“สวิตเซอร์แลนด์” เป็นหนึ่งในดินแดนในฝันของนักเดินทางทั่วโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยากไปเยือนสักครั้งหรือหลาย ๆ ครั้ง
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีภาพจำที่ตราตรึงใจใครหลาย ๆ คน เป็นทัศนียภาพแห่งขุนเขาอันสวยงามตระการตาติดอันดับต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะ “ยอดเขายุงเฟรา” อันงดงามโรแมนติก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดดักฝันของนักท่องเที่ยว กับกิจกรรมขึ้นกระเช้าสุดล้ำและนั่งรถไฟสายคลาสสิกสู่ "ยุงเฟรายอค Top of Europe” ที่ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การเดินทางอันน่าตื่นตาตื่นใจกระไรปานนั้น
ยุงเฟราพื้นที่มรดกโลก
“ยอดเขายุงเฟรา” (Jungfrau) หรือ “ยุงเฟรายอค” (Jungfraujoch) หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า “จุงเฟรา” เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ในรัฐแบร์น (เบิร์น) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ยุงเฟรายอคมีลักษณะโดดเด่นของธารน้ำแข็งสุดอลังการที่ยาวที่สุดในยุโรปกว่า 22 กิโลเมตร จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก “Swiss Alps Jungfrau-Aletsch” จากองค์การ UNESCO ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 ถือเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป
ยอดเขายุงเฟรามียอดสูงสุดสูง 4,158 เมตรจากระดับน้ำทะเล ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Top of Europe” บริเวณยอดเขามีหิมะปกคลุมขาวโพลนตลอดทั้งปี ขณะที่ยอดเขาใกล้ ๆ กัน ที่มองเห็นเป็นเขา 3 ยอดสูงโดดเด่นไล่เรียงเคียงกัน คือยอดเขา “เมิ้นซ์” (Mönch) สูง 4,107 เมตร และยอดเขา “ไอเกอร์” (Eiger) สูง 3,970 เมตร จากระดับน้ำทะเล
นอกจากทัศนียภาพอันงดงามตระการตาปานประหนึ่งภาพฝันแล้ว บนยอดเขายุงเฟรา ยังเป็นที่ตั้งของสถานี “ยุงเฟรายอค” (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1912
รถไฟสายคลาสสิก
นับจากอดีตเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วมาจนถึงปัจจุบัน การขึ้นไปพิชิตยอดเขายุงเฟรามีเส้นทางหลักคือการนั่งรถไฟสายคลาสสิกของ “การรถไฟยุงเฟรา”(Jungfrau Railways) จาก 2 เมืองประตูสู่งยอดยุงเฟรา คือ เมือง “กรินเดิลวาลด์” (Grindelwald) และ “เลาเทอร์บรุนเนน” (Lauterbrunnen)
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่พักหรือมาเที่ยวที่เมือง “อินเทอร์ลาเกน” (Interlaken) ยังสามารถนั่งรถไฟจากสถานี “อินเอร์ลาเกน โอสต์” (Interlaken-Ost) แล้วไปต่อรถไฟที่เมืองกรินเดิลวาลด์หรือเมืองเลาเทอร์บรุนเนนขึ้นสู่ยุงเฟรายอคได้ตามใจชอบ
ทั้ง 2 เส้นทางจะมีทัศนียภาพความงามระหว่างทางที่แตกต่างกันออกไป แต่สุดท้ายจะไปบรรจบกันที่สถานี “ไคลเน่ ไชเดก์ก” (Kleine Scheidegg) เพื่อเปลี่ยนเป็นรถไฟสีขบวนแดง ซึ่งที่สถานีแห่งนี้มีร้านอาหารให้บริการ รวมถึงมีวิวสุดแจ่มที่สามารถมองเห็นยอดเขายุงเฟราที่มีหิมะปกคลุมขาวโพลนตั้งตระหง่านในเบื้องหน้าแบบใกล้ตา แต่ไกลตีน
จากสถานีไคลเน่ ไชเดก์ก ขบวนรถไฟสายสีแดงจะแล่นไต่ขุนเขาพาเราขึ้นสู่ยุงเฟรายอค ระหว่างทางนอกจากขบวนรถไฟจะวิ่งผ่านวิวงามขั้นเทพของเทือกเขาแอลป์แล้ว ช่วงหนึ่ง (ยาว ๆ) รถไฟจะแล่นทะลุอุโมงค์ใต้ภูเขาไอเกอร์ และภูเขาเมิ้นซ์ เป็นระยะทางราว 7.3 กิโลเมตร
จากนั้นรถไฟจะไปหยุดชั่วครู่ (ประมาณ 5 นาที) ที่สถานี “ไอสเมียร์” (Eismeer) บนความสูง 3,160 เมตร ให้นักท่องเที่ยวลงแวะชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมะ ผ่านกระจกบานใหญ่ก่อนเดินทางขึ้นสู่สถานียุงเฟรายอคต่อไป
กระเช้าลอยฟ้าสุดล้ำ
สำหรับอีกหนึ่งวิธีในการขึ้นสู่งยุงเฟรายอคซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่แพ้กันนั่นก็คือ การนั่งกระเช้า “ไอเกอร์เอ็กซเพรส” (Eiger Express) จากสถานี “กรินเดิลวาลด์เทอร์มินัล” (Grindelwald Terminal) เพื่อย่นระยะทางและเวลา ก่อนจะไปต่อรถไฟสายสีแดงขึ้นสู่ Top of Europe ต่อไป
ไอเกอร์เอ็กซเพรส นอกจากจะเป็นกระเช้าลอยฟ้า 3 สายสุดล้ำที่ทันสมัยที่สุดในยุโรปแล้ว ยังมีนโยบายเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเน้นการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ภายในห้องโดยสารขนาดใหญ่ของกระเช้าไอเกอร์เอ็กซเพรส (1 คัน) สามารถบรรจุนักท่องเที่ยวได้ 26 ที่นั่ง ปัจจุบันมี 44 คัน รวมถึงมีกระเช้า V.I.P. (หมายเลข 888) สุดหรู 8 ที่นั่ง เปิดให้บริการเพียงคันเดียวในโลกเท่านั้น
กระเช้าไอเกอร์เอ็กซเพรสทุกคัน มีการติดตั้งเครื่องควบคุมอุณหภูมิ เพื่อไม่ให้กระจกเกิดไอน้ำเป็นฝ้า จึงสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามน่าทึ่งของภูเขา “ไอเกอร์ นอร์ธเฟส”บนความสูงกว่า 1,800 เมตรระหว่างทางได้อย่างสวยงามกว้างไกลแบบรอบทิศทาง ถือเป็นอีกหนึ่งภาพงามแห่งความทรงจำที่แม้เราจะใช้เวลานั่งกระเช้าขึ้นเขาเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม
เส้นทางนั่งกระเช้าไอเกอร์เอ็กซเพรสมีระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร มีเสา 7 ต้น ใช้เวลานั่งประมาณ 15 นาที จากสถานีกรินเดิลวาลด์เทอร์มินัลนั่งขึ้นสู่สถานี “ไอเกอร์เกลตเชอร์”(Eigergletscher) เพื่อไปต่อรถไฟ ขึ้นสู่ยุงเฟรายอคต่อไป (ซึ่งช่วยย่นเวลาการเดินทางจากเดิมได้ 47 นาที)
สฟิงซ์ ภาพจำคู่ยุงเฟรา
ไม่ว่าจะนั่งรถไฟเพียว ๆ หรือนั่งกระเช้าขึ้นมาต่อรถไฟ สุดท้ายแล้วก็จะขึ้นมาถึงยังยอดเขายุงเฟรา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานี “ยุงเฟรายอค” (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปตั้งอยู่บนความสูง 3,454 เมตรจากระดับน้ำทะเล
บริเวณสถานียุงเฟรายอคที่ถือเป็นจุดไฮไลต์นั้นมีสิ่งน่าสนใจให้เที่ยวชมกันหลากหลาย นำโดยไฮไลต์ คือ “ระเบียงชมวิวสฟิงซ์” (Sphinx) ที่ให้ความตื่นเต้นตั้งแต่แรกขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวจะต้องขึ้นลิฟต์คู่ที่เร็วที่สุดในสวิส ใช้เวลาประมาณ 25 วินาที/เที่ยว ในระยะทางความสูง 110 เมตร สู่จุดชมวิวของอาคารแห่งนี้
สฟิงซ์ เป็นสถานีวิจัยทางวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ ตั้งอยู่บนความสูง 3,571 เมตร โดยมีหอดูดาวรูปโดมเป็นองค์ประกอบสำคัญในภาพจำอันโดดเด่นของยอดเขายุงเฟราแห่งนี้
ระเบียงชมวิวสฟิงซ์เป็นจุดชมทิวทัศน์เลื่องชื่อแห่งยุงเฟรายอค ในวันที่ฟ้าเปิดแจ่มใส สามารถมองวิวเห็นวิวของธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ได้อย่างสวยงามกว้างไกล
ส่วนในวันฟ้าปิดเบื้องหน้าก็จะดูขาวโพลนเห็นใกล้แค่ไม่กี่เมตร แถมบางวันยังมีสายลมแรง ๆ พัดหอบเอาละอองหิมะมาปะทะใบหน้าอย่างเย็นยะเยียบ ให้สัมผัสที่แตกต่างออกไปจากวันฟ้าเป็นใจไม่น้อยเลย
...แต่นี่ใยมิใช่เสน่ห์ของการเที่ยวธรรมชาติที่เรามิอาจคาดเดาได้ เพราะมนุษย์ต่อให้ยิ่งใหญ่คับฟ้า ร่ำรวยล้นฟ้า หรือเก่งกล้าผิดมนุษย์แค่ไหน ก็มิอาจเอาชนะธรรมชาติได้...
ยุงเฟรายอค Top of Europe
นอกจากสฟิงซ์แล้ว บนยุงเฟรายอคยังมี “ลานหิมะ” หรือ “เนินพลาโต” (Plateau) เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลต์ในการออกไปชมวิวและสัมผัสกับหิมะบนยุงเฟรายอคแบบจัดเต็ม
บนนี้จะเป็นลานหิมะกว้างให้นักท่องเที่ยวออกไปเดินชมวิวของยอดเขายุงเฟรา พร้อมกับจุดถ่ายรูปหลายมุมมอง รวมถึงจุดถ่ายรูปคู่กับธงชาติสวิสที่พัดพลิ้วปลิวไสว ซึ่งได้มีการชักธงขึ้นบนเนินพลาโตเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1912 ในวันเปิดทำการของขบวนรถไฟยุงเฟรา
ในวันที่ฟ้าเปิดเป็นใจบนจุดชมวิวเนินพลาโตสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมะแห่งเทือกเขาแอลป์อันสลับซับซ้อนได้อย่างเต็มตา และเห็นไปไกลถึงฝรั่งเศส อิตาลี และเยอรมนีเลยทีเดียว
จากไฮไลต์ที่เที่ยวกลางแจ้ง เปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสกับที่เที่ยว Man Made ในภูเขาลูกนี้กันบ้าง เริ่มจาก “อุโมงค์โลกอัลไพน์” (Alpine Sensation) ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจไปกับภาพ แสง สี เสียง และประติมากรรมต่าง ๆ ที่นำเสนอเรื่องราวการบุกเบิกเส้นทางรถไฟเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว และการท่องเที่ยวบนยอดเขายุงเฟราตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ขณะที่ “ไอซ์พาเลซ” (Ice Palace) หรือ “ถ้ำน้ำแข็งพันปี” นั้นก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ต้องห้ามพลาดบนยุงเฟรายอค กับนวัตกรรมการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึกลงไปราว 20-30 เมตร ตั้งแต่ ปี ค.ศ 1934
ปัจจุบันไอซ์พาเลซเป็นอุโมงค์น้ำแข็ง อันสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ มีงานแกะสลักน้ำแข็งหลากรูปแบบหลายสไตล์ให้เดินชม รวมถึงมี “ไอซ์บาร์” (Ice Bar) สุดไพรเวทกับบริการเครื่องดื่มสูตรลับที่โดนใจบรรดาสายดื่มไม่น้อยเลย
นอกจากที่เที่ยวจุดไฮไลต์ต่าง ๆ ตามที่กล่าวมาแล้วบนยุงเฟรายอคยังมี ตู้ไปรษณีย์และร้านช็อกโกแลตที่สูงที่สุดในยุโรป ร้านขายนาฬิกาที่สูงที่สุดในโลก และภัตตาคารคริสตัล ชวนอิ่มอร่อยไปพร้อม ๆ กับชมวิวแบบพาโนรามาของภูเขาน้ำแข็งแห่งเทือกเขาแอลป์
ส่วนในช่วงระหว่างเดือน พ.ค. – ต.ค. บริเวณยุงเฟรายอคจะมีกิจกรรมกลางแจ้ง “สโนว์ฟัน” บนลานหิมะ ไม่ว่าจะเป็น สกี สโนว์บอร์ด จานเล่นหิมะ (Snow Disk) เหินเวลากับเครื่องเล่น “ทิโรเลียน” (Tyrolienne) หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “จิ้งจอกสายฟ้า” โดยผู้เล่นจะโรยตัวผ่านธารน้ำแข็งที่สะท้อนแสงอาทิตย์แวววาวกับสายเคเบิลความยาวกว่า 200 เมตร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนุกตื่นเต้นไม่น้อยเลย
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ (บางส่วน) ของยอดเขายุงเฟรา หรือยุงเฟรายอค ขุนเขาเลื่องชื่อแห่งสวิตเซอร์แลนด์ โดยคำว่ายุงเฟรา ในภาษาเยอรมันมีความหมายว่า “หญิงสาวพรหมจรรย์” หรือ “สาวน้อย” ซึ่งคนสมัยก่อนเปรียบขุนเขาลูกนี้เป็นดังสาวน้อยที่บริสุทธิ์แสนงาม
สำหรับผมหลังจาก (เคย) มีโอกาสได้ขึ้นไปพิชิตยุงเฟรายอค Top of Europe ก็ขอยกให้ขุนเขาแห่งนี้เป็นดัง“ สาวน้อยมหัศจรรย์” ที่มีความงดงามตราตรึงทั้งในระหว่างทางและจุดหมายปลายทาง นับเป็นอีกหนึ่งจุดดักฝันของนักเดินทางที่หากใครได้มาสัมผัสต่างก็ประทับใจ...ยากที่จะลืมเลือน
##################
“KTC World” จับมือ “การรถไฟยุงเฟรา” (Jungfrau Railways) และ “เตอร์กิช แอร์ไลนส์” (Turkish Airlines) จัดโปรโมชั่นเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ พิชิต “ยอดเขายุงเฟรา” ราคาพิเศษกับตัวเลือกที่หลากหลาย โดยสามารถสอบถามได้ที่ KTC World Travel Service โทร. 0-2 123-5050 หรือทักแชท https://ktc.cards/KWT-addline-FB ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 22.00 น. หรือ ดูที่ www.jungfrau.ch