…อยากเห็นช่างเทียนพรรษาเป็นเยาวชนรุ่นใหม่ ใช้เครื่องมือระบบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาช่วยพัฒนาเทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีให้ดีขึ้น ….
นี่คือ ความหวังของ นายสุดสาคร หวังดี อายุ 52 ปี ชาวอำเภอเมืองอุบลราชธานี ที่ปัจจุบันมีอาชีพหลักทำนาที่อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี และมีอาชีพรับจ้างเสริม เป็นช่างเทียนพรรษา ณ คุ้มวัดพระธาตุหนองบัว อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี มาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2559 โดยได้เริ่มหัดทำเทียนพรรษามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2550
นายสุดสาครฯ ถือว่าเป็นช่างเทียนพรรษาที่มากประสบการณ์ และยังได้ฝึกช่างเทียนมาหลายคนหลายรุ่นแล้ว โดยส่วนมากเป็นชาวนาที่มองหาอาชีพเสริม และได้อาศัยเวลาว่างเว้นจากการทำนา มาเรียนรู้การทำเทียนพรรษา และยังได้อนุรักษ์งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ที่เป็นงานบุญเข้าพรรษา เป็นบุญเดือน 8 หรือ ฮีตที่ 8 ตามฮีต 12 ของชาวอีสาน หรือ ตามจารีตชาวอีสานได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาจนกลายเป็นประเพณีที่ดีงามอีกด้วย
ทั้งนี้ นายสุดสาครฯ กล่าวว่า ช่างแต่ละคนก็เรียนรู้ได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์เป็นหลัก เพราะบางคนสามารถเก่งได้หลังจากการฝึกทำเพียงปีเดียว ในขณะที่บางคนทำเทียนมาหลายปีแล้วก็ยังไม่เก่งก็มี
สำหรับการทำเทียนพรรษาของวัดพระธาตุหนองบัวในปีนี้นั้น นายสุดสาครฯ เผยว่า เป็นประเภทเทียนแกะสลักขนาดใหญ่ ถ่ายทอดเรื่องราวพุทธประวัติ ด้านหน้าของต้นเทียนเผยพระพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ตอนกลางเป็น พระเนมิราชชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า และตรงหางของเทียน เป็นตอนที่พระพุทธเจ้าโปรดพระมารดา ในสวรรค์
โดยในปีที่แล้ว เทียนพรรษาของวัดพระธาตุหนองบัวได้รางวัลที่ 4 จากการประกวดของจังหวัดอุบลราชธานี
สำหรับปีนี้ วัดพระธาตุหนองบัวมีช่างเทียนพรรษาจำนวน 6-7 คน ลดน้อยลงจากปีก่อนๆ ที่มีประมาณ 10 คน และถือว่าลดน้อยลงมาก โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ที่ทำให้จังหวัดอุบลราชธานีงดจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา 2 ปี ทำให้ช่างเทียนพรรษาบางส่วนหันไปทำงานโรงงานเพื่อเลี้ยงชีพ
และยิ่งปีนี้ ถือว่าเป็นปีเดือน 8 หนเดียว คือ ชาวนาทำนาได้หนเดียวในปี ทำให้ช่างเทียนพรรษาที่มีอาชีพหลักเป็นชาวนาเลือกที่จะทำนามากกว่าที่จะมาทำเทียนพรรษา หรือ เลือกที่จะทำธุรกิจครอบครัว เช่น ทำมันสำปะหลัง เสียมากกว่า
ด้านงบประมาณนั้น วัดพระธาตุหนองบัว ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากทางภาครัฐ คือ ธนาคารออมสิน และเทศบาลนครอุบลราชธานี ประกอบกับทางวัดเองก็เป็นมุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดอุบลราชธานี ทำให้มีงบประมาณมาจ้างช่างทำเทียนพรรษาและได้จ้างอย่างจริงจังมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้แล้ว
นอกจากค่าจ้างแล้ว ช่างเทียนของวัดยังได้รับค่าอาหารรายวันจากวัดอีกด้วย ส่วนการแบ่งเงินรางวัลจากการประกวดเทียนพรรษาในงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีนั้น ถือเป็นเรื่องของแต่ละวัดที่จะทำการตกลงกับช่างเทียนก่อนเริ่มงาน ส่วนตัว เห็นว่าตำแหน่งรางวัลที่ได้จากการประกวดเทียนพรรษาถือเป็นขวัญและกำลังใจของคนทำเทียน ที่ทำให้ช่างเทียนต่างทุ่มเทโชว์ฝีไม้ลายมือกันอย่างเต็มที่ในทุกปี
ซึ่งตำแหน่งรางวัลก็มักจะตกเป็นของวัดที่มีความพร้อมกว่า พร้อมขยายถึงสาเหตุว่า เมื่อพร้อมกว่า ก็มีช่างเทียนมากกว่า จึงสามารถทำงานแกะเทียนพรรษาได้อย่างละเอียดและมีความสวยงามมากกว่าอีกด้วย
สำหรับความคืบหน้าในการทำเทียนพรรษาของวัดพระธาตุหนองบัวนั้น ตนและช่างคนอื่นๆ กำลังเร่งทำให้แล้วเสร็จ และเชื่อว่าจะทำให้แล้วเสร็จก่อนวันส่งเข้าประกวดได้อย่างแน่นอน เพราะเมื่อถึงเวลาจวนเจียน ก็ต้องเร่งทำเทียนกันอย่างหามรุ่งหามค่ำกันอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงวิกฤติจำนวนช่างทำเทียนพรรษาในจังหวัดอุบลราชธานี นายสุดสาครฯ ตอบว่า เกิดการสมองไหลบ้าง มีช่างเทียนพรรษาชาวจังหวัดอุบลราชธานีไปทำเทียนพรรษาที่จังหวัดอื่นบ้าง และในอีก 5 ปีข้างหน้า ตนจึงอยากเห็นจังหวัดอุบลราชธานีมีช่างเทียนพรรษารุ่นกลางเพิ่มขึ้น เพื่อสานต่อและร่วมกันอนุรักษ์งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีต่อไป
ส่วนตัว หวังอยากเห็นช่างเทียนพรรษาเป็นเยาวชนรุ่นใหม่ ใช้เครื่องมือระบบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาช่วยพัฒนาเทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีให้ดีขึ้น อาทิ ด้านการออกแบบและประมวลแบบเทียนพรรษา ที่คนรุ่นตนยังเขียนและออกแบบในกระดาษ แต่เยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถใช้เครื่องมือและระบบอุปกรณ์ไอทีคอมพิวเตอร์มาช่วยในการประมวลและออกแบบช่วยทำให้เทียนพรรษาน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นได้
สำหรับแนวทางอนุรักษ์และพัฒนาเทียนพรรษาที่ยั่งยืน อยากให้ภาครัฐสนับสนุนให้มีการเปิดการเรียนการสอนด้านการทำเทียนพรรษาในหลักสูตรวิชาชีพอย่างเป็นระบบและจริงจัง โดยส่งครูช่างศิลป์ที่ยังไม่ชำนาญมาฝึกกับช่างเทียนและไปสอนนักศึกษาต่อ และเปิดโอกาสให้นักศึกษามาฝึกหัดทำเทียนพรรษากับช่างเทียนด้วย
ส่วนเรื่องที่ภาครัฐจะส่งเสริมให้นักศึกษาฝึกงานมีรายได้ระหว่างเรียนหรือฝึกงานไปด้วยหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่ภาครัฐจะสนับสนุน และเชื่อว่าช่างเทียนพรรษาจะให้ความร่วมมือช่วยเป็นวิทยากรสอนได้ ตลอดจนช่วยฝึกหัดนักศึกษาอีกด้วย
สุดท้ายนี้ ตนมองว่า งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีเป็นประเพณีแต่ดั้งเดิมแต่เมื่อครั้นบรรพบุรุษ และอยากขอฝากอนาคตของงานประเพณีให้กับคนรุ่นใหม่ ให้มาช่วยกันพัฒนาและสืบสานงานประเพณีต่อไป นายสุดสาครฯ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าที่มีความสุขและเปื้อนรอยยิ้ม ก่อนจะเร่งแกะเทียนพรรษา ณ ที่ตั้งของวัด ให้แล้วเสร็จต่อไป
จะเห็นได้ว่า งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ต้องอาศัยการทุ่มเทและเสียสละจากคนในท้องถิ่น และชุมชน โดยมีวัดเป็นศูนย์กลางและการสนับสนุนด้านงบประมาณจากภาครัฐ โดยมีเป้าหมายสำคัญร่วมกันในการสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีแห่เทียนพรรษาที่น่าภาคภูมิใจของจังหวัดที่คนในชุมชนยังเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญกับประเพณีท้องถิ่น
ตลอดจนเห็นประโยชน์ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ต้องอาศัยคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถด้านไอทีมาช่วยกันพัฒนาอนุรักษ์ และสืบสานงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีให้คงอยู่และดียิ่งขึ้นต่อไปและสำหรับแนวทางการอนุรักษ์ประเพณีที่ยั่งยืน ก็หวังให้ภาครัฐเป็นส่วนสำคัญในการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่อย่างจริงจังในระบบการศึกษาและการฝึกหัดงานจริงต่อไป
ขอเชิญเที่ยวงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2567 ภายใต้ชื่องาน "เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เมืองเทียน เมืองธรรมงามล้ำเมือง 4 แสง" กิจกรรมภายในงาน มีดังนี้
- วันที่ 1-18 กรกฎาคม 2567 : กิจกรรม "เยือนชุมชน ชมวิถีทำเทียน" 12 คุ้มวัด
- วันที่ 13-21 กรกฎาคม 2567 : ชมการแสดง "แสงแห่งศรัทธา" VIJITR@อุบลราชธานี 7 พิกัด 15 จุดการแสดง
- วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 : พิธีอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน และผ้าอาบน้ำฝนพระราชทานฯ และวันรวมเทียน ณ บริเวณลานเทียนทุ่งศรีเมือง
- วันที่ 20-21 กรกฎาคม 2567 : พิธีเปิดงานและปล่อยขบวนแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2567 ณ บริเวณทุ่งศรีเมือง (2 วัน 2 คืน)
- วันที่ 24 กรกฎาคม - 24 สิงหาคม 2567 : ชมกิจกรรมงานเทียนอุบล ยลได้ตลอดเดือน
ไฮไลต์พิเศษสำหรับปีนี้ ชมขบวนแห่เทียนพรรษา ทั้งภาคกลางวัน และชมการแสดงแสง เสียง ประกอบขบวนแห่เทียนพรรษา สุดอลังการ ในภาคกลางคืน เต็มอิ่ม จุใจ 2 วัน 2 คืน (20-21 กรกฎาคม 2567)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เพจ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
ภาพ/ข่าว เนาวรัตน์ แก้วแสงธรรม
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline