ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวดีของประเทศไทย เมื่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ประกาศรับรองให้ “เคบายา” เป็นรายการตัวแทน “มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ” ประจำปี 2567 ร่วมกันของ 5 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย เมื่อค่ำคืน ของวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ณ นครอซุนซิออน สาธารณรัฐปารากวัย
สำหรับเคบายา (Kebaya) เป็นวัฒนธรรมการแต่งกาย ประเภท “เสื้อ” ของสุภาพสตรีชาวบ่าบ๋า หรือ เพอรานากัน ที่มีการสืบสานกันมากว่า 300 ปี ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกของไทย และในประเทศอาเซียน ได้แก่ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์
เคบายา เป็นเสื้อคลุมตัวนอกมีชายเสื้อเปิดด้านหน้า ไม่ติดกระดุมแต่จะติดเข็มกลัดเดี่ยวตามช่องหรือพวงเข็มกลัด เคบายาตัดเย็บจากเนื้อผ้าชนิดต่างๆ ที่ให้น้ำหนักเบาสวมใส่สบายและดูสง่างาม ได้แก่ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าลูกไม้ ผ้าเนื้อโปร่ง และมักประดับตกแต่ง ด้วยงานปักหรือฉลุอย่างสวยงาม
ด้วยความประณีต งดงาม สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และประเพณีที่มีร่วมกันของผู้คน และเชื่อมโยงชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ยูเนสโกจึงประกาศรับรองขึ้นทะเบียน “เคบายา” เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ร่วมกันของ 5 ประเทศในอาเซียน บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย
หลังเคบายาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ได้สร้างความยินดีให้กับชาวไทยเชื้อสายจีนฝั่งทะเลอันดามัน หรือชาวบาบ๋า เป็นอย่างมาก เพราะเคบายา เป็นวัฒนธรรมการแต่งกาย ที่มีความประณีต งดงาม สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และประเพณีที่มีร่วมกันของผู้คน และเชื่อมโยงชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีส่วนในการสร้างสันติภาพและความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในภูมิภาค เมื่อได้รับการประกาศแล้วจะช่วยส่งเสริมในเรื่องการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี
อาจารย์จรินทร์ นีรนาทวโรดม ผู้ก่อตั้งชมรมชาวบาบ๋าฝั่งทะเลอันดามัน อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่ยูเนสโก ประกาศให้เคบายา ที่เสนอร่วมกัน 5 ประเทศ คือ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ในชื่อ Kebaya เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567 โดยเคบายาหรือบาบ๋า หรือเพอรานากัน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการแต่งการของชาวไทยเชื้อสายจีนในฝั่งทะเลอันดามัน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
“การที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติในครั้งนี้จะสร้างผลดีต่อการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในพื้นที่ทั้งเรื่องของการแต่งกาย อาหารการกินพื้นถิ่น และอาคารบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยในส่วนของชาวบาบ๋านั้นเตรียมจัดงานฉลองใหญ่ในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค.นี้ ที่ศูนย์การค้า เอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ และในวันที่ 14 ธันวาคม ที่จังหวัดภูเก็ต” อาจารย์จรินทร์กล่าว
ภาพ : อโนทัย งานดี