“โต๊ะแดง” และ “หว่ออ้ายหนี่” ร้านอร่อยสไตล์ภูเก็ตแห่ง “บ้านอาจ้อ”

การได้รางวัล “บิบ กูร์มองด์" จากมิชลินไกด์ไทยแลนด์ สามปีซ้อน (2022-2024) และมีพิพิธภัณฑ์ชุมชนให้นักท่องเที่ยวได้ชม นับเป็นเครื่องรับประกันได้อย่างหนึ่งว่า “ร้านโต๊ะแดง” แห่ง “บ้านอาจ้อ” เป็นร้านอาหารที่ควรค่าแก่การไปเยือนเมื่อไปภูเก็ต โดยเฉพาะในวันนี้ มีสีสันใหม่เพิ่มขึ้น คือ “หว่ออ้ายหนี่” ร้านอาหารที่เปิดรองรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ในบรรยากาศร่วมสมัยที่ตั้งอยู่เคียงข้างกัน



หนึ่งในจุดเช็กอินที่เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารชื่อดังในย่านหาดไม้ขาว ต้องยกให้ “บ้านอาจ้อ” (คุณทวด) คฤหาสน์งามที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 ในสไตล์ “อั้งม้อหลาว” (บ้านฝรั่ง) หรือสถาปัตยกรรมชิโน-โคโลเนียล ซึ่งเดิมเป็นบ้านของ “หลวงอนุภาษภูเก็ตการ” ชาวจีนโพ้นทะเลผู้อพยพมาทำกิจการเหมืองแร่ และเป็นต้นตระกูล “หงษ์หยก” หนึ่งในตระกูลคหบดีชื่อดังของเมืองภูเก็ต

บ้านอาจ้อได้รับการรีโนเวทจากทายาทรุ่นที่ 4 ซึ่งนอกจากการบูรณะให้กลับมางดงามดังเดิมเพื่อเป็นของขวัญแด่บรรพบุรุษแล้ว ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมในฐานะพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวภูเก็ตในวันวาน ผ่านข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับต่างๆ


ส่วน “ร้านโต๊ะแดง” ที่อยู่ติดกันนั้น ก็นับเป็นการถ่ายทอดวัฒนธรรมอาหารการกินพื้นเมืองภูเก็ต สูตรความอร่อยของบรรพบุรุษ พร้อมทั้งจำลองโรงครัวสไตล์ปีนัง ท่ามกลางบรรยากาศแบบวินเทจโดยมีโต๊ะไม้สีแดงสดเป็นเอกลักษณ์


นอกจากนี้ ความพิเศษที่มีเพิ่มขึ้นเป็นอีกทางเลือก คือ “ร้านหว่ออ้ายหนี่” ที่มีความหมายภาษาไทยว่า “ฉันรักเธอ” เป็นอาคารใหม่สร้างขึ้นในอาณาบริเวณใกล้เคียงกัน ได้แรงบันดาลใจจากเตี้ยมฉู่ หรือห้องแถวหลังแรกของอาจ้อในเขตเมืองเก่าของภูเก็ต ออกแบบเป็นอาคารชั้นเดียวกระจกใสโปร่งโล่งจากด้านหน้า ใช้ลูกกรงเหล็ก ประตูเหล็กจากโรงรถ และประดับไฟสีแดงสดใสของศาลเจ้าบ้านไว้สะดุดตาตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าไป

ร้านหว่ออ้ายหนี่ เป็นอาหารเมนูอร่อยแบบเดียวกันกับโต๊ะแดง เปิดรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้น มีประมาณ 100 ที่นั่ง ไม่ว่าจะมารับประทานเป็นกลุ่มเล็ก ไปจนถึงกลุ่มสัมนา หรือจัดงานสังสรรค์เฉพาะกลุ่มก็เหมาะ


เมนูที่ร้าน “โต๊ะแดง และ หว่ออ้ายหนี่” เป็นอาหารไทย-จีน ที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารพื้นเมืองภูเก็ต หากินได้ยาก เพราะบางเมนูเป็นสูตรความอร่อยที่ทำกันในครอบครัว หรือหลายเมนู ก็ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นภูเก็ต ขณะที่วัตถุดิบบางอย่างเช่น พืชผัก ก็นำมาจากแปลงเพาะปลูกปลอดสารที่ปลูกไว้ในบริเวณบ้านอาจ้อ

เมนูแนะนำทั้งสองร้านที่อยากให้ลิ้มลอง เช่น ผักลิ้นห่านไฟแดง (250 บาท) ผักท้องถิ่นริมทะเลอันดามัน ที่มีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงเลือด แก้ท้องอืด นิยมมาทำต้มกะทิหรือผัดผัก ซึ่งทางร้านเลือกนำมาผัดคู่กับกุ้งเสียบ อีกหนึ่งของดีภูเก็ต ความเค็มมันของกุ้งจึงตัดรสฝาดของผักลิ้นห่านเข้ากันได้ดี


ต้มส้มปลายานัด (380 บาท) ต้มส้มปลาแบบโบราณของภูเก็ต ที่เลือกใช้ความหวานอมเปรี้ยวได้มาจากสับปะรดพันธุ์พื้นเมือง เติมความเผ็ดซ่าด้วยขิงซอย เสิร์ฟมาพร้อมปลากะพงชิ้นโตที่คัดสรรมาจากชาวประมงท้องถิ่น กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือซดน้ำต้มส้มเปล่าๆก็คล่องคอ


อ๋วนปลา (220 บาท) หรือลูกชิ้นเนื้อปลาล้วนสไตล์ภูเก็ตที่ชิ้นใหญ่มาก เด้งๆหนุบๆ โรยกะเทียมเจียมไว้ตรงกลาง เพิ่มความมันและความกรุบกรอบ และยิ่งสมบูรณ์แบบเมื่อจิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟูด


เกี้ยนทอด (280 บาท) อาหารเรียกน้ำย่อยสูตรจีนฮกเกี้ยน คล้ายฮ่อยจ๊อ หรือจะเรียกว่าไส้กรอกพื้นเมืองสไตล์ภูเก็ตก็ไม่ผิด ใช้หมูสับ รสเค็มๆมันๆ กรอบนอก นุ่มใน กินคู่กับซอสพริกตัดเลี่ยน


หมี่กรอบบ้านอาจ้อ (350 บาท) ความกรอบเหนียวหนึบๆของหมี่รสไม่หวานมากเข้ากับกุ้งตัวโตสดใหม่เนื้อแน่นๆ และได้ความหวานมันของกะเทียมดองเป็นส่วนผสมเข้ากัน


ไก่คั่วเม็ดล่อ (250 บาท) หรือไก่ผัดมะม่วงหิมพานต์ ความหวานของเนื้อไก่กับซอสผัดคลุกเคล้าแห้งจนได้ที่เข้ากับความมันกรุบของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ รสหวานนำ ไม่เผ็ด


ปลาทอดสมุนไพรกะเพรากรอบ (650 บาท) ปลากะพงชิ้นโต ทอดแบบแห้ง แต่ยังคงความเหนียวนุ่มของเนื้อปลาข้างใน หอมกลิ่นสมุนไพรและใบกะเพรา หั่นมาให้เป็นชิ้นพอดีคำ รสเค็มกำลังดี กินกับข้าวร้อนๆ หรือน้ำจิ้มซีฟูดก็ได้


นอกจากเมนูข้างต้นแล้ว ทั้งสองร้านยังมีอาหารอีกหลากหลายในสไตล์พื้นเมืองภูเก็ตให้เลือกชิม ไม่ว่าจะเป็น แกงคั่วมอต๊าน หรือแกงคั่วหมูย่างใส่เงาะ, หมูฮ้อง, จักจั่นทะเลทอดกรอบ, แกงส้มภูเก็ต, ยำยานัด ฯลฯ ซึ่งความอร่อยทั้งหมดนี้ ก็ได้รับการันตีด้วยมิชลินไกด์ 3 ปีซ้อน ประเภทบิบ กูร์มองด์


ข้อมูลติดต่อ
ร้านโต๊ะแดง และ ร้านหว่ออ้ายหนี่ (บ้านอาจ้อ)
102 หมู่ 3 ถนนเทพกระษัตรี ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
เปิด 10.00 – 21.00 น. โทร. 06-2459-8889
facebook.com/BaanArJor

สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตเคทีซี
โต๊ะแดง - บ้านอาจ้อ
สิทธิพิเศษที่ 1 : รับฟรี ซอร์เบต์ผลไม้ตามฤดูกาล มูลค่า 80 บาท เมื่อรับประทานครบ 800 บาทขึ้นไป/เซลส์สลิป
สิทธิพิเศษที่ 2 : แลกรับเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ/เซลส์สลิป (ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ทุกครั้งที่มียอดใช้จ่ายภายในวันเดียวกัน) 

จนถึง 31 ต.ค. 2567

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline