xs
xsm
sm
md
lg

ห้วยขาแข้ง ประกาศปิดการท่องเที่ยว “หอนกยูง” ตามล่า “นกยูงเผือก” หวั่นผสมข้ามสายพันธุ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ห้วยขาแข้ง ไม่นิ่งนอนใจ ประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณหอดูสัตว์ป่าโป่งช้างเผือก หรือ หอนกยูง เป็นการชั่วคราว เร่งล่านกยูงเผือก ป้องกันการผสมข้ามสายพันธุ์


ภาพ: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
หลังจากเป็นข่าวดัง เมื่อเพจกลุ่มดูนกมีผู้บันทึกภาพ “นกยูงอินเดียสีขาว” เดินหากินร่วมกับนกยูงไทยที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง” ซึ่งจากกรณีดังกล่าว นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ “หมอหม่อง” ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนกของเมืองไทย ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องดังกล่าวว่าเป็นเรื่องใหญ่ หากมีการผสมข้ามพันธุ์กับนกยูงไทย
จะเกิดการปนเปื้อนทางพันธุกรรมทำให้นกยูงไทยสูญเสียความเป็นนกยูงไทยแท้

กรณีดังกล่าว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 มิ.ย.67) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จึงประกาศปิดหอนกยูงชั่วคราว โดยระบุว่า

ประกาศ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เรื่อง ประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณหอดูสัตว์ป่าโป่งช้างเผือก


ด้วย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งตรวจพบนกยูงสายพันธุ์อินเดียและนกยูงที่คาดว่าเป็นสายพันธุ์ผสม บริเวณพื้นที่หอดูสัตว์ป่าโป่งช้างเผือก หากินร่วมกับนกยูงสายพันธุ์ไทย ซึ่งอาจเกิดผลกระทบหากเกิดการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ระหว่างนกยูงสองชนิด


เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดการผสมข้ามสายพันธุ์จึงได้ประสานงานกับนายสัตวแพทย์และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ดำเนินการค้นหาและเคลื่อนย้ายนกยูงสายพันธุ์อินเดียและนกยูงที่คาดว่าเป็นสายพันธุ์ผสมออกจากพื้นที่ จึงขอประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณ หอดูสัตว์ป่าโป่งช้างเผือก ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะดำเนินการเรียบร้อย

ทั้งนี้ แฟนเพจ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ระบุว่า ขออนุญาตปิดการเข้าเยี่ยมชมสัตว์ป่า ณ หอดูสัตว์ป่าโป่งช้างเผือก (หรือหอนกยูง) หากมีการเปิดให้บริการแล้ว จะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกครั้ง ส่วนในพื้นที่บริการศึกษาธรรมชาติอื่น ยังสามารถเยี่ยมชมได้ตามปกติ

ภาพ: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น