หนึ่งในกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวผู้ไปเยือนกรุงโรมแห่งอิตาลี มักไม่พลาดที่จะลองทำ คือ การโยนเหรียญลงไปใน “น้ำพุเทรวี” ด้วยความเชื่อเรื่องขอพรความรัก สุขภาพ รวมทั้งการจะได้กลับมาเยือนเมืองอันมีเสนห์แห่งนี้อีกครั้ง
น้ำพุที่ดังที่สุดในกรุงโรม
น้ำพุเทรวี (Fontana di Trevi) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม ตรงบริเวณจุดตัดของถนนทั้ง 3 สาย ได้แก่ Acqua Vergine, Aqua Virgo และสะพานส่งน้ำโรมันโบราณ จึงเป็นที่มาของชื่อ Trevi ที่หมายถึง Three Street บ้างก็เป็นเรื่องเล่าของเทพธิดาซึ่งมีนามว่า Trivia ผู้คอยปกปักรักษาท้องถนนแห่งกรุงโรม ส่วนอีกหนึ่งความเชื่อ ว่ากันว่าได้มาจากชื่อเดิมของพื้นที่ในบริเวณนี้ที่เคยเรียกกันว่า Trebium
น้ำพุเดิมนั้นสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 แต่ที่เห็นในปัจจุบัน เริ่มสร้างในปี ค.ศ.1732 - 1762 โดยเป็นผลงานของ นิโคลา ซาลวิ (Nicola Salvi) ถือเป็นน้ำพุสไตล์บาโรกที่ยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดในกรุงโรม ซึ่งมีรูปปั้นของเทพเจ้า Oceanus ความสูง 5.8 เมตร โดดเด่นอยู่ตรงกลาง สัญลักษณ์ของปัญญาและอำนาจ โดยมีสองเทพปกรนัมเป็นผู้ดูแล ด้านซ้ายคือรูปปั้นเทพธิดา Abundance ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภและความสำเร็จ ด้านขวาคือรูปปั้น Hygieia เทพแห่งการแพทย์
ความเชื่อเรื่องโยนเหรียญ
ตลอดทั้งวันไปจนถึงกลางคืน มีผู้คนมากมายมารวมตัวกันรอบๆ น้ำพุเพื่อถ่ายรูป โดยมีตำนานเล่าว่าหากโยนเหรียญด้วยมือขวาข้ามไหล่ซ้ายลงในน้ำพุ จะได้กลับมายังกรุงโรมอีกครั้ง รวมถึงขอพรด้านอื่นๆ เช่น เรื่องความรัก และสุขภาพ
ความจริงแล้วค่านิยมเรื่องการโยนเหรียญเพิ่งจะมาฮิตกันในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองนี่เอง โดยเป็นอิทธิพลมาจากภาพยนตร์อเมริกัน เรื่อง Three Coins in the Fountain (1954) เมื่อตัวเอกของเรื่องโยนเหรียญลงไปในน้ำพุ หวังจะได้เจอกับรักแท้และกลับมายังกรุงโรม
จากความเชื่อเรื่องการโยนเหรียญลงไปในน้ำพุ มีข้อมูลเปิดเผยว่า ในปี ค.ศ. 2022 สามารถรวบรวมเงินจากน้ำพุได้มากถึง 1.4 ล้านยูโร หรือประมาณ 54.6 ล้านบาท และคาดว่าจะรวบรวมได้มากกว่านั้นในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการที่กรุงโรมเป็นหนึ่งในเมืองที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในโลกด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวราว 21 ล้านคนต่อปี
เงินมหาศาลเหล่านั้นไปไหน ?
เหรียญในน้ำพุสะสมอยู่หลายวันก่อนจะถูกนำออกมา และนำไปบริจาคที่แผนก “Caritas” ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลคาทอลิกทั่วโลกในกรุงโรม โดยนำไปใช้เป็นเงินทุนสำหรับธนาคาร อาหาร ครัว และโครงการสวัสดิการต่างๆ หนึ่งในนั้น รวมถึงเพื่อนำไปเป็นทุนในการซื้ออาหารและสิ่งของที่จำเป็น แล้วนำมาแจกภายในร้านค้าที่ชื่อว่า Caritas Emporium ซึ่งจัดสรรอาหารให้กับผู้ขัดสนหรือมีปัญหาด้านการเงิน ที่ต้องลงทะเบียนไว้อย่างถูกกฎหมาย
การสกัดเหรียญ ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะต้องใช้คนงานจากหน่วยงานสาธารณูปโภคระดับภูมิภาค จำนวน 4 คน ใช้ไม้กวาดยาว และท่อดูดเหรียญ โดยมีการระบายน้ำน้ำพุเพื่อทำความสะอาดเดือนละสองครั้ง เมื่อได้เหรียญจะมอบให้กับ Caritas ซึ่งจะนำเหรียญเหล่านั้นไปตากแห้งด้วยเครื่องเป่าและเครื่องอบ ก่อนนำไปคัดแยกและนับจำนวนต่อไป
ทั้งนี้ การหยิบเหรียญออกจากน้ำพุโดยพลการ ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline