“โอดาวาระ” (Odawara) อยู่ห่างจากใจกลางโตเกียวเพียง 80 กิโลเมตร เป็นเมืองท่าที่น่าดึงดูดใจซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานซึ่งมีรากฐานมาจากตระกูลโฮโจซามูไรผู้ทรงอิทธิพลกับตระกูลนินจาฟูมะผู้ภักดี และที่นี่เป็นสมรภูมิสำคัญในปี ค.ศ.1590 ที่ก่อให้เกิดญี่ปุ่นยุคใหม่
แต่บ่อยครั้งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางโดยรถไฟชินกันเซนไปทั่วประเทศญี่ปุ่น จนทำให้ยึดติดกับเส้นทางหลัก คือ จุดหมายปลายทางดังๆอย่างโตเกียว เกียวโต และโอซาก้า ทั้งๆที่ยังมีเมืองเล็กเมืองน้อยซึ่งมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยหนึ่งในนั้น คือ “โอดาวาระ”
เปิดประสบการณ์ลองเป็น “ไดเมียว”
รัฐบาลญี่ปุ่นกระตือรือร้นที่จะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ลองมาสำรวจจุดหมายปลายทางของประเทศที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่น่าประทับใจไม่แพ้กัน ซึ่งรวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวสุดพิเศษที่ให้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ "ไดเมียว" (ตำแหน่งเจ้าเมือง) ในปราสาทโอดาวาระ
ภายหลังการระบาดของยุคโควิด สมาคมการท่องเที่ยวโอดาวาระ ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลุ่มแรกๆ ในการบอกเล่าเรื่องราว และหน่วยงานการท่องเที่ยวท้องถิ่น ที่คิดค้นจุดแข็งของตน ด้วยประวัติศาสตร์และปราสาทที่ตั้งตระหง่านงดงาม จึงสมเหตุสมผลที่จะให้ผู้มามาเยือนเข้าใจถึงเมืองโอดาวาระ โดยทำให้พวกเขาได้ลองมีประสบการณ์ในบทบาทของการเป็นเจ้าเมือง (ไดเมียว) ผู้ครองดินแดน
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญของเราจะทำให้โอดาวาระปรากฏบนแผนที่ท่องเที่ยว กระตุ้นให้ผู้คนมาเยี่ยมชมและพักค้างคืนมากขึ้น” นาโอยะ อาซาโอะ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมระหว่างประเทศของสมาคมการท่องเที่ยวโอดาวาระ กล่าว
“โอดาวาระมักถูกมองว่าเป็นประตูทางผ่านสู่จุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียง เช่น ฮาโกเนะ หรือคาบสมุทรอิซุ แต่ที่นี่ก็มีหลายสิ่งให้ดูและทำ เรามีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และเราคิดว่าการทำให้ผู้มาเยือนเป็นไดเมียว ก็เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร”
“โอดาวาระ” ปราสาทที่น่าเกรงขามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
โอดาวาระตั้งอยู่บนที่ราบแคบๆ ระหว่างผืนน้ำของอ่าวซากามิและภูเขาที่สูงชันไปจนถึงเชิงเขาของภูเขาไฟฟูจิ เมืองมีส่วนในการควบคุมการคมนาคมทางบกเกือบทั้งหมด สำหรับการเดินทางระหว่างเมืองหลวงเก่าอย่างเกียวโตและ “เอโดะ” ซึ่งท้ายที่สุดกลายเป็นโตเกียวในยุคปัจจุบัน
กลุ่มตระกูลคู่แข่งต่างต่อสู้เพื่อควบคุมโอดาวาระ จนกระทั่งตระกูลโฮโจทำให้ที่นี่เป็นฐานที่ตั้งที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน คือ ภูมิภาคคันโตทางตะวันออกของญี่ปุ่น โดยปราสาทแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ขั้นสูงสุดของอำนาจ ตลอดช่วงทศวรรษที่ 1500 ตระกูลโฮโจห้าชั่วอายุคนทำให้ปราสาทโอดาวาระเป็นหนึ่งในปราสาทที่น่าเกรงขามที่สุดในประเทศ และไม่เคยถูกโจมตีในสนามรบเลย
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายปกป้องเมืองพ่ายแพ้เมื่อโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ปิดล้อมเมืองในปี 1590 ด้วยกองทัพประมาณ 250,000 นาย และทำให้ตระกูลโฮโจยอมจำนน ฮิเดโยชิผู้เต็มไปด้วยความเคียดแค้นสั่งให้รื้อปราสาทให้พังทลาย ในขณะที่โครงสร้างใหม่ที่สร้างขึ้นในภายหลังในบริเวณเดียวกันได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหว จนกระทั่งรัฐบาลยุคจักพรรดิเมจิมีคำสั่งให้รื้อปราสาทครั้งสุดท้ายในปี ค.ศ. 1870 (ตรงกับ พ.ศ. 2413)
จนกระทั่งถึงปี 1960 ป้อมปราการห้าชั้นได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยมีโครงสร้างทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ภายในสวนปราสาทข ต่อมาได้รับการบูรณะให้กลับมารุ่งเรืองดังในอดีต ซึ่งรวมถึงกำแพงป้องกันหนา หอคอยยาม และชุดประตูป้องกันที่ออกแบบอย่างชาญฉลาด .
ประสบการณ์ใหม่สุดหรูหราในการเที่ยวชมปราสาท
สำหรับประสบการณ์เที่ยวปราสาทโอดาวาระนอกเหนือจากต้นซากุระที่สวยงามตระการตาในฤดูใบไม้ผลิ การแปลงโฉมเป็น “ไดเมียว” ก็ได้รับบรรยากาศแบบยุคก่อน ตั้งแต่ก้ามข้ามพ้นประตู
นักท่องเที่ยวจะได้สวมชุดเกราะแบบโบราณเหมือนไดเมียว เดินสำรวจบริเวณปราสาท เพลิดเพลินกับดนตรีและการแสดงแบบดั้งเดิม ได้รับการต้อนรับจากกลุ่มนักดนตรีกลองไทโกะแบบดั้งเดิมพร้อมทั้ง มีพิณ "ซามิเซ็น" และขลุ่ย "ชิโนบุเอะ" ประกอบ ชมการแสดงที่เน้นทักษะของนินจาในตำนานของญี่ปุ่น โดยมีนักแสดงจำลองเรื่องราวของความภักดีและการแก้แค้น การต่อสู้ด้วยดาบ กระโดดจากกำแพง และกายกรรม
โอดาวาระเป็นบ้านแบบดั้งเดิมของตระกูลนินจาฟูมะ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนตระกูลโฮโจโดยเฉพาะ พิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับนินจาเปิดในบริเวณปราสาทในปี ค.ศ.2019 โดยได้รับการสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวลองใช้ดาบโค้งแบบดั้งเดิม
ในขณะที่การรับประทานอาหารสุดหรูและดื่มสาเกท้องถิ่น จะมาพร้อมกับการเต้นรำของเกอิชา และเมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ไดเมียวก็เดินทางกลับไปยังปราสาทซึ่งจะมีโอกาสพักค้างคืนที่ชั้นบนสุดเช่นเดียวกับที่คนสมัยก่อน
กิจกรรมทั้งหมดเป็นรูปแบบ 2 วัน 1 คืน ราคา 350,000 เยน ต่อคน (ประมาณ 83,691 บาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.odawara-guide.com/japanese-castle-experience
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline