xs
xsm
sm
md
lg

เฮง เฮง รับตรุษจีน ขอพร “3 วัดมังกร” เสริมมงคลปีมะเส็ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ขอพร “3 วัดมังกร” รับตรุษจีน
เฮงๆ ปังๆ รับตรุษจีนปีมะเส็ง ชวนไปไหว้พระขอพรต้อนรับปีใหม่จีน ที่ “3 วัดมังกร” วัดเล่งเน่ยยี่ กรุงเทพมหานคร, วัดเล่งฮกยี่ จ.ฉะเชิงเทรา และ วัดเล่งฮัวยี่ จ.จันทบุรี

“ตรุษจีน” เทศกาลสำคัญคัญของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนเวียนมาอีกครั้ง เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามประเพณีจีน และเป็นวันสำคัญที่คนในครอบครัวจะมารวมตัวกัน

และการเริ่มต้นปีอย่างเป็นมงคล ผู้คนจึงนิยมไปไหว้พระ ขอพรเทพเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคลในการใช้ชีวิตในปีใหม่ ในโอกาสอันดีนี้จึงขอชวนมาขอพรกันที่ “3 วัดมังกร” วัดเล่งเน่ยยี่ กรุงเทพมหานคร, วัดเล่งฮกยี่ จ.ฉะเชิงเทรา และ วัดเล่งฮัวยี่ จ.จันทบุรี

วัดเล่งเน่ยยี่ ย่านเยาวราช
“หัวมังกร” วัดเล่งเน่ยยี่ กรุงเทพมหานคร
“วัดเล่งเน่ยยี่” ย่านเยาวราช ถนนสายมังกรในกรุงเทพมหานคร ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เลือกชัยภูมิที่ตั้งวัดโดยให้เจ้ากรมท่าซ้ายร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวจีนก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2414 ใช้เวลาก่อสร้างถึง 8 ปีจึงแล้วเสร็จและให้ชื่อว่า “วัดเล่งเน่ยยี่” อันมีความหมายคือ เล่ง แปลว่ามังกร เน่ย แปลว่าดอกบัว ยี่ แปลว่าวัด ต่อมาภายหลังรัชกาลที่ 5 พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดมังกรกมลาวาส”

สถาปัตยกรรมของวัดแห่งนี้ก็โดดเด่นด้วยการวางผังแบบวังหลวงแต้จิ๋วโบราณ คือ มีวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ตรงกลางเป็นพระอุโบสถ ข้างหลังพระอุโบสถเป็นวิหารเทพเจ้า การสร้างใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุสำคัญ โดยก่อนจะเข้าสู่วิหารท้าวจตุโลกบาลหน้าประตูทางเข้าทั้งสองด้านมีป้ายคำโคลงคู่มีความหมายว่า ประทุมประทีปส่องสว่างกลางเวหา และมังกรเหินสู่สวรรค์ ณ ถิ่นนี้ ที่วัดแห่งนี้จึงได้ชื่อว่าเปรียบดั่ง “ส่วนหัวของมังกร”

เมื่อเข้าไปภายในวิหารท้าวจตุโลกบาล จะได้พบกับเทพเจ้าที่ปกปักรักษาคุ้มครองทิศต่างๆ ทั้ง 4 ทิศ เป็นรูปหล่อปูนเขียนสีแต่งกายในชุดนักรบจีนถืออาวุธและสิ่งของต่างๆ กัน เช่น พิณ ดาบ ร่ม เจดีย์

พระประธาน 3 องค์ วัดเล่งเน่ยยี่
ส่วนหลังคาวิหารท้าวจตุโลกบาล แสดงโครงสร้างคานขื่อตามแบบแต้จิ๋ว หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาแบบจีนโบราณ มีการประดับตกแต่งอาคารด้วยกระเบื้องตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ประกอบด้วยลวดลายสิริมงคลตามความเชื่อจีน มีการวาดลวดลายและแกะสลักลวดลาย ปิดทองอย่างสวยงาม มีการใช้โมเสกติดผนังทั้งหมด จัดว่าเป็นสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่มีความสมบูรณ์มากแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

ถัดจากวิหารท้าวจตุโลกบาล คือ อุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระประธาน 3 องค์ด้วยกัน คือ พระศากยมุนีพุทธเจ้า คือ พระพุทธเจ้าในปัจจุบันกาล (เจ้าชายสิทธัตถะ), พระอมิตาภพุทธเจ้า เชื่อว่าเป็นอดีตพระพุทธเจ้าอยู่ในดินแดนพุทธเกษตรที่เรียกว่าแดนสุขาวดี, พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์พุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าในอดีตเช่นกัน เชื่อกันว่าท่านอยู่ในดินแดนพุทธเกษตรทางฝั่งทิศตะวันออก ตรงข้ามกับแดนสุขาวดี โดยพระพุทธเจ้าทั้งสามพระองค์นี้ เปรียบเหมือนไตรรัตน์ของฝ่ายมหายาน ด้านหลังอุโบสถมีวิหารบูรพาจารย์และเทพเจ้าต่างๆ ของจีน

ผู้คนที่มาไหว้พระขอพรที่นี่ ก็จะมาจุดธูปขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะในเรื่องของการค้าขาย ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ ที่วัดเล่งเน่ยยี่ ก็ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการแก้ชง ในแต่ละปีก็จะเห็นผู้คนนิยมมาสะเดาะเคราะห์ปีชงกันเป็นจำนวนมาก

ขอพรองค์เทพต่างๆ

วิหารบูรพาจารย์
“ท้องมังกร” วัดเล่งฮกยี่ จ.ฉะเชิงเทรา
“วัดเล่งฮกยี่” ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา วัดนี้ถือเป็นวัดจีนเพียงแห่งเดียวในฉะเชิงเทรา สำหรับแบบแปลนของวัดนี้จะเป็นแบบเดียวกับวัดเล่งเน่ยยี่ และถูกวางตำแหน่งฮวงจุ้ยเป็น “ส่วนท้องของมังกร”

วัดเล่งฮกยี่ สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2449 ซึ่งคำว่า ฮก แปลว่าโชคลาภ วาสนา จึงมักมีคนเรียกวัดแห่งนี้ว่า วัดมังกรแห่งวาสนา ต่อมาเมื่อครั้งรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรี เพื่อทรงเปิดทางรถไฟสายกรุงเทพฯ - ฉะเชิงเทรา ก็ได้พระราชดำเนินทรงเยี่ยมวัดเล่งฮกยี่แห่งนี้ และทรงมีจิตศรัทธาพระราชทานเงินเพื่อบำรุงวัด พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานชื่อให้ใหม่ว่า “วัดจีนประชาสโมสร” อันมีความหมายถึงว่า วัดแห่งนี้เป็นที่ชุมนุมของคนจีน

วัดเล่งฮกยี่ ฉะเชิงเทรา

พระพุทธเจ้า 3 พระองค์ ทำจากเปเปอร์มาเช่
ความโดดเด่นของวัดแห่งนี้อยู่ที่พระประธาน คือ พระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ เหมือนที่วัดเล่งเน่ยยี่ แต่พิเศษตรงที่พระประธานทั้ง 3 พระองค์นี้นำเข้ามาจากเมืองจีนและสร้างขึ้นจากกระดาษทั้งสิ้น หรือที่เรียกว่า “เปเปอร์มาเช่” แล้วปิดทอง ทำให้มีน้ำหนักเบา นอกจากนี้ยังมีรูปหล่อ 18 อรหันต์ ก็ยังทำด้วยกระดาษเช่นกัน และยังเก่าแก่ราว 200 ปีอีกด้วย

ภายในวัดยังมีรูปหล่อเทพเจ้าแห่งโชคลาภ หรือ ไฉ่ซิงเอี๊ย ผู้ที่มากราบไหว้ที่วัดเล่งฮกยี่แห่งนี้ยังนิยมขอโชคลาภ โดยท่องบทสวดของท่าน 3 ครั้ง จากนั้นนำกระเป๋าเงินของเราไปไว้ที่ปากถุงเงินของท่าน ตบก้นถุงของท่าน 3 ครั้งหลังจากนั้นลูบจากก้นถุงขึ้นมายังปากถุง 3 ครั้ง เหมือนเป็นการนำโชคลาภใส่ลงกระเป๋าของเราเอง พร้อมทั้งหยิบเหรียญขวัญถุงมา 1 เหรียญ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการขอโชคลาภ

แต่ก่อนจะออกจากวัดก็ต้องตีระฆังใบยักษ์หล่อจากแต่จิ๋วหนักกว่า 1 ตัน 3 ครั้งก่อน ซึ่งรอบระฆังใบนี้มีอักษรมหาปรัชญาปารมิตาสูตร ถือกันว่าผู้ใดตีระฆังก็เหมือนกับการสวดมนต์บทนี้ ซึ่งจะได้บุญได้กุศลเป็นอย่างมาก

และด้วยความเชื่อที่ว่าวัดแห่งนี้เป็นดั่งส่วนท้องของมังกร ทำให้ผู้ที่มากราบไหว้บูชาจะได้รับพลังส่งผลถึงความอุดมสมบูรณ์ทั้งพืชพรรณธัญญาหาร เจริญรุ่งเรืองมาสู่ตัวเราด้วย

เทพเจ้าแห่งโชคลาภ

ระฆังใบยักษ์
“หางมังกร” วัดเล่งฮัวยี่ จ.จันทบุรี
“วัดเล่งฮัวยี่” ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี โดย ฮัว แปลว่าดอกไม้ วัดแห่งนี้จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดมังกรบุปผาราม” สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2520 เมื่อก้าวย่างเข้าไปภายในจะเจอกับวิหารท้าวจตุโลกบาลเช่นเดียวกับวัดส่วนหัวและส่วนท้องมังกร

เมื่อผ่านวิหารท้าวจตุโลกบาลเข้ามา ก็จะเห็นอุโบสถสถาปัตยกรรมจีนหลังคาซ้อน 3 ชั้น ยอดเป็นรูปเจดีย์ ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธานพุทธเจ้า 3 พระองค์สีทองอร่ามเช่นกับวัดทั้ง 2 ที่ผ่านมา พร้อมด้วยพระสาวกเบื้องซ้ายและขวา คือพระมหากัสสปะ และพระอานนท์

วัดเล่งฮัวยี่ จันทบุรี

อุโบสถสถาปัตยกรรมจีน
ด้านข้างประดิษฐานพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ ผู้เป็นเลิศด้วยมหาปัญญาประทับบนหลังสิงโต อันหมายถึงพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทรงมีพระปัญญาคุณเลิศกว่าหมู่สรรพสัตว์ และพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ ผู้เป็นเลิศด้วยมหาจริยาประทับบนหลังช้างเผือกหกงา หมายถึงบารมีหกที่พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งหลายบำเพ็ญ

โดยรูปเคารพทั้งหลายปิดทองคำเปลวเหลืองอร่ามประดิษฐานภายในซุ้มแบบจีนบนฐานชุกชี ภายในมีลวดลายไม้แกะสลักปิดทองแบบศิลปะจีนอย่างสวยงาม ด้านบนยังมีรูปเคารพเทพเจ้าอีกหลายองค์ให้เคารพบูชาอีกด้วย

บนเส้นทางไหว้พระ 3 วัดมังกรนี้ หากใครมีความเชื่อและศรัทธา ก็เชื่อว่าจะได้รับพลังบุญจากมังกรที่จะช่วยให้ชีวิตต่อจากนี้สุขสมและราบรื่น

พระประธานพุทธเจ้า 3 พระองค์

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น