เพลิดเพลินไปกับพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยถ่ายทอดประวัติศาสตร์ท้องถิ่นได้อย่างสนุก, เติมไอเดียสร้างสรรค์ในโรงงานกระดาษเก่าที่เปลี่ยนมาเป็นแหล่งรวมงานคราฟต์-งานอาร์ตสุดครีเอทีฟ, เติมจินตนาการความฝันที่สวนสาธารณะซึ่งมาจากแรงบันดาลใจของศิลปินชื่อดัง, ชม ชิม และลองทำชานมไข่มุกสูตรเด็ดของตัวเอง ที่ศูนย์วัฒนธรรมชานมไข่มุก ฯลฯ
ตัวอย่างของประสบการณ์ข้างต้นนี้ เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสที่ “อี๋หลาน” เมืองชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน เพียงเดินทางจากเมืองหลวงอย่างไทเปราวชั่วโมงเศษ ซึ่งนอกจากความงดงามของธรรมชาติ และความเป็นเมืองสโลว์ไลฟ์ริมทะเลแล้ว เสน่ห์โดดเด่นอีกด้านของอี๋หลาน คือ ศิลปวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยสีสันที่หลากหลาย
ชวนมาทำความรู้จักกับ 6 แหล่งท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม-ไลฟ์สไตล์ ในเมืองอี๋หลานที่จะยิ่งทำให้คุณหลงเสน่ห์เมืองแห่งนี้มากขึ้น
พิพิธภัณฑ์หลานหยาง (Lanyang Museum)
“อี๋หลาน" เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติกับวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ “พิพิธภัณฑ์หลานหยาง” จึงเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวความโดดเด่นทั้งสองด้านไว้ด้วยกัน
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่เดิมของท่าเรืออูสือ (Wushi) เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนภาพของเมืองท่าเก่าแก่ และผสมผสานภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ โดยอาคารทรงพีระมิดคว่ำที่ดูแปลกตาฝีมือการออกแบบของสถาปนิก คริส เหยา (Kris Yao) ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากแนวปะการัง ท่าเรือ พื้นที่ชุ่มน้ำ และเกาะกุยซาน (Guishan)
ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งโซนจัดแสดงหลักไว้ 3 ชั้น ภายใต้คอนเซปต์ขุนเขา ที่ราบ และมหาสมุทร โดยมีจุดเด่นที่น่าสนใจ เช่น การรวบรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งครั้งหนึ่ง อี๋หลานเคยเป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้า, นิทรรศการที่ให้ความรู้ด้านภูมิศาสตร์เกี่ยวกับพื้นที่ในเขตอี๋หลาน, สื่อผสมทั้งแสงสีเสียงและแบบจำลองความรู้ด้านธรณีวิทยา ดิน น้ำ ภูเขา ป่า ทะเล และระบบนิเวศ เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์เปิด 9.00-17.00 น. (ปิดวันพุธ) ค่าเข้าชม 100 เหรียญไต้หวัน
วัดต้าหลี่เทียนกง (Dali Tiangong Temple)
“วัดต้าหลี่เทียนกง" เดิมมีชื่อว่า “วัดชิ่งอวิ๋น” (Qingyun Temple) เป็นวัดเก่าแก่เกือบ 200 ปี สร้างในปี ค.ศ. 1836 (ปี พ.ศ.2379) เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้คนในเมือง อีกทั้งเป็นที่ประดิษฐานของเง็กเซียนฮ่องเต้ จากเมืองฝูโจว ถือเป็นวัดที่เปรียบดั่งป้อมปราการทางจิตวิญญาณของบรรพบุรุษ
สถาปัตยกรรมภายในวัดนั้นวิจิตรเป็นเอกลักษณ์ ภายในมีจุดสักการะเทพเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อ และนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทะเลอันสวยงามได้จากบริเวณลานวัดแห่งนี้
ศูนย์วัฒนธรรมชานมไข่มุกคิลิเบย์ (Kili Bay Pearl Milk Tea Cultural Center)
หนึ่งในเครื่องดื่มที่ใครๆนึกถึงไต้หวัน ต้องยกให้ “ชานมไข่มุก” เพราะไต้หวัน คือ ดินแดนต้นกำเนิดเครื่องดื่มชนิดนี้ มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1988 ในเมืองไถจง
การมาเยือนศูนย์วัฒนธรรมชานมไข่มุกฯ จึงเป็นโปรแกรมที่ไม่ควรพลาด สถานที่แห่งนี้นำเสนอประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของชานมไข่มุก ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการเรียนรู้เกี่ยวกับจุดเริ่มต้น, กระบวนการผลิต, และจุดเปลี่ยนที่ทำให้เครื่องดื่มนี้กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก
นักท่องเที่ยวยังสามารถสนุกและอร่อยไปกับเวิร์กชอปทำชานมไข่มุกด้วยตนเอง และปิดท้ายเอาใจสายชอป ด้วยร้านจำหน่ายของที่ระลึกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับชาที่มีให้เลือกหลากหลาย
ตลาดกลางคืนหลัวตง (Luodong Night Market)
หนึ่งในประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวที่มาไต้หวันโปรดปราน นั่นคือ สตรีทฟูด ที่นับเป็นจุดขายสำคัญ โดยเมืองอี๋หลาน ก็มี “ตลาดกลางคืนหลัวตง” (Luodong Night Market) เป็นจุดหมายนั้น
ที่นี่เป็นหนึ่งในตลาดกลางคืนที่มีชื่อเสียงและคึกคัก บรรยากาศเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา คล้ายกับเป็นงานออกร้านที่ผู้คนออกมาเดินเล่น และยังมีความหลากหลายของอาหารที่ทำแบบสดใหม่ จัดวางขายกันสองข้างทางอย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นขนมปังปิ้งไส้ทะลัก ข้าวต้มทะเล อาหารปิ้งย่าง อาหารทะเล ผลไม้ ของหวานยอดนิยมอย่างขนมไข่มุกและปาท่องโก๋ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าอื่นๆ เช่น เสื้อผ้า ของที่ระลึก และของใช้ในชีวิตประจำวัน
จิมมี่ ปาร์ค (Jimmy Park)
ถ้าจะยกชื่อของศิลปินไต้หวันสักคนที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ชื่อ “จิมมี่ เลี่ยว” (Jimmy Liao) ต้องเป็นหนึ่งในนั้น แม้แต่คนที่ไม่คุ้นชื่อ แต่หากได้เห็นผลงานของนักวาดภาพประกอบและนักเขียนหนังสือภาพคนนี้แล้ว เป็นต้องร้องอ๋อ!! หรือเคยผ่านสายตามาบ้างแน่ๆ
บ้านเกิดของศิลปินรายนี้ คือ เมืองอี๋หลาน เมืองแห่งนี้จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกออกแบบมาให้จินตนาการของเขากลายเป็นโลกแห่งความจริงจับต้องได้ นั่นคือ "Jimmy Park” (แต่คนไต้หวัน ออกเสียงว่า จี๋หมี่)
"Jimmy Park” เป็นสวนสาธารณะริมถนน ที่มีการจัดซุ้มที่ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกของการ์ตูน มีรูปปั้นน่ารักๆจากจินตนาการของศิลปินรายนี้ นับเป็นพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรม และการเล่นที่ออกแบบให้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เหมาะสำหรับการถ่ายรูปได้อย่างสนุก เพื่อเติมแต้มจินตนาการจากหนังสือให้กลายเป็นโลกความจริง รวมทั้งยังมีร้านค้าที่จำหน่ายของที่ระลึกและของขวัญจากผลงานของเขาด้วย
อุทยานวัฒนธรรมและความสร้างสรรค์จงซิ่ง (Chung Hsing Cultural and Creative Park)
โรงงานกระดาษจงซิ่ง (Chung Hsing) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1935 ในฐานะบริษัทธุรกิจของไต้หวันในช่วงการปกครองของญี่ปุ่น และถูกส่งมอบให้กับรัฐบาลหลังสงคราม ครั้งหนึ่งเคยเป็นโรงงานกระดาษที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ก่อนจะปิดตัวลงในปี ค.ศ.2001 ยาวนานกว่าสิบปี จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2014 เมื่อหน่วยงานรัฐของเมืองอี๋หลานมีนโยบายส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรม โรงงานแห่งนี้จึงฟื้นคืนชีพอีกครั้งให้เป็นมรดกทางอุตสาหกรรม และกลับมาในสถานะใหม่ ด้วยการเป็นศูนย์กลางงานแสดงศิลปะ นิทรรศการ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์
ความโดดเด่นของอาคารอุตสาหกรรมเก่าแก่มีเสน่ห์ภายนอกแบบดิบๆ ไม่ปรุงแต่งอะไรมาก เป็นการบอกเล่าเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจของพื้นที่ อาคารเก่าบางอาคารจึงปล่อยไว้ให้ตระหง่านงามแบบเดิมๆ แต่ภายในโกดังหลายจุด มีการดัดแปลงเป็นพื้นที่แสดงและจำหน่ายผลงานศิลปะ วัฒนธรรม งานคราฟต์เท่ๆ ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินชมได้อย่างไม่รู้เบื่อ
ติดตามข่าวสารการท่องเที่ยวไต้หวันได้ที่แฟนเพจสำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน
เฟซบุ๊ก https://facebook.com/itstimefortaiwanth
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline