xs
xsm
sm
md
lg

“วัดเตว็ด” วัดร้างสุดอันซีนในอยุธยา ประติมากรรมปูนปั้นหน้าบัน ไทย-ยุโรป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ท่ามกลางทุ่งโล่งเขียวขจี ริมคลองปทาคูจาม ปรากฏอาคารมีเพียงผนังสกัดหน้า เหลืออยู่เพียงด้านเดียว โดดเด่นเห็นชัด คือ “วัดเตว็ด” ที่มีสถานะเป็นวัดร้าง อันเป็นโบราณสถานที่นับเป็นอีกหนึ่งอันซีนอยุธยา

 ผนังสกัดหน้า ซึ่งเหลืออยู่เพียงด้านเดียว
“วัดเตว็ด” ตั้งอยู่ริมคลองปทาดูจาม (คลองคูจามหรือคลองประจาม) ฝั่งทิศตะวันตก ในเขตพื้นที่ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ห่างจากวัดพุทไธสวรรย์มาทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างวัดที่แน่ชัดในเอกสารทางประวัติศาสตร์

ผลจากการดำเนินงานทางโบราณคดีในปี พ.ศ.2558 พบว่าวัดเตว็ดได้ถูกสร้างขึ้นในช่วง พุทธศตวรรษที่ 21-23 โดยมีขอบเขตของวัดแรกเริ่มมีขนาดเล็กกว่าขอบเขตวัดที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน

ปัจจุบันซากที่หลงเหลืออยู่เด่นชัดสุด คือ ผนังสกัดหน้า
โบราณสถานสำคัญภายในวัดประกอบด้วยอุโบสถ, วิหาร และเจดีย์แปดเหลี่ยม รูปแบบศิลปะมอญ ลักษณะรูปแบบแผนผังของวัดวางตัวในแนวทิศตะวันออก - ตะวันตกตามทิศทางของลำคลองปทาคูจาม แต่ปัจจุบันซากที่หลงเหลืออยู่เด่นชัดสุด คือ ผนังสกัดหน้า ซึ่งเหลืออยู่เพียงด้านเดียว

สันนิษฐานว่าในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 23-24 ได้มีการซ่อมสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆภายในวัด พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนทิศทางการวางแนววัดใหม่ และขยายขนาดขอบเขตวัดให้กว้างใหญ่ขึ้นดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน โดยปรากฏหลักฐานผ่านทางรูปแบบศิลปกรรมและโบราณวัตถุที่ร่วมสมัย สำหรับโบราณสถานที่ได้รับการซ่อมสร้างเพิ่มเดิมขึ้นในสมัยนี้ได้แก่อุโบสถ, วิหาร, อาคารตำหนัก, แนวพื้นทางเดินปูอิฐและท่าน้ำก่ออิฐริมคลองปทาดูจาม และฐานโบราณสถานหมายเลข 1-3

ปูนปั้นศิลปะยุโรปผสานกับลายก้านขดนกคาบ
จากหลักฐานอาคารตำหนัก ยกใต้ถุนสูงของวัดเตว็ด สันนิษฐานว่าเป็นพระตำหนักของ “เจ้าฟ้ากรมหลวงโยธาทิพ และ เจ้าฟ้ากรมหลวงโยธาเทพ” ทรงโปรดฯให้สร้างขึ้น ตามที่ปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพระนพรัตน์ วัดพระเชตุพนฯ ที่กล่าวว่าเป็นพระตำหนักที่สร้างไม่ไกลจากวัดพุทไธสวรรย์

สำหรับ ผนังสกัดหน้า ที่ปรากฏเด่นอยู่กลางทุ่งนั้น กรมศิลปากรระบุข้อมูลไว้ว่า ลักษณะเป็นอาคารสองชั้นก่ออิฐถือปูน ยกพื้นมีใต้ถุนสูง เจาะช่องประตูเป็นรูปวงโค้ง ซึ่งนิยมทำในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ใช้ระบบผนังรับน้ำหนักหลังคา หน้าบันก่ออิฐถือปูนแบบ “กระเท่เซ” (ไม่มีไขราหน้าจั่ว) ประดับลวดลายปูนปั้น อิทธิพลศิลปะยุโรปผสานกับลายก้านขดนกคาบแบบไทยได้อย่างลงตัว แสดงอิทธิพลค่อนไปทางยุโรป

ลวดลายปูนปั้นศิลปะยุโรปผสานกับลายก้านขดนกคาบแบบไทย
กล่าวคือ กรอบหน้าบันเป็นลายแบบยุโรป ที่หางหงส์ปั้นเป็นรูปศีรษะบุรุษหันด้านข้างผูกผ้าพันคอ ลายประธานใจกลางหน้าบันเป็นปูนปั้นรูปทิพย์วิมานอย่างยุโรป (อาจหมายถึงเรือนที่ประทับ) และมีลายก้านขดประดับซ้าย-ขวา ใบไม้ที่อยู่ในลายก้านขดคล้ายใบอะแคนตัสของกรีกโบราณ ส่วนก้านแยกเป็นลายนกคาบอย่างไทย ซึ่งพอจะสันนิษฐานได้ว่า เป็นอิทธิพลของศิลปะแบบฝรั่งเศส สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และไทยรับเอาอิทธิพลของศิลปะนี้เข้ามาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ เนื่องจากฝรั่งเศสกับไทยมีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน

หน้าบันก่ออิฐถือปูนแบบ “กระเท่เซ”
ส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น