ปีงูใหญ่ พ.ศ. 2567 จากลา ปีงูเล็ก พ.ศ. 2568 เข้ามาแทนที่
ตามคติความเชื่อในเรื่อง “พระธาตุประจำปีเกิด” ของชาวล้านนาโบราณ เชื่อกันว่าก่อนที่วิญญาณจะมาปฏิสนธิในครรภ์ของผู้เป็นมารดา วิญญาณจะลงมา “ชุธาตุ” ซึ่งหมายถึงการที่ดวงวิญญาณจะลงมาพักอยู่ที่เจดีย์แห่งใดแห่งหนึ่ง โดยมี “ตั๋วเปิ้ง” (สัตว์ประจำนักษัตร) พามาพักไว้ และเมื่อได้เวลา ดวงวิญญาณก็จะเคลื่อนจากพระเจดีย์ ไปสถิตอยู่บนกระหม่อมของผู้เป็นบิดาเป็นเวลา 7 วัน ก่อนที่จะเคลื่อนเข้าสู่ครรภ์ของมารดา และเมื่อเสียชีวิตลงแล้ว ดวงวิญญาณก็จะกลับไปพักอยู่ที่เจดีย์นั้น ๆ ตามเดิม
ด้วยเหตุนี้ชาวล้านนาโบราณจึงเชื่อว่าการมีโอกาสได้ไปกราบสักการะพระธาตุประจำปีเกิดของตนอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต จะเป็นการเสริมสิริมงคลครั้งใหญ่ในชีวิต ได้บุญกุศลสูงล้น เมื่อตายไปดวงวิญญาณจะได้เดินทางกลับสู่พระธาตุองค์นั้น ไม่ต้องเร่ร่อนไปในทุกคติภพ
สำหรับ ปี พ.ศ. 2568 หรือ ค.ศ.2025 ตามความเชื่อเรื่องปีนักษัตร (12 นักษัตร) ปีนี้เป็นปี “มะเส็ง” หรือ ปี “งูเล็ก” ซึ่งชาวล้านนาโบราณเชื่อว่า พระธาตุประจำปีเกิดปีมะเส็งก็คือ “โพธิบัลลังก์ วิหารมหาโพธิเจดีย์” รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย แต่เนื่องจากสถานที่ประดิษฐานโพธิบัลลังก์อยู่ไกล จึงอนุโลมให้ไหว้พระเจดีย์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ซึ่งก็คือ “พระเจดีย์เจ็ดยอด” ที่ “วัดเจ็ดยอด” จ.เชียงใหม่ แทน
วัดเจ็ดยอด หรือ “วัดโพธารามมหาวิหาร” ตั้งอยู่ที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตามประวัติ ผู้สร้างวัดเจ็ดยอดคือ “พระเจ้าติโลกราช” แห่งราชวงศ์มังราย โดยโปรดฯ ให้สร้างพระอารามชื่อ “วัดมหาโพธาราม” หรือ “วัดโพธารามมหาวิหาร” ซึ่งมาจากการที่มีพระเถระชาวลังกานำต้นศรีมหาโพธิ์มาจากประเทศศรีลังกา มาปลูกในบริเวณนี้ และถือว่าต้นศรีมหาโพธิ์เป็นโพธิบัลลังก์ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธองค์
ในบันทึกยังระบุว่าพระเจ้าติโลกราช โปรดฯ ให้ “หมื่นด้ามพร้าคต” เป็นนายช่างใหญ่แม่กองผู้คุมการก่อสร้างพระเจดีย์หลวง ซึ่งได้ไปจำลองแบบมหาวิหารและสถานที่สำคัญเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา 7 แห่งที่เรียก ว่า สัตตมหาสถานจากประเทศอินเดีย แล้วนำมาก่อสร้าง สัตตมหาสถาน ขึ้นที่วัดโพธารามแห่งนี้ โดยมีโพธิบัลลังก์ (ต้นศรีมหาโพธิ์) เป็นศูนย์กลาง
ภายในวัดโพธารามมีสิ่งก่อสร้างสำคัญคือ “มหาวิหาร” หรือ “พระเจดีย์เจ็ดยอด” หรือ “มหาเจดีย์พุทธคยา” ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าติโลกราช ที่มีรูปทรงและลักษณะโดยทั่วไปคล้ายมหาวิหารพุทธคยา ในประเทศอินเดีย มหาวิหารหลังนี้มีโครงสร้างก่อด้วยศิลาแลง ซึ่งแตกต่างไปจากพระเจดีย์และพระธาตุต่าง ๆ ในล้านนาและเมืองเชียงใหม่ที่สร้างด้วยอิฐ
ที่ฐานของมหาวิหารเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นแบบนูนต่ำและกึ่งลอยตัว เป็นรูปเทวดาในอิริยาบถยืนและนั่ง พนมมือคล้ายกระทำทักษิณาวัฏอยู่รอบผนังมหาวิหาร ถือได้ว่าเป็นงานศิลปกรรมปูนปั้นโบราณอันสวยงามคลาสสิกชิ้นสำคัญยิ่งของเมืองเชียงใหม่
ภายในมหาวิหารมีพระประธานหลวงพ่อใหญ่ประดิษฐานอยู่ บนหลังคาของมหาวิหารมีเจดีย์ทั้งหมด 7 องค์ เป็นยอดเจดีย์ 7 ยอด จึงกลายเป็นชื่อวัดที่ชาวบ้านทั่วไปนิยมเรียกกันว่า “วัดเจ็ดยอด” และเรียกมหาวิหารหลังนี้ว่า “เจดีย์เจ็ดยอด”
ในมหาวิหารยังมีทางขึ้นลงเพื่อขึ้นไปสักการะพระเจดีย์ พระเจดีย์องค์ใหญ่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน ส่วนเจดีย์บริวารทั้ง 4 มุมมีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป 4 องค์ และทางทิศตะวันออกของเจดีย์สี่เหลี่ยม ยังมีเจดีย์ทรงระฆังอีก 2 องค์
และเนื่องจากองค์เจดีย์เจ็ดยอดเป็นพระธาตุประจำปีคนเกิดปีมะเส็ง ที่ด้านล่างขององค์พระเจดีย์จึงมากไปด้วยรูปปั้นงูเล็ก (ส่วนมากเป็นงูเห่า) ที่มีผู้นำมาถวายแก้บน
ที่วัดเจ็ดยอดยังมีอีกสิ่งสำคัญ คือ “สัตตมหาสถาน” ซึ่งเป็นการจำลองสถานที่สำคัญเนื่องในพระพุทธประวัติ 7 แห่งมาไว้ในวัดแห่งนี้ ได้แก่ ปฐมโพธิบัลลังก์ อนิมิสเจดีย์ รัตนฆรเจดีย์ มุจจลินทเจดีย์ รัตนจงกลมเจดีย์ อชปาลนิโครธเจดีย์ และ ราชาตนเจดีย์
รวมถึงมี “พระสถูปเจดีย์อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าติโลกราช” ซึ่ง พระยอดเชียง พระราชาธิบดีลำดับที่ 11 แห่งราชวงศ์มังราย เป็นพระนัดดาในสมเด็จพระเจ้าติโลกราช โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นพระราชอนุสาวรีย์ที่ประดิษฐานพระอัฐิพระราชอัยการ คือ พระเจ้าสิริธรรมจักรพรรดิติลภ หรือสมเด็จพระเจ้าติโลกราช เมื่อ พ.ศ.2031
นอกจากนี้ที่วัดเจ็ดยอดยังมีองค์ “พระเจ้าทันใจ” ที่บรรดานักท่องเที่ยวสายมูนิยมมากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก โดยเชื่อว่า “พระเจ้าทันใจ” จะช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ และหนุนส่งให้การงาน การเงิน การค้า เจริญและร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็วทันใจ
นอกจากความสำคัญในเรื่องคติความเชื่อพระธาตุปีเกิดประจำปีมะเส็งแล้ว “วัดเจ็ดยอด” ยังมีความสำคัญในฐานะที่เป็นหนึ่งในโบราณสถานสำคัญของเชียงใหม่ และยังเป็นสถานที่ประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก เมื่อประมาณ 500 กว่าปีก่อน
โดยพระเจ้าติโลกราช โปรดให้มีการทำการสังคายนา ชำระพระไตรปิฎก และอาราธนาพระเถระผู้แตกฉานในพระไตรปิฎกจากทั่วดินแดนล้านนามาร่วมประชุมทำสังคายนาในครั้งนั้น ซึ่งถือว่าเป็นการประชุมสังคายนาที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทยเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งที่ 8 ของโลก (ส่วนใหญ่แล้ว การประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกจะจัดขึ้นในประเทศอินเดียและศรีลังกา) และใช้ตัวอักษรล้านนาจารึกเป็นภาษาพระไตรปิฎกขึ้นเป็นครั้งแรก
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของวัดพระเจ็ดยอด ซึ่งตามคติความเชื่อเรื่องการไหว้พระธาตุประจำปีเกิดของชาวล้านนาโบราณ ผู้ที่เกิดในปีนี้ (68) ที่เป็นปีมะเส็งหรือปีงูเล็กให้มากราบสักการะองค์พระเจดีย์เจ็ดยอดที่วัดเจ็ดยอด ซึ่งเชื่อกันว่าจะได้บุญกุศลสูงล้น ส่วนคนที่เกิดปีนักษัตรอื่น ๆ นั้นหากได้มาไหว้องค์พระธาตุเจ็ดยอดในปีนี้ ก็เชื่อว่าจะได้บุญกุศลใหญ่เช่นเดียวกัน