ททท. ชวนแฮงค์เอาท์เขย่าขวัญในงาน “เทศกาลขนหัวลุก ตลาดขนลุก” ปลุกกระแสท่องเที่ยวไทยสายศรัทธา ณ โรงงานมักกะสัน รฟท.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนเปิดประตูสู่ความหลอนไปกับงาน “เทศกาลขนหัวลุก ตลาดขนลุก” หรือ “Goosebump Market” บิ๊กอีเวนต์สุดลี้ลับใจกลางเมือง ตั้งแต่วันที่ 26-31 ตุลาคมนี้ ณ โรงงานมักกะสัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตอกย้ำความสำเร็จจาก “เทศกาลขนหัวลุกเวียงพิงค์” และ “เทศกาลขนหัวลุก เมืองกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา” หวังเป็นต้นแบบโมเดลตลาดนัด Pop-up แนวใหม่แหล่งชอปปิงและแฮงค์เอาท์เขย่าขวัญสุดระทึก พร้อมส่งมอบประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นประทับใจ และปลุกกระแสท่องเที่ยวไทยสายศรัทธา หวังบูสต์รายได้เข้าพื้นที่ 300 ล้านบาท
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบเร่งด่วน เพื่อเพิ่มแรงส่งกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวให้ทุกฤดูกาลเป็นไฮซีชั่นของการท่องเที่ยวไทย ภายใต้นโยบาย IGNITE THAILAND’s TOURISM ซึ่งจะนำไปสู่เป้าหมายเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวรวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ สำหรับการจัดงาน “เทศกาลขนหัวลุก ตลาดขนลุก” เป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ ททท. ยกกลยุทธ์ Event Marketing ผนวกกับการนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงศรัทธาและความเชื่อ ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
โดยมีกำหนดจัดงานในวันที่ 26-31 ตุลาคม 2567 นี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 23.00 น. ณ โรงงานมักกะสัน การรถไฟแห่งประเทศไทย มุ่งนำเสนอเรื่องราววัฒนธรรมไทยด้านความเชื่อ ต้นทุนทางวัฒนธรรมไทยต่อยอดด้วยนวัตกรรมความสร้างสรรค์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและกระตุ้นการเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวต้นทางผ่านรูปแบบงานที่สนุก ตื่นเต้น และสวยงาม ผสมผสานกับความทันสมัย และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้มีเวทีจัดแสดงและพัฒนาสินค้าทางการท่องเที่ยว สร้างโอกาสทางการตลาด ตลอดจนกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการและชุมชนการท่องเที่ยว
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า “เทศกาลขนหัวลุก ตลาดขนลุก” หรือ Goosebump Market ตลาดนัด Pop-up แนวใหม่ จัดขึ้นภายใต้แนวคิดต่อยอดจากงาน “เทศกาลขนหัวลุกเวียงพิงค์ @เชียงใหม่ ตอน แม่นาคแอ่วเหนือ” และ “เทศกาลขนหัวลุก เมืองกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา ตอนเที่ยววัดใจ” ที่สร้างความฮือฮาเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น การันตีด้วยยอดผู้เข้าชมงานรวมเกือบสองแสนคนต่องาน และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวมกว่า 500 ล้านบาท ถือเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและอยู่ในกระแสความสนใจของคนไทย
ภายในงาน ททท. ได้เนรมิตพื้นที่โรงงานมักกะสัน รฟท. พื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี และเป็นต้นกำเนิดความรุ่งเรืองของกิจการรถไฟไทย ให้เต็มไปด้วยกลิ่นอายบรรยากาศที่ชวนขนหัวลุก โดยแบ่งพื้นที่จัดกิจกรรมขนหัวลุกออกแบ่งเป็น 8 สาย ได้แก่
1. สายชอป เลือกซื้อสินค้าสายมูเสริมวาสนาดวงชะตา อาทิ เครื่องราง ของขลัง เครื่องประดับสายมู รวมถึงตลาดแบกะดิน สินค้ามือสาม เสื้อผ้าและของตกแต่งบ้าน พิเศษ! บริการนวดแผนไทยจากวัดโพธิ์
2. สายกิน อิ่มอร่อยครบหมู่ 5 คุณวิเศษ อร่อย-อิ่ม-ใหม่-แปลก-ปัง! กับเมนูชวนขนหัวลุก อาทิ ลูกชิ้นยันต์ ควายธนูแดดเดียว ป็อปคอร์นสีเลือด น้ำแดงกุมาร เป็นต้น พิเศษ! สายคาเฟ่ ห้ามพลาด “Bogie Café” ชวนคุณจิบกาแฟบนรถไฟสายประวัติศาสตร์เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี
3. สายสนุก สนุกเพลิดเพลินกับงานวัดย้อนยุค ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน สาวน้อยตกน้ำ ยิงปืน ปาเป้า โยนห่วง
4. สายไหว้ ไหว้ขอพร โชคลาภ การงาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของโรงงานมักกะสัน ได้แก่ เสด็จพ่อ ร.๕ หลวงพ่อนาคปรก ฤาษีต้นโพธิ์ และแม่ตะเคียนคู่ และเชิญร่วมทำบุญโลงศพ พลิกชีวิตร้ายกลายเป็นดี นอกจากนี้ ขอเชิญชวนบริจาคเสื้อผ้าเก่าในโครงการ “ทิ้งฉันเถิด ให้ฉันได้เกิดใหม่” นำเสื้อผ้าเก่ามารีไซเคิลผลิตเป็นเสื้อกีฬาใหม่บริจาคให้นักเรียนในชุมชนห่างไกล
5. สายเสน่ห์ เจิมหน้าผาก ฟังเสียงสังข์ ขอพรจากองค์พระพิฆเนศวิหารต้าเทียนเซียน
6. สายดวง พยากรณ์โลกแห่งโชคชะตากับ 5 หมอดูสุดแม่น
7. สายสยอง ชวนดูหนังกลางแปลงผีไทย ท้าลอง! ผีถ้วยแก้ว ท้าลุย! ทางผีผ่านกับทางเดินสุดหลอนและการหลอกผีตลอดทาง
8. สายย่อ ดาร์กสุดกับการแสดงดนตรีบนเวที และสายพิเศษ เฉพาะงานนี้เปิดให้ชมโรงเก็บรถไฟประวัติศาสตร์ พิเศษ! ลงทะเบียนเข้างานรับด้ายสายสิญจ์มงคลได้ที่หน้างาน ปลุกเสกจากหลวงปู่ศิลา สิริจันโท วัดพระธาตุหมื่นหิน (มีจำนวนจำกัด) และในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งตรงกับเทศกาล Halloween จะมีการประกวดแต่งผีชิงรางวัลอีกด้วย
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ได้ร่วมจัดงานเทศกาลขนหัวลุกร่วมกับ ททท. อีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในปี 2565 สำหรับโรงงานมักกะสันเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญยิ่งต่อการรถไฟแห่งประเทศไทยในแง่ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การจัดงานนี้ถือเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้โรงงานมักกะสัน รฟท. เป็นที่รู้จักมากขึ้นและเป็นการบูรณาการนำร่องในการใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ในการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว จากการต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมในมิติความเชื่อของคนไทย รฟท. เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงาน สามารถนํานักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว ด้านความเชื่อและความศรัทธา สู่การเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต้นทางและเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ททท. เชื่อมั่นว่า “เทศกาลขนหัวลุก Goosebump Market” จะสามารถสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยวสายศรัทธาและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ตลอดจนกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ ร้านค้า ชุมชนในพื้นที่จัดงานและพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการเดินทางช่วงกรีนซีซั่นหรือนอกฤดูกาลท่องเที่ยว และคาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่กว่า 300 ล้านบาท
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน “เทศกาลขนหัวลุก Goosebump Market” ฟรี ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2567 ณ โรงงานมักกะสัน รฟท. ตั้งแต่เวลา 16.00 - 23.00 น.
สำหรับการเดินทางมาร่วมงานสามารถนั่งรถประจำทางสาย 113, 140, 514, 539, 60, 72, และ 99
รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว (สุขุมวิท) สถานีพญาไท N2 จุดเชื่อมต่อ Airport Rail Link พญาไท A8
รถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงิน สถานีเพชรบุรี BL21 จุดเชื่อมต่อ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน A6
สำหรับท่านใดที่ลงจาก Airport Rail Link สถานีราชปรารภ A7 ให้เดินไปประตู 1 โรงงานมักกะสัน การรถไฟแห่งประเทศไทย ระยะทางประมาณ 300 เมตร
สำหรับท่านใดที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา สามารถจอดรถได้ที่พื้นที่จอดรถบริเวณแอร์พอร์ต เรลลิงค์ มักกะสัน และโดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงค์จากสถานีมักกะสันมาลงที่สถานีราชปรารภ ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่จัดงานประมาณ 300 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook page : Thailand Goosebump Festival
หรือ โทร. 1672 Travel Buddy
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline