“ประจันตคาม” อำเภอหนึ่งของจังหวัดปราจีนบุรี เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น นับว่ามีเสน่ห์ชวนให้ผู้มาเยือนได้ลองมาค้นหา เพราะมีความน่าสนใจทั้งด้านประวัติศาสตร์ สายมูและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ วัดสวยแปลกตา การเป็นเมืองแห่งน้ำตก รวมทั้งผู้คนที่มีความเป็นมิตร
ชวนมารู้จัก “เมืองประจันตคาม” ในรูปแบบการท่องเที่ยววันเดย์ทริป
นั่งรถไฟไปประจันตคาม
หากนับระยะตามเส้นทางรถไฟสายตะวันออก อ.ประจันตคาม ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 137 กิโลเมตร เท่านั้น สามารถเดินทางไปเที่ยวด้วยรถไฟได้แบบเดย์ทริป ใช้บริการรถไฟชานเมืองสายตะวันออกได้ทุกวัน ทั้งที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง), บางซื่อ, ลาดกระบัง ฯลฯ จากนั้นเหมารถตุ๊กๆในท้องถิ่น เพื่อนำเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆในเมืองได้
นอกจากนี้ ในบางโอกาส “การรถไฟแห่งประเทศไทย” ยังจัดทริปรถไฟขบวนพิเศษด้วยหนึ่งในรถไฟนำเที่ยวขวัญใจมหาชนอย่าง “รถไฟ KIHA 183” ซึ่งจัดเต็มทั้งกิจกรรมนำเที่ยว พร้อมบริการอาหาร เครื่องดื่ม อิ่มไปทั้งวัน แบบวันเดย์ทริป โดยกิจกรรมท่องเที่ยวด้วยรถไฟขบวนพิเศษ มีการสลับปรับเปลี่ยนโปรแกรมไปในแต่ละเดือน
อัปเดตข้อมูลรถไฟนำเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.railway.co.th หรือ โทร.1690
สำรวจครัวยามเช้า
หากเดินทางมาถึงประจันตคามตั้งแต่เช้า แนะนำให้ลองเตร็ดเตร่ไปสำรวจบรรยากาศวิถีชีวิตซึ่งมีเสน่ห์แบบไม่ต้องปรุงแต่งใดๆที่ “ตลาดสดเทศบาลประจันตคาม” ตลาดเก่าแก่แหล่งค้าขายยามเช้าที่ละลานตาไปด้วยของอร่อย อาหารคาวหวาน และของฝาก
ตลาดแห่งนี้ เสมือนครัวยามเช้าของชาวเมือง ขายตั้งแต่ก่อนรุ่งสางไปจนถึงช่วงสายๆ เดินเท้าไปจากสถานีรถไฟได้ไม่กี่ร้อยเมตร ซึ่งนอกจากได้บรรยากาศตลาดแบบต่างจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ของท้องถิ่นแล้ว ยังมีจุดเด่นเป็นรอยยิ้มของพ่อค้าแม่ค้าที่ทักทายผู้มาเยือนด้วยมิตรไมตรี
วัดแจ้ง (เมืองเก่า) วัดประวัติศาสตร์ของเมือง
วัดแห่งแรกของอำเภอประจันตคาม เป็นวัดที่มีส่วนสำคัญเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งของไทย กล่าวคือ ตามหลักฐานจารึกในปี พ.ศ.2369 รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เจ้าอนุวงศ์เป็นกบฏ ยกทัพมาตีนครราชสีมา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแต่งตั้งให้เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นแม่ทัพยกไปตีเวียงจันทน์ปราบกบฏ
เมื่อตีได้แล้วก็อพยพครอบครัวบางส่วนจากเวียงจันทน์เข้ามายังสยาม ในจำนวนแม่ทัพนายกองที่เข้ามานั้น มี “ท้าวอุเทน” บุตรท้าวสร้อย ซึ่งเป็นแม่ทัพที่คอยควบคุมดูแลเมืองแสนของเวียงจันทน์อยู่ด้วย ท้าวอุเทนได้นำไพร่พลที่ถูกอพยพมาตั้งกองรวมกันเป็นหมู่บ้านใหญ่ในพื้นที่อำเภอประจันตคาม ซึ่งเป็นบริเวณวัดแจ้งในปัจจุบันนั่นเอง โดยท้าวอุเทนนิมนต์ “หลวงพ่อคำหล้า” ภิกษุที่นับถือมาด้วย เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณวัด ก็เป็นเวลาสว่างพอดี จึงเป็นที่มาของชื่อ “วัดแจ้ง”
ต่อมาเมืองประจันตคาม สถาปนาขึ้นในปี พ.ศ. 2376 โดยมีท้าวอุเทน เป็นเจ้าเมืองคนแรกได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “หลวงภักดีเดชะ” ว่าราชการได้สองปีเศษ เกิดศึกญวนมาตีกรุงพนมเปญซึ่งเป็นเมืองขึ้นของสยามในสมัยนั้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นแม่ทัพ พร้อมทั้งเกณฑ์ไพร่พลจากประจันตคาม พนัสนิคม และกบินทร์บุรี รวมกันเป็นกองทัพหน้า ยกไปสู้รบข้าศึกญวนอยู่ประมาณ 3 ปีเศษ จึงขับไล่ญวนออกไป
เจ้าเมืองทั้งสามผู้ร่วมรบ มีความชอบในราชการ เมื่อกลับมาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระ” ในนามเดิมทั้ง 3 ท่าน เจ้าเมืองประจันตคามจึงเป็น “พระภักดีเดชะ” (ท้าวอุเทน)
ต่อมาอีกประมาณ 1 ปี ญวนได้หวนกลับมาตีเมืองพนมเปญอีกครั้ง พระภักดีเดชะ (ท้าวอุเทน) ได้นำกำลังชาวเมืองประจันตคามเข้ากองทัพร่วมกับเจ้าเมืองกบินทร์บุรี โดยในการไปราชการทัพครั้งนี้ พระภักดีเดชะ (ท้าวอุเทน) ได้นำกำลังพลเข้ารบกับข้าศึกจนสุดความสามารถข้าศึกญวนล้มตายเป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นการศึกครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์แห่งการสู้รบ แต่ในที่สุด ด้วยการรบอย่างอาจหาญ พระภักดีเดชะได้เสียชีวิตในสนามรบ
แม้กาลเวลาผ่านมานับร้อยปีชาวประจันตคามยังกล่าวถึงและเคารพสักการะพระภักดีเดชะไม่เสื่อมคลาย ในฐานะที่ท่านได้เป็นผู้ก่อตั้งเมือง และเป็นผู้ประกอบกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่บ้านเมือง ปัจจุบันศพพระภักดีเดชะฝังอยู่ที่วัดแจ้ง และมีรูปเคารพของท่านประดิษฐานอยู่ภายในวัด
วัดแจ้ง (เมืองเก่า) ยังมีสถานที่สำคัญอีกเป็นจำนวนมาก เช่น หอประชุมหอวชิราลงกรณ์ ในการมานมัสการสักการระพระบรมสารีริกธาตุ ,สถานที่ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ เคยเสด็จมาประทับ รวม 2 ครั้ง ในสมัยที่พระองค์ทรงเป็นพระสยามมกุฎราชกุมาร, พิพิธภัณฑ์บูรพาจารย์ 4 ภาค ที่รวบรวมหุ่นขี้ผึ้งพระอริยสงฆ์ทั้งหมดของปราจีนบุรี เป็นต้น
ท้าวเวสสุวรรณใหญ่ระดับประเทศ
อีกหนึ่งไฮไลต์ของ วัดแจ้ง (เมืองเก่า) ในปัจจุบัน คือ รูปปั้น “ท้าวเวสสุวรรณ” ซึ่งปั้นในรูปแบบยักษ์ไทย มีความวิจิตรสีทองอร่าม และมีความสูง 18 เมตร นับเป็นหนึ่งในองค์ท้าวเวสสุวรรณที่สูงใหญ่ระดับประเทศ สร้างโดยนิมิตจากเจ้าอาวาส และมีเหตุฟ้าผ่าลงมาที่แผ่นศิลาฤกษ์
“ท้าวเวสสุวรรณ” องค์นี้ประดิษฐานบริเวณลานกลางแจ้งด้านหลังวัด ผู้คนมักบูชาขอพรเรื่องโชคลาภหน้าที่การงาน และเรื่องค้าขายที่ดิน โดยบูชาด้วยดอกกุหลาบแดง 9 ดอก ธูป 9 ดอก เทียน และน้ำแดง
วัดโคกอู่ทอง วัดไทยมณฑปสไตล์เรอเนสซองส์
หนึ่งในอันซีนประจันตคาม ต้องเดินทางไปที่ “วัดโคกอู่ทอง” ซึ่งเดิมเป็นวัดที่จำพรรษาของ “หลวงพ่อโสฬส ยโสธโร” พระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายเครื่องรางของขลังที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย จนกระทั่งท่านมรณภาพไปแล้วสรีระสังขารก็ไม่เน่าเปื่อย ถูกเก็บรักษาไว้ในโลงแก้วภายในมหามณฑปที่วิจิตรตระการตาอันโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนสซองส์แบบตะวันตก
มหามณฑปพระครูธำรงโพธิเขต (โสฬส ยโสธโร) มีความงดงามแบบโบสถ์ขนาดใหญ่ในตะวันตกคล้ายศาสนาคริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ แต่ยังมีกลิ่นอายของศาสนาพุทธผสมผสานอย่างลงตัว โดยภายในใช้หลักออกแบบโครงสร้างเป็นศูนย์รวมพลังจักรวาล “หยิน-หยาง” เชื่อมโยงกับหลักอิทธิบาทสี่ของพุทธศาสนา
ด้านหน้ามหามณฑป มีรูปหล่อองค์หลวงปู่โสฬสประดิษฐานให้ผู้มาเยือนได้สักการะ ส่วนภายในนั้นอลังการคล้ายมหาวิหารตะวันตก แต่ตกแต่งประยุกต์เป็นแนวพุทธศาสนา เช่น กระจกสีที่เป็นรูปเหรียญรุ่นต่างๆของหลวงพ่อโสฬส โดยสิ่งสำคัญที่สุด คือ สรีระสังขารของ “หลวงพ่อโสฬส ยโสธโร” ที่รักษาไว้
ภายในมหามณฑล ยังมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ กับ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ ประดับตกแต่งสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้สักการะ
เติมความสดชื่นที่ “น้ำตกสาวน้อย -แก่งคลองช้างคลาน”
กล่าวกันว่าประจันตคามเป็นอำเภอที่มีน้ำตกมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีน้ำตกเล็ก น้ำตกน้อย เป็นสายน้ำที่แตกแขนงสาขามาจากผืนป่ามรดกโลกเขาใหญ่ จึงนับเป็นจุดหมายที่มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติให้พักผ่อนหย่อนใจ เหมาะแก่การเที่ยวปิดท้ายเดย์ทริป หรือหากใครมีข้อจำกัดเรื่องเวลา ก็อาจจะแค่แวะมารับประทานอาหาร ฟังเสียงสายน้ำธรรมชาติไหลรินบริเวณริมน้ำตกก็ได้
หนึ่งในน้ำตกที่อยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมต่อจากวัดโคกอู่ทองไม่ไกล แนะนำ “น้ำตกสาวน้อย” ธารน้ำขนาดพอดีๆ ที่เหมาะแก่การพักผ่อน เล่นน้ำ เช็กอินถ่ายรูป หรืออยากเพิ่มความครึกครื้นอีกสักนิด ก็เดินมาบริเวณที่เรียกว่า “แก่งคลองช้างคลาน” ซึ่งเป็นสายน้ำเชื่อมต่อกันมา และเป็นจุดเล่นน้ำที่ปลอดภัย มีอุปกรณ์ต่างๆให้เช่า เป็นจุดที่มีร้านค้าร้านอาหารครบครัน จึงเป็นที่นิยมจากทั้งชาวท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยว “อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี”
ททท.สำนักงานนครนายก เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/tatnayokfans
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline