xs
xsm
sm
md
lg

รู้จัก “โอซาก้า” เจ้าภาพงานระดับโลก “World Expo 2025 Osaka Kansai”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โอซาก้า” เมืองที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก โดยความพิเศษในปี 2025 นี้ เมืองเอกแห่งภูมิภาคคันไซ ยิ่งเป็นที่จับตามองมากขึ้นกว่าเดิมในฐานะการเป็นเจ้าภาพจัดงาน “World Expo 2025”

มาสคอต Expo 2025 กับปราสาทโอซาก้า (Photo: www.expo2025.or.jp)
“Expo 2025”
ญี่ปุ่น เสนอต่อสํานักนิทรรศการนานาชาติ เพื่อสมัครเป็นเจ้าภาพงาน World Expo ปี 2025 โดยเสนอชื่อ “โอซาก้า” กับ “ภูมิภาคคันไซ” เป็นเจ้าภาพจัดงาน นับเป็นการได้รับโอกาสอีกครั้งในรอบ 55 ปีของโอซาก้าอีกด้วย 

โดยก่อนหน้านี้ ในปี ค.ศ.1970 เคยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดงาน World Expo ครั้งแรกของเอเชีย สร้างสถิติมีผู้เข้าร่วมชมมากกว่า 60 ล้านคน ก่อนที่ต่อมาบริเวณงานเอ็กซ์โปถูกเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ และกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของเมือง

ภาพจำลองอาคารในงาน Expo (Photo: www.expo2025.or.jp)

เกาะแห่งความฝัน (Photo: www.expo2025.or.jp)
ในปี ค.ศ.2025 นี้ ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนไปจนถึง 13 ตุลาคม พาวิลเลี่ยนจากทั่วทุกมุมโลกในงาน “World Expo 2025 Osaka Kansai” จะถูกจัดแสดงภายใต้ธีม “การออกแบบสังคมในอนาคตสําหรับชีวิตของเรา" (Designing Future Society For Our Live) เทคโนโลยีล้ำสมัย และความคิดสร้างสรรค์จากหลากหลายสาขาจะถูกนำมารวมกัน

ภาพจำลองงาน Expo  (Photo: www.expo2025.or.jp)
ธีมงาน แบ่งออกเป็น 3 แนวคิดย่อย ได้แก่ 1. Saving Live การปกป้องชีวิตของผู้คน 2. Empowering Live การพัฒนาคุณภาพชีวิต 3. Connecting Live ส่งเสริมความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรม

สำหรับสถานที่จัดงาน เป็นเกาะที่เรียกว่า “ยูเมะชิมะ” (Yumeshima) หรือ เกาะแห่งความฝัน ที่เกิดจากมนุษย์สร้างขึ้นด้วยการถมทะเลในอ่าวโอซาก้าใกล้กับปากแม่น้ำโยโดะ และไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง Universal Studios Japan กับ Osaka Aquarium

ข้อมูล World Expo 2025 Osaka Kansai
https://www.expo2025.or.jp/en

เกาะแห่งความฝัน  (Photo: www.expo2025.or.jp)
ประวัติศาสตร์เมืองโอซาก้า
ประมาณศตวรรษที่ 5 โอซาก้ามีความเจริญรุ่งเรืองในฐานะศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเมืองของญี่ปุ่น “นานิวาซุ” ซึ่งว่ากันว่ามีอยู่ในเขตชูโอ เมืองโอซาก้าในปัจจุบัน เคยเป็นท่าเรือที่เพิ่งเปิดใหม่ในยุคนั้น ถูกใช้เป็นประตูสู่เกาหลี จีน และประเทศอื่นๆในเอเชีย กล่าวกันว่าผู้มาเยือนโอซาก้าจากเอเชียได้นำงานฝีมือล้ำหน้า เทคนิคล้ำสมัยในการทำเซรามิก เทคนิค และอุตสาหกรรมการตีเหล็ก ตลอดจนเทคโนโลยีอื่นๆมากมาย

ด้านศาสนา พุทธศาสนาเผยแพร่ไปยังญี่ปุ่น และเจ้าชายโชโตกุได้สร้าง “ชิเทนโนจิ” (Shitennoji) ในปี ค.ศ. 593 เป็นวัดแห่งแรกของศาสนาพุทธในญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นอย่างเป็นทางการ ในเวลาเดียวกัน โอซาก้าก็เริ่มพัฒนาเป็นเมืองนานาชาติ โดยมีการแลกเปลี่ยนกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย

ปราสาทโอซาก้า
ในปี ค.ศ.645 จักรพรรดิโคโตกุได้ย้ายเมืองหลวงจากนาราไปยังโอซาก้า หลังจากนั้น เมืองหลวงก็เปลี่ยนมาเป็น นางาโอกะเคียว (เกียวโต), เฮโจเคียว (นารา), เฮอันเคียว (เกียวโต), คามาคุระ และเอโดะ (โตเกียว) แม้ว่าเมืองหลวงย้ายไปยังภูมิภาคอื่น โอซาก้าก็ยังคงพัฒนาเป็นเมืองที่สองอย่างต่อเนื่อง และมีบทบาทสำคัญในการแลกเปลี่ยนทางการค้า วัฒนธรรม โดยทำหน้าที่เป็นจุดติดต่อทางการทูตกับประเทศต่างๆ

จนกระทั่งตระกูลโทกุงาวะขึ้นครองอำนาจและศูนย์กลางทางการเมืองได้ย้ายไปที่เอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) จากนั้นญี่ปุ่นก็เข้าสู่ยุคแห่งการโดดเดี่ยวประเทศ โอซาก้าซึ่งกลายเป็นเถ้าถ่านก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากลักษณะนิสัยของชาวโอซากา เติบโตขึ้นอีกครั้งในฐานะเมืองเศรษฐกิจ

เมืองโอซาก้า
ในยุคสมัยแห่งการฟื้นฟูเมจิ เป็นการปฏิรูปที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เมืองหลวงกลายเป็นโตเกียว และโอซาก้าเติบโตขึ้นอย่างมากในฐานะเมืองเศรษฐกิจ ในปลายศตวรรษที่ 19 โอซาก้าได้รับฉายาว่า "เมืองแห่งควัน" (จากอุตสาหกรรม) และเมืองนี้ได้รับสมญานามว่า “แมนเชสเตอร์แห่งตะวันออก”

ในปี ค.ศ.1970 โอซาก้าได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดงาน World Expo ครั้งแรกของเอเชีย ตั้งแต่นั้นมา เมืองยังคงเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ การประชุมระดับนานาชาติ นิทรรศการ และการประชุมระดับนานาชาติทุกประเภทอย่างต่อเนื่อง และการประชุมสุดยอดเอเปกในปี 1995

ย่านโดทงโบริ ศูนย์กลางความคึกคักในโอซาก้า
ครัวของญี่ปุ่น
ในอดีต โอซาก้าซึ่งห่างไกลจากเอโดะ หรือโตเกียว ถูกเรียกว่า “ครัวของชาติ" เหตุผลมาจากสินค้าสำคัญๆ เช่น อาหารและข้าว มักถูกซื้อขายในโอซาก้าบ่อยครั้ง โดยข้าวถูกส่งจากโอซาก้าทั่วประเทศญี่ปุ่น

ส่วนในปัจจุบัน โอซาก้าก็ยังได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งที่ดีที่สุดสำหรับอาหารริมทาง หรือสตรีทฟูดในญี่ปุ่น โดยสารคดีของเน็ตฟลิกซ์ เรื่อง Street Food: Asia ก็มีโอซาก้าเป็นหนึ่งในเมืองที่ถูกนำเสนอ เรียกได้ว่าเมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้าที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีจังหวะ จิตวิญญาณ และความสนุกในการใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง พร้อมสโลแกนอย่างไม่เป็นทางการ คือ kuidaore (กินจนกว่าคุณจะวาง)

ศาลเจ้าฟุชิมิอินะริ เมืองเกียวโต
เที่ยวต่อยอดภูมิภาคคันไซ
เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพ World Expo 2025 แต่ก็พ่วงมาด้วย Kansai อันเป็นภูมิภาคที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่ง ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ สำหรับผู้มาเยือนงาน Expo 2025 จึงไม่พลาดในการใช้ประโยชน์จากระบบรถไฟที่ยอดเยี่ยม ออกไปสำรวจภูมิภาคคันไซ ซึ่งใช้โอซาก้าเป็นจุดศูนย์กลาง สามารถเดินทางได้สะดวกไม่ว่าจะพักค้างคืน หรือแบบไปเช้าเย็นกลับ

“เมืองนารา" เมืองหลวงเก่าที่มีวัดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ขณะที่กวางอันโด่งดังของเมืองออกมาเล่นกับมนุษย์ แม้กระทั่งกินอาหารจากมือ หรือ “เกียวโต” เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยวัดและศาลเจ้าสุดวิจิตร ที่พาย้อนอดีตไปสัมผัสของศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นได้อย่างน่าประทับใจ

ออกจากโอซาก้าไปไม่ไกล ยังมี “ปราสาทฮิเมจิ" ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "นกกระสาสีขาว" เนื่องจากมีลักษณะเหมือนนกที่กำลังบิน รีบไปก่อนที่ราคาเข้าชมจะพุ่งสูงขึ้นในปีหน้า

วัดโทไดจิ เมืองนารา
ส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น