บรรยากาศสุดชิล ชมวิวต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ “พาสาน” แลนด์มาร์กแห่งนครสวรรค์ รูปแบบของอาคารออกแบบมาเป็นเส้นสายโค้งมาบรรจบกัน ดูคล้ายการรวมตัวกันของแม่น้ำ 4 สาย ปิง วัง ยม น่าน
“นครสวรรค์” หรือเมืองที่รู้จักกันดีในนาม “ปากน้ำโพ” เนื่องจากเป็นศูนย์รวมของแม่น้ำทั้ง 4 สายไหลมาบรรจบกัน คือ ปิง วัง ยม และน่าน อันเป็นจุดกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายสำคัญของประเทศ
เมืองสวรรค์แห่งปากน้ำโพ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น วัดวาอาราม โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงาม รวมถึงมีร้านอาหารให้เลือกลิ้มรสต่างๆ เรียกได้ว่ามีที่เที่ยว ที่กิน อย่างครบครัน
และอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ต้องไปเช็คอินก็คือ “พาสาน” อาคารสัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตั้งอยู่บนเกาะยม ในตัวเมืองนครสวรรค์
แนวคิดการสร้าง “พาสาน” เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 มีแนวทางในการพัฒนาพื้นที่บริเวณเกาะยม ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นที่เกิดปรากฏการณ์แม่น้ำสองสี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยาประจำเมืองนครสวรรค์ โดยมีการประกวดออกแบบเพื่อสร้างสัญลักษณ์ของต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด
การก่อสร้างพาสานเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ และเริ่มเปิดให้เข้าชมได้ในปี พ.ศ.2562
คำว่า “พาสาน” มีที่มาจากคำว่า “ผสาน” โดยการนำพาผู้คนต่างถิ่น ต่างวัฒนธรรม ผสมผสานรวมเป็นหนึ่งเดียว อาคารเป็นสถาปัตยกรรมเชิงสัญลักษณ์ มีลักษณะคล้ายสะพาน แบ่งออกเป็น 4 ส่วน เสมือนแม่น้ำทั้ง 4 สายผสานเป็นหนึ่งเดียว ลักษณะการโค้งนี้เป็นการออกแบบให้อาคารสามารถคงอยู่ในสภาพภูมิประเทศที่จะมีน้ำขึ้นสูงในช่วงฤดูน้ำหลาก สามารถชมความงามของสถาปัตยกรรมแห่งนี้ได้ท่ามกลางสายน้ำ
บริเวณเกาะยมแห่งนี้ เป็นจุดกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญของไทย นั่นก็คือ แม่น้ำเจ้าพระยา ที่เกิดขึ้นมาจากการรวมตัวกันของแม่น้ำ 4 สาย คือ ปิง วัง ยม น่าน โดยแม่น้ำ 2 สายหลัก ได้แก่ แม่น้ำปิง (น้ำปิง จากจังหวัดเชียงใหม่ ไหลผ่านจังหวัดลำพูนมารวมกับ น้ำวัง ที่ไหลมาจาก อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง เป็นแม่น้ำปิง ที่จังหวัดตาก) และแม่น้ำน่าน (น้ำยม ไหลมาจากจังหวัดเชียงราย มารวมกับ น้ำน่าน จากจังหวัดน่าน ที่ปากน้ำเกรียงไกร ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นแม่น้ำน่าน)
แม่น้ำสองสายหลัก ไหลมาบรรจบกันบริเวณแหลมเกาะยม ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จุดนี้จะมองเห็นถึงความแตกต่างของสายน้ำ 2 สี ได้อย่างชัดเจน แม่น้ำน่านจะมีสีแดงขุ่น และแม่น้ำปิงมีสีเขียวคล้ำใส สายน้ำทั้งสองค่อยๆ รวมตัวกลมกลืนเป็นสีเดียวกันจนกลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านอีกหลายจังหวัดก่อนจะลงสู่ทะเลอ่าวไทยที่สมุทรปราการ
รูปแบบของอาคารแห่งนี้ ได้มีการออกแบบมาเป็นเส้นสายโค้งมาบรรจบกัน ดูคล้ายกับการรวมตัวกันของสายน้ำทั้ง 4 สายที่ไหลมารวมกันเป็นหนึ่ง นอกจากนี้อาคารพาสานยังทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้ผู้คนได้ชมการผสานกันของแม่น้ำ โดยมุมมองที่สามารถเห็นแม่น้ำทั้งสองฝั่งไปพร้อมกัน จนมาบรรจบกันที่จุดปลาย อีกทั้งคนที่อยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำยังสามารถมองลอดผ่านโครงสร้างอาคารที่แตะผิวดินน้อยที่สุด ทำให้ความสัมพันธ์ของคนสองฝั่งยังเชื่อมถึงกัน และยังมองเห็นสีของ 2 สายน้ำที่ไหลมารวมกันด้วย
การเดินทางมาที่พาสาน สามารถขับรถมาจอดบริเวณทางเข้าได้เลย หรือ นั่งเรือรับจ้างที่จอดให้บริการอยู่ทั้งสองริมฝั่งแม่น้ำเพื่อข้ามมายังพาสาน
ภายในอาคารตกแต่งด้วยไม้ เป็นทางเดินทอดแนวยาวไปอีกด้านของอาคารได้ มีช่องลมพัดผ่านเข้ามาเป็นระยะๆ หรือจะเดินขึ้นไปด้านบนสุดของอาคาร มีลักษณะคล้ายกับชั้นดาดฟ้า มีกระจกแผ่นใสกั้นอยู่ริมทางเดิน หากเดินไปยังสุดทางเดิน จะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของริมสองฝั่งแม่น้ำ และที่จุดปลายของพาสาน จะมีหมุดสัญลักษณ์ กม.0 ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา
ถ้าใครมาชมพาสานในช่วงเย็น ก็จะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตก และชมความงดงามของต้นน้ำเจ้าพระยา สัมผัสวิถีชีวิตของคนริมนํ้าแห่งปากนํ้าโพ ของนครสวรรค์แห่งนี้
นอกจากนี้ตรงบริเวณสุดทางเดินด้านล่างของตัวอาคาร จะมีลานประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม หากใครไปเที่ยวที่พาสานแล้วก็สามารถเข้ากราบสักการะท่านกันได้
ส่วนที่ชั้นล่างสุดของพาสาน มีนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองปากน้ำโพ เล่าเรื่องความเป็นมาของปากน้ำโพ จนถึงนครสวรรค์ในปัจจุบัน เรื่องราวของแม่น้ำสายสำคัญทั้ง 4 สาย ที่มาบรรจบกันเป็นต้นแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่สำคัญของจังหวัดนครสวรรค์ โดยบอกเล่าผ่านแสงสีเสียงและมัลติมีเดีย
ชมพาสานกันแล้ว ก็สามารถนั่งเรือรับจ้างเพื่อข้ามไปยังศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม โดยตัวศาลเจ้านั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามตลาดปากน้ำโพ
โดยศาลเจ้าแห่งนี้ยังคงโครงสร้างเป็นปูน ตอนกลางเป็นอาคารไม้ดั้งเดิม ภายในนอกจากแท่นบูชาเทพยาฟ้าดินแล้ว ยังมีที่ประดิษฐานองค์เทพเจ้าบ๊นเถ่ากง ด้านขวาเป็นเทพเจ้ากวนอู ด้านซ้ายประดิษฐานเจ้าแม่ทับทิม ที่มีผู้คนเดินทางมากราบไหว้ขอพรบารมีจากเจ้าแม่ให้คุ้มครอง และขอให้มีโชคลาภตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในเทศกาลตรุษจีนจะมีการอัญเชิญองค์เทพเจ้าแห่รอบตลาดปากน้ำโพ เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชา ซึ่งมีการจัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ในทุกๆ ปี
และล่าสุดนี้ บริเวณทางเข้าพาสาน กำลังมีการก่อสร้างอุทยานวัฒนธรรมต้นน้ำเจ้าพระยา ที่จะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของนครสวรรค์ โดยมีไฮไลต์คือ องค์เจ้าแม่กวนอิม 3 ปาง ขนาดความสูง 45 เมตร แกะสลักจากหินแกรนิตสีขาว ซึ่งคาดว่าเมื่อแล้วเสร็จ จะเป็นสถานที่สักการะบูชา และสถานที่ท่องเที่ยวของภูมิภาคในอนาคต
#######################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline