หลังจากทีเซอร์สั้นๆ ซิงเกิลใหม่ “Rockstar” ของ “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ซูเปอร์สตาร์ชาวไทย ที่ปรากฏภาพ “เยาวราช” หรือ ไชน่าทาวน์ บางกอก เป็นฉากสำคัญ ก็กลายเป็นกระแสให้คนกล่าวถึงกันไปทั่วประเทศ
จนกระทั่งเช้าวันนี้ (28 มิ.ย.) เวลา 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ทุกคนก็ได้ชมเอ็มวีฉบับเต็มกันไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตอกย้ำให้เห็นว่า ลิซ่า เป็นเจ้าแม่แห่ง Soft Power ให้ประเทศไทยอย่างแท้จริง เพราะทำให้ทุกคนกล่าวถึงและให้ความสนใจเยาวราชกันอย่างคึกคักที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งเชื่อว่าจากนี้ไป เยาวราชที่คึกคักอยู่แล้วนั้น จะยิ่งได้รับความนิยม มีแฟนเพลงจากทั่วโลกเดินทางมาตามรอยกันอีกเป็นจำนวนมาก
ชวนคุณมาตามรอย “Rockstar” พร้อมทั้งรู้จักเยาวราชกันให้มากขึ้น
จุดเริ่มต้นของถนนประวัติศาสตร์
เยาวราชถือกำเนิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างถนนเยาวราชขึ้นในปี พ.ศ. 2435-2443 ด้วยเห็นว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งค้าขายสำคัญของชาวจีนกับต่างชาติ
ถนนตั้งต้นจากบริเวณคลองโอ่งอ่าง ไปจนถึง วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นระยะทาง 1,523 เมตร จากประกาศกรมโยธาธิการ เมื่อวันที่ 30 มกราคม รัตนโกสินทรศก 110 (พ.ศ. 2435) ลงนามโดย กรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์(ยศสมัยนั้น) ได้ระบุไว้ดังนี้
“มีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งให้กรมโยธาธิการสร้างถนนขึ้นใหม่สายหนึ่งแซกลงในระหว่างกลางแห่งถนนเจริญกรุงแลถนนสามเพ็ง ตั้งแต่ต้นป้อมมหาไชยตัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เข้าบรรจบถนนเจริญกรุงตรงตะพานวัดสามจีน โดยยาว 1430 เมเตอร (หรือ 35 เส้น 15 วา) โดยกว้าง 20 เมเตอร (หรือ 10 วา) เป็นทางรถกว้าง 7 วา ทางคนเดินกว้างข้างละ 6 ศอก พระราชทานชื่อว่า “ถนนเยาวราช”
ชื่อนี้มีความหมาย
แรกเริ่มมีการใช้ชื่อถนนสายนี้ว่า “ถนนยุพราช” แต่ต่อมา รัชกาลที่ ๕ ทรงพระราชทานชื่อใหม่ ซึ่งคำว่า “เยาวราช” มีความหมายว่า “พระราชาที่ทรงพระเยาว์” หมายถึง รัชกาลที่ ๕ ที่ทรงขึ้นครองราชย์ เมื่อทรงมีพระชนมายุเพียง 15 พรรษา
มีอีกหนึ่งเกร็ดน่าสนใจ เนื่องด้วย รัชกาลที่ ๕ ทรงมีพระราชประสงค์มิให้ตัดถนนถูกที่ดินของชาวบ้าน โดยให้ใช้แนวเดิมที่เป็นทางเกวียนหรือแนวทางเดินมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ส่งผลให้ถนนเยาวราช มีความคดเคี้ยวดูแล้วคล้ายมังกร จนได้สมญานามว่า “ถนนมังกร” อีกชื่อหนึ่ง
หลังจากนั้นถนนสายนี้ก้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไชน่าทาวน์” ของเมืองไทย แต่ชื่อเรียก ถนนเยาวราช ก็ยังเป็นที่นิยมที่สุดสืบต่อมาจนปัจจุบัน
ความเจริญรุ่งเรืองของถนนสายเศรษฐกิจ
เยาวราช กลายเป็นเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ และยังเป็นแหล่งบันเทิงที่โด่งดังของเมืองกรุงอีกด้วย สมัยก่อนเยาวราชมีตึก 7 ชั้น ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในเมืองไทย และต่อมาก็เป็นตึก 9 ชั้น คือ “โรงแรมนิวเก้าชั้น”
ในยุคสมัยรุ่นคุณปู่คุณย่ายังหนุ่มสาวตำนานของตึก 7 ชั้นและตึก 9 ชั้น ถือว่าเป็นแหล่งท่องราตรีของนักเที่ยวทั้งหลายที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น ไนท์คลับ ร้านอาหาร โรงแรม โรงน้ำชา ซ่องโสเภณีหรือบ่อนการพนัน แต่ปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้วตามกาลเวลา
โดยทุกวันนี้ เยาวราช มีชื่อเสียงมากที่สุดในฐานะของการเป็นแหล่งสตรีทฟูดระดับโลก และยังเป็นย่านท่องเที่ยวที่คึกคักมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร
รู้จักเยาวราชผ่านนิทรรศการ
ใครอยากรู้จักเยาวราชตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน แนะนำว่าให้เดินทางไปยัง “ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช” ที่ตั้งอยู่ ณ วัดไตรมิตรฯ ที่นี่เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ถ่ายทอดเรื่องราว ให้ได้รู้ว่าชุมชนแห่งนี้มีที่มาอย่างไร ก่อนจะมาเป็นย่านเศรษฐกิจท่องเที่ยวระดับโลกในปัจจุบัน
นิทรรศการผสมผสานเรื่องราวเชื่อมโยงถึงกันซึ่งเกิดขึ้นในชุมชนอันคึกคัก ได้แก่ ปูชนียวัตถุสำคัญพุทธศาสนา และประวัติความเป็นมาของชุมชนเยาวราช ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชุมชนเก่าแก่ของไทยโดยตรง
จัดแสดงด้วยรูปแบบนิทรรศการ สื่อมัลติมีเดียทันสมัย เช่น ถ่ายทอดเรื่องราวยุคเริ่มต้นของชาวจีนอพยพ ซึ่งเป็นที่มาของวลีเสื่อผืนหมอนใบ, “กำเนิดชุมชนจีนแห่งกรุงรัตนโกสินทร์” เล่าการกำเนิดชุมชนสำเพ็ง และย้อนไปสัมผัสช่วงเวลาที่ชาวจีนอพยพมาด้วยท้องเรือสำเภาหัวแดง จำลองบรรยากาศการเดินทาง ท่ามกลางพายุฝนก่อนจะมาถึงท่าเทียบเรือแผ่นดินไทย “เส้นทางสู่ยุคทอง” ช่วงเวลาแห่งความเจริญเติบโต ของธุรกิจค้าข้าว และธุรกิจทันสมัยประเภทอื่น ปลุกความคึกคักเฟื่องฟูของย่านการค้า และเคยเป็นแหล่งที่มีตึกสูงที่สุดในกรุงเทพฯ เป็นต้น
ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ตั้งอยู่ชั้น 2 พระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติฯ วัดไตรมิตรวิทยาราม
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline