เที่ยวสนุกใน 1 วัน กับทริป มู ชิม ชิล ตามรอยคู่หูสามขวบน้องเนยและพี่อาโปไปเที่ยว “อยุธยา” ไหว้พระขอพรที่ “วัดใหญ่ชัยมงคล” ตระเวนทัวร์วัดเก่ารอบเกาะเมืองอยุธยา แวะชิมเมนูเด็ดที่ร้าน “โบราณ ณ อยุธยา” และชิลสุดๆ กับวิวสวยและขนมอร่อยที่ร้าน “ปรางค์ วิว”
ถ้ามีเวลาแค่ 1 วันและอยากเที่ยวใกล้ๆ กรุง ต้องมี “อยุธยา” เป็นอีกตัวเลือก เพราะที่นี่จัดเต็มครบทั้งกิจกรรมสายมู ชิมของอร่อย และนั่งชิลๆ กับบรรยากาศสบายๆ เหมือนกับที่น้องเนยและพี่อาโป ชวนไป “สุขใกล้กรุง” กับทริปสบายๆ ใน 1 วัน ใครอยากไปตามรอยก็ปักหมุดตามนี้เลย
วัดใหญ่ชัยมงคล
วัดชื่อดังอีกแห่งของอยุธยา ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมาสักการะเพื่อความเป็นมงคล สำหรับที่วัดใหญ่ชัยมงคล สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น พอมาถึงสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก็ได้มีการสร้าง “พระเจดีย์ชัยมงคล” ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศที่ได้ชัยในการทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี พร้อมกับพระราชทานนามว่าวัดชัยมงคล แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดใหญ่ชัยมงคล เพราะมีเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในอยุธยามองเห็นโดดเด่นแต่ไกล
ภายในวัดมีพระอุโบสถหลังเก่า เป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธชัยมงคล” พระประธานของวัดที่สร้างจากหินทรายตลอดทั้งองค์เป็นปางมารวิชัย แล้วก็ยังมี “พระพุทธไสยาสน์” หรือพระนอน ที่ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารหลังเก่า ปัจจุบันเหลือเพียงผนังและเสาบัว
วัดพระราม
อีกหนึ่งวัดสวยในเขตเกาะเมืองอยุธยา งดงามด้วยซิลปะแบบอยุธยาตอนต้น โดยพระปรางค์องค์ประธาน เป็นพระปรางค์ทรงฝักข้าวโพดที่ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะลพบุรี และมีพระปรางค์ขนาดเล็กตั้งอยู่ทางทิศเหนือ โดยใต้รอบปรางค์เล็กจะมีเจดีย์ล้อมรอบอีก 4 ด้าน นอกจากนี้ยังมีเจดีย์เล็กบ้างใหญ่บ้างล้อมอยู่รอบ ๆ องค์พระปรางค์ ประมาณ 28 องค์
อีกจุดเด่นหนึ่งของวัดพระรามคือ ภายในองค์พระปรางค์มีจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่งปางมารวิชัยบนบัลลังก์ (ปัจจุบันปิดไม่ให้ขึ้นไปชม เนื่องจากความทรุดโทรมของพระปรางค์)
พื้นที่โดยรอบของวัดนี้จะมีบึงขนาดใหญ่อยู่หน้าวัด สันนิษฐานว่าเมื่อครั้งสถาปนากรุงศรีอยุธยาคงจะมีการขุดนำดินในหนองมาถมพื้นที่พระราชวังและวัด พื้นที่ที่ขุดนำดินไปนั้นจึงกลายเป็นบึงใหญ่ ซึ่งบึงนี้มีชื่อปรากฏในกฎมณเฑียรบาลว่า “บึงชีขัน” ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “บึงพระราม”
วัดมหาธาตุ
“วัดมหาธาตุ” เป็นอีกวัดที่มีความสำคัญยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงได้รับการก่อสร้างและดูแลตลอดเวลาจนกระทั่งเสียกรุง
จุดหนึ่งในวัดมหาธาตุที่โดงดังมากๆ ก็คือ “เศียรพระพุทธรูปหินทราย” ที่มีรากไม้ต้นโพธิ์ปกคลุมอยู่ โดยเศียรพระพุทธรูปนี้ เป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียร สำหรับองค์พระนั้นหายไป และเป็นเศียรพระพุทธรูปศิลปะอยุธยา วางอยู่ในรากโพธิ์ข้างวิหาร คาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ ในสมัยเสียกรุง จนรากไม้ขึ้นปกคลุมทำให้มีความงดงามแปลกตา จนนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพ
วัดธรรมิกราช
จากหลักฐานพบว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา โดยพระยาธรรมิกราช พระราชบุตรแห่งพระเจ้าสายน้ำผึ้ง เมื่อแรกสถาปนานั้นขนานนามว่า วัดมุขราช ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดธรรมิกราช จนถึงสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เมื่อปีพ.ศ. 2153 ก็ได้บูรณะและสร้างวิหารขนาดใหญ่ถึง 9 ห้อง โดยใช้ชื่อว่า วิหารทรงธรรม เพื่อใช้สำหรับฟังธรรมสวนะ
และวิหารแห่งนี้ก็เคยเป็นที่ประดิษฐานเศียรพระธรรมิกราช หรือพระพุทธรูปหล่อสำริดศิลปะอู่ทอง เป็นเศียรพระที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยา ซึ่งเฉพาะแค่เศียรก็มีความสูงถึง 2 เมตรแล้ว จึงสันนิษฐานกันว่าพระพุทธรูปองค์เต็มคงจะมีขนาดใหญ่มาก โดยปัจจุบัน เศียรพระธรรมิกราชถูกอัญเชิญไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ส่วนที่วัดมีการสร้างเศียรจำลองประดิษฐานไว้แทน
นอกจากนี้ ภายในวัดยังมี “พระพุทธรรมิกราชไตรโลกนาถอุดมมงคล” พระพุทธไสยาสน์องค์ก่ออิฐถือปูน ฝ่าพระบาทปิดทองประดับกระจก กลางฝ่าพระบาททำตามคติมหาปุริสลักษณะ โดยทำเป็นรูปจักรปูนปั้นนูนออกมาจากฝ่าพระบาทตามความงามของคติช่าง “หลวงพ่อขาว” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาว ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น “พระเจดีย์สิงห์ล้อม” เป็นเจดีย์ทรงระฆังตั้งอยู่บนฐานประทักษิณ รอบฐานประดับด้วยประติมากรรมรูปสิงห์ปูนปั้นเป็นงานศิลปกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะเขมร พระเจดีย์นี้แตกต่างจากวัดอื่น ๆ ที่มักเป็นรูปปูนปั้นช้างล้อม หรือหากจะมีรูปปั้นสิงห์ก็เพียงแต่ล้อมไว้ 4 มุม 4 ทิศ แต่ที่นี่มีสิงห์ล้อมถึง 52 ตัว
โบราณ ณ อยุธยา
ร้านอาหารและคาเฟ่วิวพระปรางค์วัดราชบูรณะ ด้านในร้านตกแต่งแบบวินเทจ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายจุด โดยเฉพาะตรงหน้าต่างแห่งกาลเวลาที่อยู่ด้านหน้าร้าน และยังมีของตกแต่งที่ใช้ข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อนมาประดับประดา
อาหารของที่นี่ก็จะเป็นอาหารไทยที่มีให้เลือกหลากหลายเมนู ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด แต่ที่ห้ามพลาดก็คือ กุ้งแม่น้ำเผา เลือกสั่งแบบเป็นเซตก็จะมีทั้งกุ้งเผาเนื้อหวานแน่นหอมมันเยิ้ม มาพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ เอาไว้คลุกกับมันกุ้ง น้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด และน้ำปลาหวานรสชาติดี
อีกเมนูห้ามพลาดคือ ข้าวผัดแตงโม เมนูสุดแปลกแต่อร่อยมาก ปกติจะคุ้นเคยกับการกินข้าวสวยคู่กับแตงโมที่ให้ความอร่อยชื่นใจ แต่จานนี้นำข้าวไปผัดคล้ายๆ กับข้าวผัดสับปะรด แต่เปลี่ยนเป็นแตงโมแทน แล้วเสิร์ฟมาในลูกแตงโม
อิ่มของคาวต้องต่อของหวาน มาอยุธยาก็ต้องชิม สายไหมอยุธยา ที่จะเสิร์ฟเส้นสายไหมเป็นม้วนเป็นก้อนมาในตู้ไม้ และมีแผ่นโรตีนุ่มๆให้กินคู่กัน ส่วนเครื่องดื่มต้องลองคือ สไบทอง เป็นกาแฟหอมๆ ชงกับน้ำตาลโตนดที่ทั้งหวานและหอม ส่วนด้านบนเป็นฝอยทอง
ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.00-21.00 น. โทร. 06-5985-8385 Facebook : BORAN Cafe and Restaurant
ปรางค์ วิว
คาเฟ่สวย นั่งสบาย ชมวิวพระปรางค์วัดราชบูรณะ ภายในร้านตกแต่งสบายตา โซนด้านหน้าจะเน้นสีขาวและความโปร่งโล่งแบบมินิมอล ส่วนด้านในตกแต่งโทนสีอบอุ่นนั่งสบาย
ที่นี่มีทั้งเมนูอาหารคาวสไตล์ฟิวชั่น รวมถึงอาหารไทยเมนูคุ้นเคย ส่วนของหวานและเครื่องดื่มที่นี่ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน เปิดจานแรกด้วย ยำส้มโอโบราณ ส้มโอฉ่ำๆ นำมายำกับเครื่องยำรสกลมกล่อม เพิ่มความแปลกใหม่ด้วยสายไหมซิกเนเจอร์ของอยุธยา
จานแนะนำจานอร่อยต้องยกให้ สปาเก็ตตี้ต้มยำมันกุ้งแม่น้ำ ตัวเส้นสปาเก็ตตี้ผัดมากับมันกุ้งหอมมัน รสชาติเข้มข้นแบบต้มยำไทย และมีกุ้งแม่น้ำผัดใส่มาด้วย ของหวานเย็นชื่นใจต้องสั่ง บิงซูชาไทยไข่เค็ม ตัวบิงซูชาไทยรสชาติเข้มข้นมากๆ ไม่หวานเกินไป มากับซอสไข่เค็มที่ออกเค็มมันนัว และมีเม็ดบัวลอยเคี้ยวหนึบเสิร์ฟมาคู่กันด้วย
ส่วนใครชอบกาแฟต้องลอง Coconut Prang View เป็นน้ำมะพร้าวปั่นเสิร์ฟมาในลูกมะพร้าว มาพร้อมกับเอสเปรสโซชอต เวลากินต้องเทกาแฟใส่น้ำมันพร้าว ได้ความหอมหวานที่ตัดกับความเข้มของกาแฟ แต่ถ้าไม่กินกาแฟจะเปลี่ยนเป็นโกโก้ หรือ มัทฉะก็ได้
ร้านเปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น. โทร. 08-9801-0138 Facebook : PRANG VIEW
ปักหมุดเที่ยว “อยุธยา” ตามรอยน้องเนยและพี่อาโป นอกจากเส้นทางนี้แล้ว ในอยุธยาก็ยังมีวัดสวยๆ ให้เที่ยวอีกมากมาย ของอร่อยก็มีให้เลือกหลากหลายร้าน และก่อนจบทริปอย่าลืมแวะซื้อโรตีสายไหม เป็นของฝากซิกเนเจอร์ของที่อยุธยา
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline