มหัศจรรย์! “ดอกบัวผุด” เผยโฉมอีกครั้งรับปีใหม่ ที่ อช. ศรีพังงา

ข่าวดีรับปีใหม่หลังพบ “ดอกบัวผุด” เริ่มทยอยเผยโฉมเบ่งบานอีกครั้ง ในพื้นที่ผืนป่าลึกของ อช.ศรีพังงา เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าศรีพังงา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มป่าคลองแสง-เขาสก มรดกธรรมชาติอันล้ำค่าและเป็นป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของประเทศไทย


เฟซบุ๊กเพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์ข้อความว่า ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติได้เผยโฉมอีกครั้งในผืนป่าลึกของอุทยานแห่งชาติศรีพังงา เมื่อเจ้าหน้าที่พบดอกไม้ขนาดยักษ์ "บัวผุด" หรือ "บัวตูม" ทยอยเบ่งบานรับต้นปี 2568 ในพื้นที่ป่าที่ระดับความสูง 500-800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

บัวผุด (Rafflesia kerri) ไม่ใช่ดอกไม้ธรรมดา แต่เป็นพืชกาฝากลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าดิบชื้น โดยอาศัยรากของเถาวัลย์ที่ชาวบ้านเรียกว่า "ย่านไก่ต้ม" เป็นแหล่งอาหาร ก่อนจะผลิดอกขนาดใหญ่โผล่พ้นผิวดินมาอวดโฉมให้ผู้โชคดีได้พบเห็น


การปรากฏตัวของบัวผุดครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความตื่นตาตื่นใจ แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าศรีพังงา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มป่าคลองแสง-เขาสก มรดกธรรมชาติอันล้ำค่าและเป็นป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของประเทศไทย เชื่อมต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาสกและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

การพบดอกบัวผุดครั้งนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่จากธรรมชาติ ที่ย้ำเตือนให้เราเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ผืนป่าและระบบนิเวศอันเปราะบาง เพื่อให้ความมหัศจรรย์เช่นนี้ยังคงอยู่ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมต่อไป


ด้านเฟซบุ๊กเพจอุทยานแห่งชาติศรีพังงา-si phang nga national park ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “บัวผุด” ไว้ว่า

บัวผุด หรือ บัวตูม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Rafflesia kerri) เป็นกาฝากชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่บนรากของพืชเถาจำพวกสกุลเครือเขาน้ำ (Tetrastigma) ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าย่านไก่ต้ม มีลักษณะเด่นที่ดอกซึ่งเป็นดอกเดียวขึ้นจากพื้นดินมีขนาดใหญ่


ดอกบัวผุด พบได้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีพังงา เนื่องด้วยผืนป่าศรีพังงาติดต่อกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือตั้งอยู่ในกลุ่มป่าคลองแสง-เขาสก ซึ่งเป็นกลุ่มป่าดิบชื้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของประเทศไทย


สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline