เรื่องราวฉาว พระสงฆ์มีสัมพันธ์สวาทเสพเมถุนกับสีกาและลักลอบเป็นชู้กับเมียชาวบ้านนั้นมีมานานแล้วในบ้านเรา ยิ่งเคสไหนฉาวหนัก ผิดศีลธรรมหนัก เสื่อมหนัก ก็ยิ่งเป็นที่สนใจของคนในสังคมและมีเสียงสาปแช่งก่นด่าหนักเช่นกัน
สำหรับเรื่องฉาวพระแอบแซ่บสีกาที่ปราฏเป็นข่าวนั้นเป็นประจำนั้น ต่างก็เป็น “พระสงฆ์” ที่บางคนเป็นได้แค่ “มนุษย์โล้นห่มเหลือง” หรือบางตัวก็ไม่ต่างจาก “เดรัจฉาน” ดี ๆ นี่เอง
อย่างไรก็ตามที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีตำนานของพระเล่นชู้กับสีกาที่แปลกแตกต่างออกไป เพราะพระเล่นชู้ของที่นี่ไม่ใช่ “พระสงฆ์” หากแต่เป็น “พระพุทธรูป” กับตำนาน “พระเจ้าชู้” อันชวนทึ่งสุดเหลือเชื่อ แห่ง “วัดพระมหาธาตุวรวิหาร” ที่ถือเป็นอันซีนเมืองคอน ให้นักท่องเที่ยวได้ไปค้นหากัน
พระเจ้าชู้ หรือ พระพุทธรูปเจ้าชู้ มีตำนานเล่าขานแพร่หลายปราฏในอินเทอร์เน็ต โดยอ้างอิงมาจากคำบอกเล่าของ อาจารย์ “นริศ น้อยทับทิม” มัคคุเทศก์กิตติมศักดิ์ ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์เมืองนครศรีธรรมราช สรุปความได้ว่า
เมื่ออดีตกาลนานมาแล้ว บริเวณวัดพระมหาธาตุฯ มักปรากฏพระหนุ่มรูปงามหล่อเหลาขึ้นในยามวิกาล ซึ่งพระหนุ่มปริศนารูปนี้มีความรักใคร่กับเด็กสาวกำพร้าผู้หนึ่งอายุราว 14-15 ที่อยู่คนเดียว
ว่ากันว่าพระหนุ่มรูปนี้ลุ่มหลงในตัวเด็กสาวคนนั้นเป็นอย่างมาก ทุกเวลาเที่ยงคืนพระปริศนารูปนี้จะไปอยู่กับเด็กสาว จนวันหนึ่งคุณลุงข้างบ้านบังเอิญได้ยินเสียงคนคุยกันที่บ้านของเด็กสาว จึงเกิดความสงสัยและตามดู จนประมาณตีสี่กว่า ๆ เห็นผู้ชายเดินออกมาจากบ้านของเด็กสาวมีศีรษะโล้นเลี่ยน จึงแอบเดินตามไป พอมาถึงบริเวณวัดพระมหาธาตุ ปรากฏว่าชายหัวโล้นคนนี้หายตัวไปอย่างลึกลับ
เมื่อเห็นเช่นนั้น คุณลุงข้างบ้านจึงรู้ว่าเป็นพระเลยจึงคิดจะจัดการพระรูปนี้ เพราะเห็นว่าเป็นถึงพระสงฆ์องค์เจ้าแต่กลับลักลอบเสพเมถุนกับเด็กสาว คุณลุงจึงกลับบ้านมาเตรียมลับมีดดาบรอไว้จัดการพระหนุ่มรูปนี้แล้วประจานให้ชาวบ้านรับรู้
หลังจากนั้นในคืนถัดไปพระหนุ่มปริศนาก็ได้มาหาเด็กสาวกำพร้าตามเดิม ลุงข้างบ้านที่ดักรออยู่จึงได้ที ฟันมีดดาบฉับลงไปที่พระหนุ่มรูปนั้น ซึ่งไหวตัวทันจึงยกมือขึ้นมารับคมดาบแทน แล้วพระรูปนี้ก็หนีไป ส่วนคุณลุงก็ออกเดินตามไปจนถึงวัดพระมหาธาตุฯเช่นเคย แต่ไม่กล้าเข้าไปในวัดเพราะกลัวผีจึงกลับบ้านไป
เช้าวันรุ่งขึ้น พอถึงช่วงพระฉันเพล คุณลุงไม่ละความพยายามออกตามหาพระหนุ่มรูปนั้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้เดินตามรอยเลือดเข้าไปในวัดพระมหาธาตุ ปรากฏว่ารอยเลือดมาหยุดอยู่ตรงหน้าพระพุทธรูปองค์หนึ่ง เมื่อคุณลุงเงยหน้าขึ้นดูก็ต้องตะลึง เพราะพระพุทธรูปองค์นี้มือขาดเสมอข้อ ตามที่พระหนุ่มปริศนาถูกฟันแขนเมื่อคืน ทำให้คุณลุงเชื่อว่า ต้องเป็นพระพุทธรูปองค์นี้แน่ที่แปลงกายเป็นพระหนุ่มไปลักลอบเสพเมถุนกับเด็กสาวกำพร้า คุณลุงจึงนำผ้ามามัดตัวพระพุทธรูปองค์นี้ หลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์พระหนุ่มรูปงามปรากฏตัวในยามวิกาลบริเวณวัดพระมหาธาตุแล้วเดินทางไปหาเด็กสาวกำพร้าอีกเลย
สำหรับเรื่องนี้ย้ำว่าเป็นเพียงตำนานเหลือเชื่อเล่าขานสืบต่อ ๆ กันมาเท่านั้น แต่ว่าองค์พระพุทธรูปมือขาดที่เรียกกันว่า “พระเจ้าชู้” นั้นมีอยู่จริง โดยตั้งอยู่ที่วิหารทับเกษตรซึ่งเชื่อว่าเป็นเส้นทางที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเคยมาเดินปฏิบัติธรรมที่นี่
ส่วนสาเหตุที่พระพุทธรูปองค์นี้ทำไมมือขวาจึงขาดเสมอข้อ แถมตรงเศียรองค์พระยังดูต่างจากพระพุทธรูปทั่วไป เพราะมีลักษณะเหมือนถูกเขาสัตว์ปักลงไป ส่วนตัวองค์พระก็ถูกมัดตรึงไว้กับเสาไม้ เรื่องเหล่านี้ยังคงเป็นปริศนา ซึ่งหลาย ๆ คนเชื่อว่าเป็นปริศนาธรรมที่คนในอดีตสร้างไว้ และเมื่อมีตำนานเรื่องพระเจ้าชู้มารองรับก็ยิ่งเป็นสิ่งย้ำเตือน ให้คนรุ่นหลังตระหนักกลัวต่อการทำบาป ทำผิดศีลธรรม เพราะแม้แต่พระพุทธรูปที่มีคนกราบไหว้นับถือยังมีบางองค์ทำผิดบาปมหันต์จนต้องถูกตัดมือ ถูกตรึงเสาไม้ไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจไม่ให้ประพฤติผิดศีลธรรมแก่สาธุชนคนทั้งหลาย