ถนนคดเคี้ยวในเขตพื้นที่อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี โอบขนาบด้วยร่มเงาเขียวขจีของผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ นำไปสู่จุดหมายพุทธสถานกลางขุนเขาที่เหล่านักแสวงบุญจากทั่วสารทิศเดินทางไปด้วยแรงศรัทธา สถานที่แห่งนั้น คือ “วัดป่าภูก้อน” วัดงามที่มีจุดเริ่มต้นจากความเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระเกจิดังสายพระป่า
ย้อนอดีตกลับไปในปี พ.ศ. 2527 “ปิยวรรณ - โอฬาร วีรวรรณ” พุทธบริษัทผู้เลื่อมใสในปฏิปทาของพระป่า ได้เดินทางมาพร้อมคณะ ธุดงค์มายังพื้นที่จังหวัดสกลนคร อุดรธานี ด้วยเหตุ “หลวงปู่ฝั้น อาจาโร” พระเกจิชื่อดังแห่งภาคอีสาน ปรากฏในทิพยนิมิตสั่งให้ไปธุดงค์ทางภาคอีสานเป็นเวลา 10 วัน
การเดินทางในครั้งนั้นคณะศรัทธาได้เข้าช่วยเหลือ “พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก" แห่งสำนักสงฆ์บ้านนาคำน้อย ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจัดตั้งเป็นวัดป่านาคำน้อย และปลูกป่าทดแทนฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม อย่างถูกต้องตามระเบียบของกรมป่าไม้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติธรรมและอยู่อาศัยของพระสงฆ์
จากนั้นท่านพระอาจารย์อินทร์ถวายได้พาไปดู “ป่าภูก้อน” ที่ขณะนั้นกำลังถูกสัมปทานตีตราตัดไม้ คณะศรัทธาจึงได้ตัดสินใจสร้างวัด พร้อมทำเรื่องขอใช้ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาตินายูง-น้ำโสม จังหวัดอุดรธานี เพื่อสร้างวัดในเนื้อที่ 15 ไร่ จากกรมป่าไม้ และได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2530
ในปีต่อมา คณะพุทธศาสนิกชนผู้ศรัทธาในพระสายป่า ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อจัดตั้งพุทธอุทยานมีเนื้อที่ 1,000 ไร่ และได้รับขนานนามว่า “พุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติภูก้อน” จนกระทั่ง “วัดป่าภูก้อน” ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2532
สิ่งสำคัญภายในวัดป่าภูก้อน ที่โดดเด่นสะดุดสายตาเมื่อก้าวขึ้นไปสู่ลานวัด คือ รูปปั้น “ท้าววิรุฬหกเทวราช” ผู้ครองนครจตุมหาราชิกา โลกบาลทางทิศใต้ คอยปกปักดูแลทํานุบํารุงศาสนา กับ “ท้าวเวสสุวรรณเทวราช”ผู้อารักขาทางทิศเหนือ พระพุทธไสยาสน์ และวิหารสังฆบิดร
ส่วนสถานที่สำคัญสุดวิจิตร กลายเป็นภาพจำของใครๆเมื่อกล่าวถึงวัดแห่งนี้ คือ “วิหารสังฆบิดร” พระวิหารหลังคาสีฟ้าอมเขียวสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ที่งดงามยิ่ง ภายในพระวิหารเป็นสถานที่ประดิษฐาน “พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี” พระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์สีขาว ขนาดความยาว 20 เมตร แกะสลักจากหินอ่อนอิตาลีที่นำมาเรียงซ้อนกันถึง 42 ก้อน
องค์พระพุทธไสยาสน์องค์นี้ สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา ในปี พ.ศ. 2554
โดยคณะศรัทธาหวังให้เป็นเอกลักษณ์ทางพุทธศิลป์แห่งสมัยรัชกาลที่ ๙ ซึ่งได้ความอนุเคราะห์จากอาจารย์นริศ รัตนวิมล ผู้เป็นยอดศิลปินประติมากรหินของไทย เป็นผู้ออกแบบ และแกะสลัก นอกจากนี้ รอบฐานพระพุทธรูป อาจารย์สมยศ คำแสง เป็นผู้ออกแบบภาพปั้นนูนต่ำหล่อทองแดงเรื่องราวของพระมหาปรินิพพานสูตร จึงนับเป็นงานก่อสร้างยิ่งใหญ่ล้ำค่า ประดิษฐานไว้บนยอดภูเขาในพุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติภูก้อน โดยมีระยะเวลาการสร้าง 6 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549-2555
วัดป่าภูก้อน ยังมี "พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์" ที่คณะศรัทธาได้สร้างเพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐาน แสดงกตัญญูกตเวทิตาแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และบุรพอาจารย์กรรมฐานในแถบอีสาน ทั้งยังเป็นมงคลสถานที่พุทธศาสนิกชน
จากจุดเริ่มต้น ผ่านมากว่า 30 ปี จวบจนปัจจุบัน วัดป่าภูก้อน ดำรงคงอยู่ด้วยความสมดุลของป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ บ้างมีการขนานนามว่าเป็น “วัดพิทักษ์ผืนป่า” โดยมีคุณพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องสำนึก และมีพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์เป็นกำลังใจส่งเสริมพระสงฆ์ผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบให้ดำรงปฏิปทาของพระป่ากรรมฐาน ในปี พ.ศ. 2544 วัดป่าภูก้อนยังได้รับมอบประกาศนียบัตรจากกรมป่าไม้ เป็นวัดอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรป่าไม้ดีเด่น ซึ่งการเป็นพุทธสถานที่อยู่ร่วมกับพื้นที่ป่าสงวน
ขณะเดียวกันความงดงามของพุทธสถานกับวัตถุประสงค์ของการก่อกำเนิด ก็ดึงดูดให้พุทธศาสนิกชน ตลอดจนผู้ที่สนใจในความวิจิตรของศาสนสถาน ปักหมุดให้วัดป่าแห่งนี้ เป็นจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การมาเยือน
ข้อปฏิบัติสำหรับการเข้าชมวัดป่าภูก้อน
- การแต่งกาย ผู้ใส่กางเกงขาสั้น หรือเสื้อกล้าม ห้ามเข้าพระวิหาร วัดจัดเสื้อผ้าให้ยืมสวมทับ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่
- การถ่ายภาพทางอากาศ หรือโดรน ต้องแจ้งขออนุญาตทางวัดก่อน
- องค์พระพุทธไสยาสน์ เปิดให้สักการะ ทุกวัน เวลา 8.30-17.00 น. (ควรมาถึงวัดก่อน 16.30 น.)
- ที่ตั้ง ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี สอบถาม โทร. 08-2835-0668
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline