วันที่ 23 มีนาคมของทุกปีตรงกับวันหมีโลก (World Bear Day) จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 เพื่อส่งเสริมและสร้างความตระหนักรู้ในการอนุรักษ์หมี เพราะหมีก็เป็นหนึ่งในสัตว์ที่มักถูกล่า เพื่อสนองความต้องการในหลายด้าน เช่น การล่าหมีเพื่อเป็นเกมกีฬา หรือการล่าเพื่อนำอุ้งตีนหมีมารับประทาน เป็นต้น
หมีเป็นสัตว์ที่สามารถกินอาหารได้หลากหลายทั้งพืชและสัตว์ โดยเราสามารถพบเห็นได้แทบทุกทวีปโดยขึ้นอยู่กับชนิดของหมีและที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันเราค้นพบหมีทั่วโลกมากถึง 8 ชนิด ซึ่งในประเทศไทยพบได้ 2 ชนิด ได้แก่ หมีหมา (Sun Bear) และหมีควาย (Asiatic Black Bear) และหมีทั้งสองชนิดมีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
นอกจากการล่าหมีแล้ว หมีทั่วโลกยังประสบปัญหาต่าง ๆ ตั้งแต่ขาดแคลนอาหาร ไฟป่า และสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) เป็นเหตุให้แหล่งที่อยู่อาศัยถูกทำลาย หากเราปล่อยให้หมีสูญพันธุ์จะทำให้ระบบนิเวศในธรรมชาติเสียสมดุล สัตว์หรือพืชบางชนิดที่หมีกินจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีขอบเขต และทำลายระบบนิเวศแห่งนั้นไปในที่สุด ดังนั้นเราจึงต้องร่วมกันอนุรักษ์หมีไว้ เพื่อให้หมีได้อยู่ร่วมกับมนุษย์และธรรมชาติตราบนานเท่านาน
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา นางสาวอังสนา มองทรัพย์ หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี เปิดเผยว่า ทีมสัตวแพทย์ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก) ได้นำส่งลูกหมีควาย เพศผู้ จำนวน 2 ตัว อายุประมาณ 4-5 เดือน ให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้งเพื่อดูแล ซึ่งเป็นหมีควายของกลาง ที่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าแม่สอด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร้อย ร.431 ได้ช่วยเหลือไว้ บริเวณช่องทางธรรมชาติติดแม่น้ำเมย หมู่ที่ 4 บ้านวังแก้ว ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก
เนื่องจากทางส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก) ไม่มีความพร้อมของสถานที่ในการดูแลลูกหมีควายของกลาง ซึ่งทางสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง มีความพร้อมในด้านสถานที่ และกรง นอกจากนี้ยังเป็นสถานีเพาะเลี้ยงฯ ที่อยู่ใกล้จังหวัดตากมากที่สุด ทีมสัตวแพทย์จึงได้ส่งหมีควายทั้งสองมาดูแลต่อที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง โดยก่อนเดินทางลูกหมีควายทั้งสองได้มีการตรวจสุขภาพเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการตั้งชื่อลูกหมีควาย 2 ตัวนี้ คือ "กองทัพ" กับ "น้ำเมย" เพื่อเป็นเชิงสัญลักษณ์ให้ระลึกถึงผู้ที่ช่วยเหลือและสถานที่พบเจอหมีทั้งสอง
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline