ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน เป็นช่วงเวลาสำคัญอีกครั้งสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น โดยเฉพาะ “เกียวโต” เมืองมรดกโลกของยูเนสโก เพราะเป็นช่วงเทศกาลฮานามิ (Hanami) หรือเทศกาลชมซากุระต้อนรับการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งอดีตเมืองหลวงเก่าแก่ของญี่ปุ่นก็เต็มไปด้วยสถานที่อันสวยงามที่สามารถชมซากุระได้อย่างน่าประทับใจ
เทศกาลฮานามิ เป็นกิจกรรมง่ายๆไม่ซับซ้อน เป็นการเดินเล่นไปตามถนนหนทาง สวนสาธารณะ วัดวาอาราม หรือศาลเจ้า โดยนอกจากเดินชมความงามของฤดูกาลใหม่แล้ว ตามธรรมเนียมชาวญี่ปุ่นจะจัดปาร์ตี้กันใต้ต้นซากุระที่บานสะพรั่งชวนคนรัก ครอบครัว หรือเพื่อนฝูง มารวมตัวกันเพลิดเพลินกับความงามของดอกไม้บานและเฉลิมฉลองการมาถึงของอากาศที่อบอุ่นหลังจากอยู่กับฤดูหนาวอันยาวนาน
ชวนมาทำความรู้จักกับ 10 แหล่งชมซากุระแห่งเมืองเกียวโต
แม่น้ำคาโมะ (Kamo River)
สายน้ำสำคัญไหลผ่านใจกลางเกียวโต มีต้นซากุระเรียงรายริมฝั่งที่ผลิบานในฤดูใบไม้ผลิเช่นเดียวกับแม่น้ำหลายสายในญี่ปุ่น นอกจากนี้ริมแม่น้ำยังมีเส้นทางสำหรับเดินเล่นซึ่งเต็มไปด้วยคู่รัก บริเวณนี้ยังสวยงามเป็นพิเศษในช่วงปลายฤดูกาลอีกด้วย เพราะกลีบดอกซากุระที่เริ่มร่วงโรย จะหล่นและลอยไปตามแม่น้ำ
เส้นทางนักปราชญ์ (Philosopher’s Path)
เส้นทางนักปราชญ์ มีที่มาจากครั้งหนึ่งเคยเป็นเส้นทางเดินของ "นิชิดะ คิทาโร” นักปรัชญาผู้มีชื่อเสียงชาวญี่ปุ่น เขานั่งสมาธิบนเส้นทางริมคลองสมัยเมจิขณะเดินทางไปมหาวิทยาลัยเกียวโตในแต่ละวัน และในช่วงฤดูซากุระบานก็เป็นเส้นทางสุดสวยที่หลายคนโปรดปราน ด้วยสองข้างทางมีวัดและศาลเจ้าหลายแห่ง ทอดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เช่น วัดกินคะคุจิ วัดนันเซ็นจิ รวมทั้งยังมีคาเฟ่น่ารักๆตลอดเส้นทาง
อย่างไรก็ตาม เส้นทางนักปราชญ์เป็นหนึ่งในจุดหมายที่ได้รับความนิยมมาก ดังนั้นหากต้องการหลีกเลี่ยงความวุ่นวายของผู้คน แนะนำให้ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่สำหรับการเดินชมซากุระท่ามกลางความเงียบสงบ
วัดคิโยมิซึเดระ (Kiyomizudera)
วัดคิโยมิซึเดระ หรือวัดน้ำใส หรือ Kiyomizudera มีทิวทัศน์ที่คุ้มค่าต่อการมาเยือน แต่ก็เป็นวัดยอดนิยมของเกียวโตแม้ในวันปกติอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อถึงช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยดอกซากุระปริมาณผู้คนก็ยิ่งล้นหลาม แต่ก็คุ้มกับวิวดอกซากุระผลิบานสะพรั่งจากระเบียงของวัดที่มองออกไปเห็นเมืองเก่าแก่ ช่วงเทศกาลวัดมีการประดับไฟในช่วงเย็นถึงค่ำให้ได้ชมด้วย (ค่าเข้าวัด 400 เยน)
ถนนชิมบาชิ (Shimbashi Street)
ถนนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในย่านกิออน (Gion) หรือย่านที่มีเกอิชา ศิลปินชั้นสูงของญี่ปุ่น ซึ่งมีภาพดอกซากุระบานสะพรั่งทั่วถนนทอดยาวไปตามคลองชิราคาวะ ส่วนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ระหว่างถนนนาวาเตะ-โดริ กับ คาวาบาตะ-โดริ
ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine)
อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีต้นซากุระพันธุ์ย้อย หรือ Weeping Cherry (ซากุระที่มีกิ่งไหลเหมือนสายน้ำ) ซึ่งเงาสะท้อนปรากฏที่สระน้ำของสวนในศาลเจ้า ซากุระพันธุ์นี้จะบานช้ากว่าพันธุ์อื่นๆ เล็กน้อย จึงเหมาะมากที่จะไปชมในช่วงปลายเทศกาล
คลองโอคาซากิ (Okazaki Canal)
มีบริการล่องเรือชมดอกไม้ตามฤดูกาล บริเวณนี้เต็มไปด้วยช่างภาพ และนักท่องเที่ยวที่แวะมาเซลฟี่อย่างคึกคัก สามารถเดินเล่นไปตามเส้นทางและดูเรือแล่นผ่านไปมาได้ โดยคลองไหลผ่านศาลเจ้าเฮอันจากทิศใต้ไปทิศตะวันออก และเชื่อมต่อแม่น้ำคาโมะกับโครงข่ายคลองของทะเลสาบบิวะ (ค่านั่งเรือ 1,500 เยน)
สวนสาธารณะมารุยามะ (Maruyama Park)
สวนสาธารณะแห่งนี้ คือ หนึ่งในจุดไฮไลท์ของเทศกาลชมซากุระที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเกียวโตและเป็นที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่น เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความคึกคัก ที่อาจไม่เหมาะสำหรับชอบความเงียบสงบ แต่ก็สวยงามคุ้มค่า สวนแห่งนี้มี Gion Shidare-zakura ต้นซากุระพันธุ์ย้อยที่เติบโตจากเมล็ดของต้นซากุระที่มีอายุราว 200 ปี
ทางรถไฟสายเก่า Keage Incline
ในอดีตใช้ในการขนส่งเรือระหว่างคลอง ปัจจุบันเป็นทางรถไฟที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่ก็เป็นจุดถ่ายภาพ มีเส้นทางเก่าแก่ที่งดงามโดยเฉพาะมีดอกซากุระบานสะพรั่ง ที่นี่ยังกลายเป็นโบราณสถานแห่งชาติในปี ค.ศ.1996 อีกด้วย
อาราชิยามะ (Arashiyama)
นักท่องเที่ยวอาจจดจำภาพป่าไผ่ที่ย่านชานเมืองเกียวโตแห่งนี้ แต่แม่น้ำของอาราชิยามะ ก็เป็นแหล่งชมซากุระที่สวยงามมากเช่นกัน แม่น้ำคัตสึระ (Katsura) เรียงรายไปด้วยต้นซากุระบานสะพรั่ง และสามารถนั่งเรือพายออกไปเพลิดเพลินกับวิวแม่น้ำได้
โดยจุดชมดอกซากุระยอดนิยมอื่นๆ ในอาราชิยามะ ได้แก่ วัดเท็นริวจิ (Tenryuji ) และสะพานโทเก็ตสึ (Togetsukyo) รวมถึงสวนสาธารณะเล็กๆ เช่น คัตสึระกาวะ เรียวคุจิ (Katsuragawa Ryokuchi)
วัดนินนาจิ (Ninna-ji Temple)
แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกแห่งนี้เหมาะสำหรับชมซากุระสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีความงดงามไม่แพ้ภาพวาดในฤดูใบไม้ผลิ วัดนินนาจิมีพื้นที่เปิดโล่งซึ่งปกติเข้าฟรี อย่างไรก็ตามในช่วงฤดูดอกซากุระบาน มีค่าเข้า 500 เยน
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline