ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้นำ Soft Power เบอร์ต้น ๆ แห่งยุค สำหรับ “ลิซ่า BlackPink” หรือ “ลลิษา มโนบาล” ซึ่งไม่ว่าเธอจะหยิบจับอะไร ไปไหนมาไหน หรือโพสต์อะไร ล้วนต่างก็ฮอตฮิตฟีเวอร์ เกิดเป็นกระแสไวรัลเพียงชั่วข้ามคืน ส่วนสินค้าก็ขายดีถล่มทลายจนขาดตลาด
และด้วยความที่ลิซ่าเป็นคนไทยที่ไม่เคยลืมความเป็นไทย มีสำนึกความรักบ้านเกิดอยู่เต็มเปี่ยม เธอจึงมักจะนำเสนอ Soft Power ความเป็นไทย และโปรโมทประเทศไทยอยู่เสมอทั้งทางตรงและทางอ้อม
อย่างล่าสุดใน MV เพลง “ROCKSTAR” ซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดของลิซ่าก็ได้เลือกโลเคชัน “เยาวราช” ย่านไชน่าทาวน์ชื่อดังของเมืองไทยให้เป็นหนึ่งในฉากสำคัญ พร้อมโปรโมทลงในทีเซอร์เปิดตัวเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา ก่อนที่เพลงนี้จะปล่อยเวอร์ชั่นเต็มในวันที่ 28 มิ.ย. 67
ในทีเซอร์ MV เพลง ROCKSTAR ได้เลือกนำเสนอเยาวราชยามราตรีในมุมที่แตกต่าง ซึ่งถือเป็นการช่วยโปรโมทย่านเยาวราชและประเทศไทยผ่าน MV เพลงดังกล่าวของลิซ่าได้เป็นอย่างดี จนหลายคนคาดว่า อิทธิพลความดังของเพลงนี้จะส่งผลให้เยาวราชแตกแน่ ๆ เพราะมีคนแห่มาเที่ยวตามรอยลิซ่ากันอย่างเนืองแน่น
นอกจากนี้ในทีเซอร์ MV เพลงดังกล่าวยังมีฉากที่ชาวเน็ตว่ากันว่าถ่ายที่ห้างนิวเวิลด์ บางลำพู หรือไม่ก็เป็นที่โรงหนังเก่าออสการ์ ส่วนแดนเซอร์ นักแสดงประกอบ และผู้ร่วมงานก็ใช้คนไทยเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่ก่อนหน้านั้นลิซ่าได้นำเสนอ Soft Power ไทยแบบจัดเต็มใน MV เพลง LALISA ซิงเกิ้ลเปิดตัวผลงานเดี่ยวครั้งแรกของลิซ่า ซึ่งได้ใส่เสน่ห์ความเป็นไทยต่าง ๆ เข้าไปใน MV เพลงนี้ ได้แก่
-ปราสาทหินพนมรุ้ง : มีการนำภาพจำลองปราสาทหินพนมรุ้ง สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของบุรีรัมย์ จังหวัดบ้านเกิดของลิซ่า-ลลิษา มโนบาล มาใช้เป็นหนึ่งในฉากสำคัญใน MV เพลง LALISA โดยนำส่วนของ “ซุ้มประตู” ทางเข้าด้านหน้าที่จะเดินผ่านเข้าสู่ตัวปราสาทประธานมานำเสนอเป็นฉากเด่นใน MV เพลงนี้
-ผ้าไหมยกดอกลำพูน ปราฏในฉากที่ลิซ่านั่งอย่างสวยสง่าบนบัลลังก์ทองดุจนางพญา ด้วยชุดไทยประยุกต์อันสวยงาม เป็นเสื้อไหล่เดี่ยว แต่งเคปยาว และกระโปรงสั้นจับเดรปผ้าไหมสีเหลืองทอง ที่ตัดเย็บจาก “ผ้าไหมยกดอกลำพูน ลายพานจักรพรรดิยกทอง” ประดับด้วยคริสตัลจาก Swarovski ที่ปักด้วยมืออย่างประณีต สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย สร้างความโดดเด่นสะดุดตาให้กับผู้ชมได้
-รัดเกล้ายอด ปรากฏอยู่ในฉากที่ลิซ่าสวมชุดไทย (ผ้าไหมยกดอกลำพูน) โดยเธอสวมเครื่องประดับศีรษะหรือศิราภรณ์ ที่เรียกว่า “รัดเกล้ายอด” ซึ่งเป็นศิราภรณ์ประกอบการแสดงของไทย ที่เป็นหนึ่งในงานวิจิตรศิลป์ของไทยที่งดงามเป็นเอกลักษณ์
สำหรับอีกหนึ่ง Soft Power แฟชั่นไทยที่ลิซ่าได้เคยสร้างปรากฏการณ์ไว้ก็คือ เมื่อเธอกับเพื่อนร่วมวง BLACKPINK ได้เดินทางมาเปิดคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ENCORE ที่ประเทศไทย เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค. 2566 หลังจบคอนเสิร์ต ลิซ่าที่ยังคงอยู่พักผ่อนต่อที่เมืองไทย ได้เดินทางไปไหว้พระที่เมืองกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยลิซ่าได้สวมผ้าไทยนุ่งผ้าถุงหรือผ้าซิ่นเป็น “ผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมคราม” จากร้านผ้าไทยที่อุดรธานี ของคุณแม่น้องเดียร์น่า ฟลีโป ดารานักแสดงเพื่อนสนิทของลิซ่า ซึ่งทั้งคู่ (กับเพื่อน ๆ) ได้ร่วมทริปไปไหว้พระที่ วัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ และวัดแม่นางปลื้ม (ตามปรากฏใน IG)
หลังจากนั้นได้เกิดไวรัลลิซ่านุ่งผ้าซิ่น ปลุกกระแสผ้าไทยดังไกลทั่วโลก มีคนแต่งชุดไทยไปเที่ยวเมืองกรุงเก่า ไหว้พระ 3 วัด คือ วัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ และวัดแม่นางปลื้ม ตามรอยลิซ่ากันเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไท (ททท.)” นำมาจัดเป็นเส้นทางท่องเที่ยว ปักหมุดวัดสำคัญเมืองกรุงเก่าอยุธยา ให้คนได้เที่ยวตามรอยลิซ่ากัน ขณะที่ผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมคราม รวมถึงผ้าซิ่นไทย ๆ อื่น ๆ ก็พลอยขายดีไปตาม ๆ กัน
สำหรับอีกหนึ่ง Sof Power ไทย สุดปังที่เกิดกระแสฟีเวอร์มาจากลิซ่าก็คือด้านอาหารการกิน เริ่มจาก “ลูกชิ้นยืนกิน” ซึ่งลิซ่าได้เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ WOODY SHOW เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาว่า สิ่งหนึ่งที่เธออยากทำเมื่อได้กลับประเทศไทย คือไปกินลูกชิ้นยืนกิน ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์
แม้จะเป็นเพียงถ้อยคำสั้น ๆ แต่หลังจากนั้นมันส่งผลให้ลูกชิ้นยืนกินบริเวณสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ซึ่งเดิมรู้จักกันเฉพาะกลุ่ม โด่งดังขึ้นมาเพียงชั่วข้ามคืน ทำร้านลูกชิ้นยืนกินแถวนั้นขายดิบขายดี ทั้งยังกลายเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของจังหวัดบุรีรัมย์ที่ใครไปเยือนเมืองปราสาทหินต้องไม่พลาดลูกชิ้นยืนกินด้วยประการทั้งปวง
ขณะที่ “โรตีสายไหม” และ “นมถุงหนองโพ” ก็เป็นของกินอีก 2 อย่างที่ได้รับอานิสงส์จากลิซ่า หลังเธอโพสต์ของกินทั้ง 2 ลงใน IG จนทำให้เกิดกระแสกินโรตีสายไหมและนมถุงหนองโพตามลิซ่ากันเป็นจำนวนมาก
รวมถึงเมื่อลิซ่าไปกินข้าวกับคุณแม่ที่ “ร้านเจ๊ไฝ” ร้านอาหารชื่อดังได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินในประเภทสตรีทฟู้ดแห่งแรกของเมืองไทยก็ได้กลายเป็นไวรัลสุดปังอีกเช่นกัน
และด้วยความโด่งดังของ ลิซ่า BlackPink ไอดอลสาวแห่งยุค ซึ่งเธอได้สร้างชื่อเสียงมากมายให้กับประเทศไทย ทำให้ทีมวิจัยนักวิจัยสังกัดภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่นำโดย ผศ. ดร.ธนวัฒน์ เชาวสกู น.ส.อานิสรา ดำทองดี นักศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิชาความหลากหลายทางชีวภาพและชีววิทยาชาติพันธุ์ และนายอับดุลรอแม บากา นักวิจัยสังกัดกลุ่มวิจัยอิสระ PDiT: Plant Diversity in Thailand ได้ตั้งชื่อพืชดอกหอมชนิดใหม่ของโลกที่พบแห่งแรกในเมืองไทยที่จังหวัดนราธิวาสว่า “บุหงาลลิษา” เพื่อเป็นเกียรติแก่ “ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า -Blackpink” ศิลปินชื่อก้องโลกชาวไทย
วันนี้ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า -Blackpink นอกจากจะเป็นซุปตาร์สาวคนดังแห่งยุคแล้ว เธอยังเป็นหนึ่งในผู้นำ Soft Power ความเป็นไทยไปประกาศศักดาให้โลกรู้ อันมาจากตัวตนของเธอที่เป็นคนไทยซึ่งไม่เคยลืมความเป็นไทย และมีสำนึกความรักบ้านเกิดอยู่เต็มเปี่ยม