นับเป็นโครงการที่ซับซ้อนมากที่สุดและกินเวลามายาวนาน สำหรับเส้นทางรถไฟใต้ดินสาย Metro C ของกรุงโรม ที่วางแผนลอดใต้ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของกรุงโรมอย่าง “โคลอสเซียม” โดยล่าสุด ได้เข้าสู่ช่วงสำคัญที่สุดคือ ขุดกำแพงกันดินลึก 85 เมตรรอบสถานีหลัก
สำนักข่าวเอพี รายงานความคืบหน้าล่าสุด ในสัปดาห์นี้ว่า หัวหน้าวิศวกรนายอันเดรีย ซิออตติ กล่าวว่างานในโครงการมูลค่าเกือบ 3 พันล้านยูโร ถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่ซับซ้อนที่สุดในโลก โดยมีแนวโน้มที่จะแล้วเสร็จภายในปี 2034 หรืออีกสิบปีข้างหน้า
รถไฟใต้ดินสาย Metro C เปิดให้บริการมาเป็นเวลาสองทศวรรษแล้ว แต่ต้องชะลอตัวลงเนื่องจากระบบราชการและความล่าช้าด้านเงินทุน และที่สำคัญคือการขุดค้นทางโบราณคดีที่จำเป็นเมื่อพิจารณาถึงซากปรักหักพังใต้ดินของอารยธรรมจักรวรรดิโรมันและยุคกลาง
เมื่อสร้างเสร็จแล้ว รถไฟใต้ดินสายนี้จะวิ่งผ่านใต้สถานที่มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้แก่ โคลอสเซียม เสาแห่งทราจัน (Trajan's Column) และมหาวิหารแม็กเซนติอุส ซึ่งเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในจัตุรัสโรมัน รวมถึงพระราชวังเรอเนซองส์อันทรงคุณค่าของกรุงโรม โบสถ์ และวาติกัน
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงวัฒนธรรมของอิตาลีจึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน และจะพร้อมให้ความช่วยเหลือเมื่อการขุดเริ่มต้นอย่างจริงจังในระยะ 15 เมตรแรกของสถานี Piazza Venezia ซึ่งเป็นที่ตั้งของซากปรักหักพังจากกรุงโรมโบราณ ในช่วงดังกล่าว นักโบราณคดีจะนำทางการขุดค้น นำสิ่งของต่างๆ เพื่อการศึกษา บูรณะ และนำไปไว้ในพิพิธภัณฑ์ภายในสถานีเมื่อเปิดทำการ
ซิออตติ กล่าวว่างานนี้เป็นงานใกล้กับแหล่งโบราณคดี Hadrian ซึ่งมี “เสาแห่งทราจัน” ซึ่งเป็นจุดที่น่ากังวลและละเอียดอ่อนที่สุด โดยทีมงานจะใช้เทคนิคบัฟเฟอร์เพื่อจำกัดการสั่นสะเทือนเหนือพื้นดินแบบเดียวกับที่ใช้ ในลอนดอนตามแนวรถไฟใต้ดินสาย Jubilee
“หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับเสาทราจัน ผมเตรียมหนังสือเดินทางไว้พร้อมแล้ว” หัวหน้าวิศวกร กล่าวติดตลก
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline