วัดงามเมืองลำปาง สรงน้ำ “พระธาตุลำปางหลวง” ชมอันซีน “เงาพระธาตุ”

ชวนทำบุญช่วงปลายปี สรงน้ำ “พระธาตุลำปางหลวง” ที่ วัดพระธาตุลำปางหลวง ชมอันซีน “เงาพระธาตุ” อันลือเลื่อง สักการะ “พระแก้วดอนเต้า” พระพุทธรูปคู่เมืองลำปาง


ใครที่มาเยือนเมือง “ลำปาง” หนึ่งในสถานที่ที่ต้องมาให้ได้สักครั้งก็คือ “วัดพระธาตุลำปางหลวง” มาสักการะองค์พระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล

ซึ่งที่นี่ก็ไม่ได้มีเพียงแค่องค์พระธาตุลำปางหลวงเท่านั้น แต่ยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่ และศิลปะแบบโบราณที่งดงาม จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของลำปางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

“วัดพระธาตุลำปางหลวง” ตั้งอยู่ใน อ.เกาะคา ห่างจากตัวเมืองลำปางราว 18 กิโลเมตร เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตามตำนานกล่าวว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีในราวพุทธศตวรรษที่ 20


ตามตำนานกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระเถระสามองค์ได้เสด็จจาริกไปตามบ้านเมืองต่างๆ จนถึงบ้านลัมภะการีวัน หรือบ้านลำปางหลวงปัจจุบัน พระพุทธเจ้าได้ประทับเหนือดอยม่อนน้อย มีชาวลัวะคนหนึ่งชื่อลัวะอ้ายกอนเกิดความเลื่อมใส ได้นำน้ำผึ้งบรรจุกระบอกไม้ป้าง มะพร้าว และมะตูมมาถวาย พระพุทธองค์ได้ฉันน้ำผึ้งแล้วทิ้งกระบอกไม้ป้างไปทางทิศเหนือ แล้วทรงพยากรณ์ว่า สถานที่แห่งนี้ต่อไปจะมีชื่อว่าลัมพกัปปะนคร

แล้วได้ทรงลูบพระเศียรได้พระเกศามาหนึ่งเส้น มอบให้แก่ลัวะอ้ายกอนผู้นั้น ลัวะอ้ายกอนได้นำพระเกศานั้นบรรจุในผอบทองคำ และใส่ลงในอุโมงค์พร้อมกับถวายแก้วแหวนเงินทองเป็นเครื่องบูชา แล้วแต่งยนต์ผัด (ยนต์หมุน) รักษาไว้ ถมดินให้เรียบเสมอกันแล้วก่อเป็นพระเจดีย์สูงเจ็ดศอกเหนืออุโมงค์นั้น ในสมัยต่อมาได้มีกษัตริย์เจ้าผู้ครองนครลำปางอีกหลายพระองค์มาก่อสร้างและบูรณะซ่อมแซมจนกระทั่งปัจจุบัน




เมื่อมาถึงด้านหน้าวัด จุดแรกที่จะเห็นก็คือ “บันไดนาค” กับพญานาคงานปูนปั้นสีขาวเด่นรูปทรงเฉพาะตัว ที่ทอดนำไปสู่ “ซุ้มประตูโขง” อันสวยงามสุดคลาสสิค ได้ชื่อว่าเป็นซุ้มประตูโขงวัดโบราณที่สวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

ขึ้นมาด้านบนแล้วก็จะพบกับ “พระวิหารหลวง” ซึ่งมีลักษณะเป็นวิหารโถงไม่มีผนังตามแบบล้านนายุคแรก มีกู่พระเจ้าล้านทอง หรือเจดีย์ทรงปราสาทที่ภายในประดิษฐาน “พระเจ้าล้านทอง” ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในลำปาง




และด้านหลังพระวิหารหลวงคือ “พระธาตุลำปางหลวง” องค์พระธาตุขนาดใหญ่ทรงล้านนาหุ้มด้วยแผ่นทองเหลืองฉลุลายมีความงดงามเป็นอย่างมาก ภายในพระธาตุบรรจุพระเกศาและพระอัฐิธาตุจากพระนลาฎข้างขวา พระศอด้านหน้าและด้านหลัง

นอกจากจะเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองลำปางแล้ว พระธาตุลำปางหลวงก็ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีฉลู ตามคติความเชื่อของชาวเหนือ จึงทำให้คนที่เกิดปีฉลู (วัว) มักจะมากราบสักการะ




และหากว่าใครมาที่วัดพระธาตุลำปางหลวงในช่วงนี้ ที่ใกล้ๆ กับเทศกาลยี่เป็งของชาวเหนือ ก็นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สรงน้ำองค์พระธาตุลำปางหลวง เนื่องจากช่วงนี้ใกล้กับการจัดงาน “ประเพณียี่เป็งไหว้สาพระธาตุเจ้าลำปางหลวง”

โดยขั้นตอนการสรงน้ำองค์พระธาตุ จะเริ่มจากการตักน้ำใส่ภาชนะที่ผูกติดกับเชือกชักรอก แล้วจึงค่อยๆ ชักรอกขึ้นสูงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงองค์พระธาตุ น้ำก็จะตกลงมาสรงองค์พระธาตุโดยตรง




ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงยังขึ้นชื่อในเรื่องของการชม “พระธาตุหัวกลับ” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดจากการณ์หักเหของแสง หลักการเดียวกับกล้องรูเข็ม โดยจุดชมเงาพระธาตุหัวกลับที่เป็นไฮไลท์จะอยู่ที่มณฑปพระพุทธบาทที่อยู่ด้านหลังองค์เจดีย์ ว่ากันว่าถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อพระสงฆ์เข้าไปทำความสะอาดในมณฑปแล้วพบเงาพระธาตุที่เกิดจากแสงที่ส่องลอดผ่านรูเล็กๆ บนผนัง ปรากฏในลักษณะของเงาพระธาตุหัวกลับ มีสีสันสวยงามตามจริง แต่ทั้งนี้มีข้อห้ามผู้หญิงขึ้นไปชมพระธาตุหัวกลับบนมณฑปพระพุทธบาท

แต่ผู้หญิงสามารถเข้าไปชมเงาพระธาตุได้อีกที่หนึ่งคือที่ “วิหารลายคำ” หรือ “วิหารพระพุทธ” ด้านข้างองค์พระธาตุที่นอกจากจะเป็นอีกหนึ่งจุดชมเงาพระธาตุลำปางหลวงแล้ว ก็ยังเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระพุทธ” พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนสามปางมารวิชัยที่ได้ชื่อว่ามีพระพุทธลักษณะที่งดงามมากแห่งหนึ่งในล้านนาอีกด้วย




อย่าลืมเข้าไปกราบ “พระแก้วดอนเต้า” แห่งลำปาง ที่สร้างจากหยกสีเขียวเข้ม เป็นศิลปะแบบเชียงแสนตอนปลาย องค์พระประทับนั่งสมาธิราบมือประสานบนตัก ประดิษฐานอยู่ในกุฏิพระแก้วของวัดพระธาตุลำปางหลวงนั่นเอง ซึ่งใครที่อยากสักการะพระแก้วดอนเจ้าอย่างใกล้ชิด ทุกๆ ปีจะมีการอัญเชิญออกมาจากที่ประดิษฐานห้องนิรภัยภายในวิหารพระแก้ว เพื่อมาตั้งไว้ภายในวิหารหลวงภายในวัด ให้ประชาชนได้กราบไหว้เพียงปีละ 2 ครั้ง คือ ช่วงประเพณียี่เป็ง เทศกาลลอยกระทง และประเพณีปี๋ใหม่เมือง เทศกาลสงกรานต์

นอกจากนี้ วัดพระธาตุลำปางหลวงยังมีอีกหลากหลายจุดให้เที่ยวชม ไม่ว่าจะเป็น “วิหารน้ำแต้ม”, “วิหารพระเจ้าศิลา”, “หอพระแก้ว”,“พิพิธภัณฑ์”, “พระเจ้าทันใจ” เป็นต้น











#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline