xs
xsm
sm
md
lg

ปักหมุดเช็กอิน “อุทยานแห่งชาติภูแลนคา” สวรรค์ของคนรักธรรมชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวธรรมชาติสุดอันซีน ห้ามพลาด! “อุทยานแห่งชาติภูแลนคา” จ.ชัยภูมิ แหล่งขุมทรัพย์ที่ตั้งของกลุ่มหินดึกดำบรรพ์อย่าง มอหินขาว รวมถึงจุดชมวิวสวยอย่าง “ผาหัวนาค” มาเปิดประสบการณ์การเดินป่า กางเต็นท์ และชมอาทิตย์ตกดินแบบฟินๆ รับรองถูกใจคนรักธรรมชาติแน่นอน

อุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีเนื้อที่ครอบคลุมพื้นที่ของ 5 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ ได้แก่ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอหนองบัวแดง อำเภอแก่งค้อ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอบ้านเขว้า มีอณาเขตติดกับ อุทยานแห่งชาติตาดโตด และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง ลักษณะภูมิประเทศทั่วไปเป็นภูเขาสลับซับซ้อนและที่ราบสูง


เนื่องด้วยสภาพพื้นที่เทือกเขาภูแลนคาที่มีระดับความสูงประมาณ 300 - 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จึงก่อให้เกิดสภาพป่าไม้ที่หลากหลายถึง 4 ประเภท ได้แก่


1.ป่าเบญจพรรณ เป็นป่าผสมผลัดใบ พบโดยทั่วไปบริเวณหน้าผาด้านทิศเหนือของพื้นที่ ในระดับความสูงประมาณ 300 - 800 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง พันธุ์ไม้ที่พบโดยทั่วไปได้แก่ ตะแบก ประดู่ มะค่าโมง ตีนนก ไม้ไผ่ ฯลฯ


2.ป่าดิบแล้ง เป็นป่าไม้ผลัดใบ พบโดยทั่วไปตามร่องเขาและลำห้วย ในระดับความสูงประมาณ 400 - 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ไทร ตะแบก ประดู่ ตะเคียน ฯลฯ สำหรับไม้พื้นล่างจะพบไม้พุ่มและลูกไม้ป่าขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น


3.ป่าเต็งรัง เป็นป่าโปร่งผลัดใบ พบบริเวณทางตอนใต้ของพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติฯ ขึ้นอยู่ในระดับความสูงประมาณ 300 - 700 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง พันธุ์ไม้ที่พบโดยทั่วไปได้แก่ เหียง เต็ง รัง พะยอม รักใหญ่ ส้าน ฯลฯ ไม้พื้นล่างจะพบไผ่เพ็ก กระเจียวขาว ซึ่งเป็นไม้ประจำถิ่นขึ้นอยู่เป็นกลุ่มๆ ทั่วไป


4.ป่าทุ่งหญ้า เป็นป่าทุ่งหญ้าคาและท่งหญ้าเพ็ก พบโดยทั่วไปในพื้นที่คลอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร

นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ได้แก่ หมูป่า สุนัขจิ้งจอก อีเห็น และนกอีก 57 สายพันธุ์


เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติภูแลนคาแล้ว จะต้องไม่พลาดมาที่จุดไฮไลต์ ชมวิวสวยๆ ที่ “ผาหัวนาค” ซึ่งผาหินที่ที่มีลักษณะคล้ายทรงหัวของพญานาคยื่นออกมาจากภูเขา เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของผืนป่า บ้านเมือง และเทือกเขาต่างๆ ได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งยังเป็นจุดชมทะเลหมอกในช่วงหน้าฝนและหน้าฝนที่สวยงาม


สำหรับความเป็นมาของชื่อ “ผาหัวนาค” เป็นชื่อที่สืบเนื่องมาจากพญานาคชื่อ “นาโค” ที่คอยปกปักรักษาคุ้มครองชาวนครกลางหาวมาตั้งแต่อดีตกาล เมื่อเวลาล่วงเลยมา ปรากฏว่ามีจงอยหินบริเวณหน้าผายื่นออกมาตามทิศทางที่พญานาคนาโคแผ่เศียร นับรวมได้ 7 จุด และมีลักษณะเหมือนกับเศียรพญานาค นับตั้งแต่นั้นมาจึงเรียกขานบริเวณนี้ว่า “ผาหัวนาค”


บริเวณจุดชมวิวผาหัวนาค มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 905 เมตร สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาเพชรบูรณ์ และพื้นที่เบื้องล่าง ของอำเภอหนองบัวแดง และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ได้อย่างเด่นชัด


นอกจากนี้ภายในอุทยานฯ ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติ กับเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ได้แก่

เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอป่า
เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอป่า มีระยะทางประมาณ 1,800 เมตร เป็นเส้นทางเดินทางเดียว ผ่านจุดชมวิวยอป่า จุดชมวิวหลังสัน และจะสิ้นสุดที่จุดชมวิวภูแลนคา ตลอดเส้นทางจะเป็นเต็งรัง จะพบนก และผีเสื้อนานาชนิด


เส้นทางศึกษาธรรมชาติหลังฝาย
เส้นทางศึกษาธรรมชาติหลังฝาย มีระยะทางประมาณ 1,200 เมตร เป็นเส้นทางเดินทางเดียว ตลอดเส้นทางเดินจะเป็นป่าประเภทป่าเต็งรัง และป่าดิบแล้ง มีฐานศึกษาธรรมชาติ เช่น ต้นไทร จอมปลวก จะพบนก และผีเสื้อนานาชนิด จุดสิ้นของเส้นทางคือจุดชมวิวภูแลนคา


เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผากล้วยไม้-หินปราสาท-หินประตูโขลง
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผากล้วยไม้-หินปราสาท-หินประตูโขลง มีระยะทางประมาณ 3,300 เมตร เป็นเส้นทางเดินทางเดียว มีฐานศึกษาธรรมชาติ เช่น ป่าดิบแล้ง จอมปลวก ไลเคน และยังผ่านแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยา ได้แก่ ผากล้วยไม้ หินปราสาท หินประตูโขลงอีกด้วย


และล่าสุด “เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาหัวนาค” เป็นเส้นทางเดินป่าระยะสั้น ระยะทาง 2.66 กิโลเมตร พาดผ่านภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ เป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศจากหินต้นกำเนิดอายุกว่า 125 ล้านปี สัมผัสคุณค่าของป่าถิ่นอีสานที่งดงามและมีเอกลักษณ์ ทั้งยังมีจุดชมวิวที่สวยงามหลายจุด ระหว่างทางจะได้พบกับป้ายข้อมูล ทำให้การเดินป่าเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้น สำหรับเส้นทางเดินนี้ใช้เวลาประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวจะได้เข้าใกล้ธรรมชาติ รับพลังจากผืนป่า และเชื่อมโยงกับนิเวศรอบๆ โดยออกแบบให้มีมาตรฐาน แข็งแรง เดินง่าย และปลอดภัย


นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย เช่น จุดชมวิวภูแลนคา ผากล้วยไม้ หินปราสาท และ น้ำตกพานทอง เป็นต้น รวมถึง “มอหินขาว” กลุ่มหินสีขาวดึกดำบรรพ์ที่ถูกขนานนามว่า “สโตนเฮนจ์เมืองไทย” ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติภูแลนคาเลยก็ว่าได้ สวนหินกลุ่มนี้เกิดจากการสะสมของตะกอนทรายและดินเหนียวจนแข็งตัวกลายเป็นเสาหินรูปทรงแปลกตาทั้งหมด 5 ต้น เดินถัดไปอีกหน่อยก็จะพบกับ “กลุ่มหิมโขลงช้าง” ที่จะมีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปตั้งอยู่ทั่วบริเวณ


อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 09-3093-9193, 0-4410-9786

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น