เวียดนามเดินหน้าการท่องเที่ยวด้วยรถไฟสุดหรูเป็นเส้นทางที่สอง จากเมือง “ญาจาง” ไป “กวีเญิน” สัมผัสธรรมชาติเมืองชายฝั่งตอนใต้ของเวียดนามด้วยการเดินทางสุดคลาสสิก
การท่องเที่ยวด้วยรถไฟ ยังเป็นตัวเลือกที่มีเสน่ห์แตกต่างเสมอ การนั่งรถไฟมองเส้นขอบฟ้าของเมืองผ่านหน้าต่างไปสู่ทิวทัศน์ธรรมชาติอันเขียวชอุ่มในขณะที่เดินทาง ย่อมเป็นประสบการณ์สุดประทับใจของใครหลายคน
ผู้เชี่ยวชาญด้านรถไฟระบุว่า นักเดินทางที่ชื่นชอบความหรูหรานั้นมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และต้องการสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกไปสู่กิจกรรมการท่องเที่ยวที่ช้าลงและยั่งยืน
อนันตราเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการบริการที่ตอบสนองความต้องการนี้ โดยแบรนด์โรงแรมระดับไฮเอนด์พร้อมนำเสนอประสบการณ์รถไฟหรูขบวนใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงในเวียดนามตอนใต้ เชื่อมต่อจุดหมายปลายทางเมืองพักตากอากาศยอดนิยมอย่าง “ญาจาง” กับ “กวีเญิน” ซึ่งเป็นรถไฟเส้นทางหรูเส้นทางที่สองของเวียดนาม
โดยก่อนหน้านี้ ขบวนรถไฟหรู “The Vietage by Anantara” ขบวนแรก เปิดตัวในปี ค.ศ. 2020 เชื่อมต่อระหว่าง “ดานัง” กับ “กวีเญิน” ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง
เคท โจนส์ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาดของ Ananatara ประจำเวียดนามเปิดเผยว่า รถไฟขบวนใหม่ มีเป้าหมายเพื่อให้นักเดินทางได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่สวยงามของเวียดนามมากยิ่งขึ้น โดยมีข้อแตกต่างที่สำคัญ คือ เส้นทางใหม่ที่เชื่อมต่อญาจาง-กวีเญิน ตัดผ่านพื้นที่ชายฝั่งทะเลมากกว่า ทั้งนี้รถไฟขบวนดังกล่าวยังเชื่อมต่อกับทางรถไฟเชิงพาณิชย์ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลเวียดนาม ซึ่งวิ่งขึ้นและลงทั่วประเทศ
หลังจากความสำเร็จของเส้นทางที่กำลังดำเนินการระหว่างดานัง-กวีเญิน รถไฟคันที่สองที่ได้รับการอัปเกรดนี้มุ่งเป้าไปที่เมืองท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลที่มีชื่อเสียงอย่างญาจาง ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์รถไฟประเภทนี้ในเมืองภาคใต้ตอนกลาง
“เส้นทางตัดผ่านพื้นที่ชายฝั่งหลายแห่ง มีวิวรอบข้างมากมายที่น่าประทับใจและโดดเด่น ทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขา นาข้าว และสระบัว แต่ทิวทัศน์ชายฝั่งก็ยังคงเป็นจุดขายสำคัญสำหรับการเดินทาง 5 ชั่วโมง”
การเดินทางที่ช้าของรถไฟที่มีความเร็วเฉลี่ย 51.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยให้ผู้โดยสาร มีเวลาเหลือเฟือในการเพลิดเพลินกับชุดน้ำชายามบ่ายฟรี ซึ่งรวมถึงคาเวียร์ท้องถิ่น ชีสโฮมเมดของเวียดนาม เนื้อที่คัดสรรมาอย่างดี และชาเวียดนามระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังได้รับของว่างฟรี ไวน์ไม่จำกัด ค็อกเทล ม็อกเทล ชา กาแฟ และน้ำอัดลม พร้อมทรีตเมนต์ศีรษะและไหล่ 15 นาที
ขบวนรถไฟของ Vietage มีบาร์นั่งเล่นห้องน้ำ และพื้นที่ส่วนตัว 6 แห่ง พร้อมที่นั่ง XNUMXที่นั่งโดยแต่ละตู้มีปลั๊กไฟสถานีชาร์จ Wi-Fiฟรีและตะกร้าอุปกรณ์อาบน้ำพร้อมหมอนผ้าห่มและสิ่งของที่จำเป็นอื่นๆ
นอกจากนี้หากนักท่องเที่ยวต้องการรวมการเดินทางด้วยรถไฟเข้ากับการเข้าพักในโรงแรมของอนันตรา เช่น อนันตรา ฮอยอันรีสอร์ท,อนันตรา กวีเญินวิลล่า หรืออวานี กวีเญิน รีสอร์ท ก็สามารถจองแพ็คเกจการเดินทางได้ที่เว็บไซต์โรงแรม
ในด้านความต้องการในปัจจุบัน โจนส์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวหลายคนหันมาใช้การเดินทางด้วยรถไฟมากกว่า การเร่งรีบผ่านสนามบินเพื่อเดินทางจากจุด A ไป B
“อุตสาหกรรมการบินภายในประเทศในเวียดนามในขณะนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายบางประการด้วยการหายไปของสายการบินและจำนวนฝูงบินของสายการบินแห่งชาติที่ลดลง ดังนั้นการเดินทางทางอากาศโดยรวมจึงไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน แถมยังมีราคาแพงเกินไป”
“Vietage เป็นประสบการณ์เดียวในเวียดนาม และแน่นอนว่าด้วยการกลับมาของรถไฟ Belmond ทำให้เกิดความตระหนักรู้เกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟที่หรูหราที่กำลังเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
นอกเหนือจากการเดินทางอย่างช้าๆ และยั่งยืนมากขึ้นแล้ว โจนส์ยังกล่าวว่านักเดินทางด้วยรถไฟยังได้รับข้อมูลเชิงลึกด้วยภาพจริงเกี่ยวกับประเทศ ผ่านการชมทิวทัศน์ต่างๆ เช่น หมู่บ้านในชนบท ชาวประมงกำลังทอดแห ชาวนาในทุ่งนาที่มีควายน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อนอย่างแน่นอนบนเครื่องบิน
ราคาโดยสาร
เส้นทางใหม่ ญาจาง-กวีเญิน
การเดินทางเที่ยวเดียว ราคา 420 ดอลลาร์ต่อคน (ประมาณ 15,200 บาท)
ออกจากสถานีรถไฟญาจางเวลา 14.00 น. ถึงสถานี Dieu Tri ในกวีเญิน เวลา 18:29 น.
ขากลับ ออกจากสถานีรถไฟ Dieu Tri เวลา 14.15 น. - ถึงสถานีรถไฟญาจางเวลา 18:36 น.
ส่วนเส้นทางแรก ดานัง-กวีเญิน
ราคาอยู่ที่ 315 ดอลลาร์ต่อคน (ประมาณ11,400 บาท)
ออกจากสถานีรถไฟดานังเวลา 8.00 น. ถึงสถานี Dieu Tri ในเมืองกวีเญินเวลา 14.03 น.
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือก ออกจาก Quy Nhon เวลา 19.00 น. ถึงดานังเวลา 00.53 น. ของวันรุ่งขึ้น
รายละเอียดเพิ่มเติม facebook.com/thevietage
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
