ชวนสัมผัสอันซีนพังงาจากพลังแห่งศรัทธา ที่ “วัดคึกคัก” อำเภอตะกั่วป่า ซึ่งชาวบ้านที่นี่ได้ก่อกองไฟแห่งศรัทธาไว้ไม่เคยดับ เพื่อถวายแด่ “หลวงพ่อแหวง” ผู้มีวาจาสิทธิ์และอาบไฟต่างน้ำ หลังมรณภาพมากว่า 50 ปีแล้ว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคใต้ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานพังงา ชวนผู้สนใจไปสัมผัสอันซีนพังงาที่ “วัดคึกคัก” ซึ่งภายในวัดมีสิ่งชวนทึ่ง คือ “กองไฟแห่งศรัทธา” ไม่เคยดับ ที่ชาวบ้านได้ก่อไฟถวาย “หลวงพ่อแหวง” หลังจากท่านมรณภาพมาจนถึงทุกวันนี้
“วัดคึกคัก” ตั้งอยู่ที่ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2452 วัดแห่งนี้ตั้งชื่อตามชื่อชุมชมคึกคัก ซึ่งแต่เดิมเรียกกันว่า “บ้านคุกคัก” ตามเสียงของน้ำที่ไหลกระทบกับโขดหินในลำคลองดัง “คุกคัก คุกคัก” ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อชุมชนเป็นตำบลคึกคักในเวลาต่อมา
วัดคึกคัก ปัจจุบันมีชื่อทางการว่า “วัดคมนียเขต” ที่หมายถึง ภูมิประเทศสวยงาม มีสายน้ำล้อมรอบเป็นขอบเขต แต่ว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังนิยมเรียกกันว่า “วัดคึกคัก” อยู่เหมือนเดิม
วัดคึกคักเป็นอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงแห่งฝั่งอันดามันอันมาจากพลังศรัทธาที่มีต่อ “หลวงพ่อแหวง อาภากโร” อดีตเจ้าอาวาสวัดคึกคักที่มีผู้คนเคารพเลื่อมใสกันเป็นจำนวนมาก
หลวงพ่อแหวง หรือ “พ่อท่านแหวง” เป็นเกจิชื่อดังรูปหนึ่งในฝั่งอันดามัน ท่านเป็นพระที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม มีจริยาวัตรเรียบง่าย ปฏิบัติสมาธิ วิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัด อีกทั้งใฝ่ศึกษาวิชาไสยเวท ร่ำเรียนวิทยาคม อีกทั้งท่านยังได้ชื่อว่าเป็นผู้มี “วาจาสิทธิ์” พูดเป็นไปตามปาก จนเป็นที่นับถือเคารพศรัทธาของผู้คนจำนวนมาก
หลังหลวงพ่อแหวงมรณภาพเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2511 สิริรวมอายุ 87 ปี พบว่าสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย ทางวัดจึงได้นำสังขารของท่านบรรจุไว้ในโลงแก้วให้ผู้คนได้กราบสักการะกัน
นอกจากนี้บรรดาศิษยานุศิษย์ยังจัดสร้างรูปเคารพหลวงพ่อแหวงขนาดเท่าตัวจริงตั้งไว้ในกุฏิไม้ ภายในวัดคึกคัก ให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้กราบไหว้
บริเวณด้านหน้ากุฏิหลังดังกล่าว ซึ่งหลาย ๆ คนเรียกกันว่า “กุฏิหลวงพ่อแหวง” จะมีกองไฟไม้ฟืนล้อมด้วยก้อนหินจุดให้เปลวเพลิงอยู่ทั้งวันไม่เคยดับ และจะมีคนมาคอยเติมไม้ฟืนใส่อยู่ตลอด สร้างความน่าทึ่งและความสงสัยให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้ามาทำบุญกับทางวัดไม่น้อย
บริเวณด้านหน้ากุฏิหลังดังกล่าว ซึ่งหลาย ๆ คนเรียกกันว่า “กุฏิหลวงพ่อแหวง” จะมีกองไฟไม้ฟืนล้อมด้วยก้อนหินจุดให้เปลวเพลิงอยู่ทั้งวันไม่เคยดับ และจะมีคนมาคอยเติมไม้ฟืนใส่อยู่ตลอด สร้างความน่าทึ่งและความสงสัยให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้ามาทำบุญกับทางวัดไม่น้อย
เหตุที่ทางวัดคึกคักได้ทำเช่นนี้ เนื่องจากตอนที่มีชีวิตหลวงพ่อแหวงได้ “ผิงไฟ” มาตลอดชีวิต โดยท่านจะสรงน้ำเพียงปีละครั้งในวันสงกรานต์เท่านั้น จนชาวบ้านกล่าวขานกันว่าท่าน “อาบไฟแทนน้ำ”
นับได้ว่านี่คือกองไฟแห่งศรัทธาที่ไม่เคยดับ ซึ่งชาวบ้านที่นี่ได้ก่อถวายแด่หลวงพ่อแหวง หลังมรณภาพมาจนถึงทุกวันนี้เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว
ขณะที่ใกล้ ๆ กับกุฏิหลวงพ่อแหวง เป็นที่ตั้งของ ศาลา “อนุสาวรีย์หลวงพ่อแหวง อาภากโร” ภายในมีรูปเคารพหลวงพ่อแหวงและสังขารไม่เน่าเปื่อยของท่านให้กราบสักการบูชา ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของวัดคึกคักที่ใครไปเยือนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
##################
ภาพ : อโนทัย งานดี