มลพิษทางอากาศถือเป็นภัยร้ายแรงด้านสุขภาพ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าว Euronews รายงานผลสำรวจจาก IQAir บริษัทเทคโนโลยีคุณภาพอากาศของสวิสเซอร์แลนด์ ที่มีข้อมูลว่า มีเพียง 7 ประเทศในโลกเท่านั้นที่ผ่านมาตรฐานระดับมลพิษทางอากาศที่ปลอดภัยในปี 2023
รายงานคุณภาพอากาศโลกซึ่งเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ นำข้อมูลจากสถานีตรวจวัดมากกว่า 30,000 แห่งใน 134 ประเทศ ดินแดน และภูมิภาค ในจำนวนนี้ พบว่า มีถึง 124 แห่ง มีค่า PM2.5 เกินระดับความปลอดภัยตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO)
สำหรับ 7 ประเทศใดที่มีค่าตรงตามมาตรฐานคุณภาพอากาศที่ปลอดภัยมากที่สุด (เรียงตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ) ได้แก่ ออสเตรเลีย เอสโตเนีย ฟินแลนด์ เกรเนดา ไอซ์แลนด์ มอริเชียส และนิวซีแลนด์
นอกจากนี้ ระดับที่ปลอดภัยสูง ยังมี เปอร์โตริโก เบอร์มิวดา และเฟรนช์โปลินีเซีย
สำหรับในทวีปยุโรป ไอซ์แลนด์มีอากาศที่สะอาดที่สุด โดยมี 4µg/m3 รองลงมา คือ เอสโตเนียที่ 4.7µg/m3 และฟินแลนด์ที่ 4.9µg/m3
ทางด้านข้อมูลของประเทศที่มีค่ามลพิษมากที่สุดในโลก IQAir ระบุว่า กระจุกตัวอยู่ในเอเชียใต้และเอเชียกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกใน 10 อันดับแรก โดยมี “บังกลาเทศ” ครองตำแหน่งสูงสุดอย่างไม่มีใครอยากได้ มีค่า 79.9 µg/m3 ซึ่งสูงกว่าแนวทางประจำปีของ WHO PM2.5 ถึง 15 เท่า
ปากีสถานมาเป็นอันดับสอง โดยมีระดับสูงกว่ามาตรฐานความปลอดภัยถึง 14 เท่า ตามมาด้วยอินเดีย โดยมีค่า PM2.5 เกินขีดจำกัดถึง 10 เท่า ซึ่งอินเดียยังเป็นที่ตั้งของ 4 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกอีกด้วย
นอกจากนั้น ก็มี ทาจิกิสถานและบูร์กินาฟาโซ ซึ่งเป็นประเทศที่มีมลพิษมากที่สุดเป็นอันดับ 4-5 โดยทั้งสองประเทศมีระดับ PM2.5 สูงกว่ามาตรฐานที่ปลอดภัยถึง 9 เท่า
ที่น่าสนใจอีกประเด็น คือ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรายงานของ IQAir ที่ประเทศแคนาดา กลายเป็นประเทศที่มีมลพิษมากที่สุดในอเมริกาเหนือ และยังเป็นที่ตั้งของ 13 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในภูมิภาค
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline