนายไชยามพวานยืนยันที่จะต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ขณะที่หญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกข่มขืนได้เดินทางกลับไต้หวันไปแล้ว

สื่อในจีนและไต้หวันรายงานข่าว สส. ไทย ข่มขืนหญิงสาวชาวไต้หวัน
ด้าน พันตำรวจเอก ปรัชญา ทิศลา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คดีนี้นักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน อายุ 25 ปี ได้มาแจ้งความเมื่อวันที่ 9 ม.ค.68 ว่าถูกข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งเมื่อรับแจ้งเหตุแล้วได้มีการรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับให้ทราบ และได้มีการสั่งการให้ตั้ง คณะพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมเสนอศาลจังหวัดเชียงใหม่เพื่อขอให้พิจารณาออกหมายจับและได้รับการอนุมัติ โดยจากนี้อยู่ระหว่างการทำหนังสือตามลำดับชั้นเพื่อรายงานไปถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และยืนยันว่าการดำเนินคดีจะทำอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน จะผิดหรือถูกให้ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน

นอกจากนี้ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่เปิดเผยว่า สำหรับนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันที่เป็นผู้เสียหายนั้น เวลานี้ได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว ส่วนที่กรณีที่ทาง ส.ส.ที่ถูกออกหมายจับอ้างว่าผู้เสียหายกับ ส.ส. รู้จักสนิทสนมกันนั้น เบื้องต้นตามที่ทางผู้เสียหายให้การไว้ ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อย่างไรก็ตามรายละเอียดต่างๆนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันได้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำทุกอย่างอย่างรอบคอบในการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานแวดล้อมและนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้หาก ส.ส.ที่ถูกออกหมายจับต้องการจะเข้ามอบตัว ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง

สื่อในจีนและไต้หวันรายงานข่าว สส. ไทย ข่มขืนหญิงสาวชาวไต้หวัน

หนึ่งในคอมเม้นต์น่าสนใจของชาวเน็ตไทย




กำลังโหลดความคิดเห็น