xs
xsm
sm
md
lg

รับบุญใหญ่ วันพระใหญ่ คนแห่สักการะ “พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุพระอัครสาวกซ้าย-ขวา” เนืองแน่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประชาชนเดินทางเข้ากราบสักการะ “พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุพระอัครสาวกซ้าย-ขวา” ที่เปิดให้สักการะวันแรกตรงกับวันมาฆบูชาที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกันอย่างเนืองแน่น  (ภาพ : สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม )
พุทธศาสนิกชนเดินทางเข้ากราบสักการะ “พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุพระอัครสาวกซ้าย-ขวา” ที่เปิดให้สักการะวันแรกตรงกับวันมาฆบูชาที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกันอย่างเนืองแน่น โดยจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ากราบสักการะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 2,567 ปี ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.-18 มี.ค. 67 ใน 4 ภูมิภาคทั่วไทย ซึ่งนับเป็นมหามงคลอันยิ่งใหญ่และสูงสุดต่อชีวิต

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาลไทย โดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย โดยสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอินเดีย ณ กรุงนิวเดลี พร้อมพระอรหันตธาตุพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสถูปโบราณปิปราห์วา เมืองสาญจี สาธารณรัฐอินเดีย จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระอัครสาวกซ้าย-ขวา พร้อมกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 2,567 ปี ซึ่งนับเป็นมหามงคลอันยิ่งใหญ่และสูงสุดต่อชีวิต

อัญเชิญ “พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุพระอัครสาวกซ้าย-ขวา” มาให้สักการะพร้อมกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (ภาพ : เพจไทยคู่ฟ้า)
สำหรับบรรยากาศการเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะในวันแรก 24 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งตรงกับวันพระใหญ่ “มาฆบูชา” นั้นได้มีประชาชนจำนวนมากเดินทางเข้ามากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระอัครสาวกซ้าย-ขวา ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกันอย่างเนืองแน่น

อัญเชิญ “พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุพระอัครสาวกซ้าย-ขวา” มาให้สักการะพร้อมกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (ภาพ : เพจไทยคู่ฟ้า)
ขณะที่ในช่วงเช้าของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 07.00 น. สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และคู่สมรส เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตร เวียนเทียน และพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2567 โดยมีนางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา ผู้บริหาร ศาสนิกชน ร่วมพิธีจำนวนมาก ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร

ประชาชนเดินทางเข้ากราบสักการะ “พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุพระอัครสาวกซ้าย-ขวา” ที่เปิดให้สักการะวันแรกตรงกับวันมาฆบูชาที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกันอย่างเนืองแน่น (ภาพ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์)
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคณะผู้บริหารได้ถวายไทยธรรมพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 10 รูป ร่วมพิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 73 รูป และเวียนเทียน รอบมณฑปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ จากนั้นเป็นประธานเปิดนิทรรศการการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2567 และเยี่ยมชมการสาธิตผลิตภัณฑ์ชุมชน และสินค้าของดีเขตกรุงเทพมหานคร 50 เขต

พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตร เวียนเทียน และพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2567 (ภาพ : สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม )
สำหรับพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ซึ่งรัฐบาลไทยอัญเชิญจากประเทศอินเดียมาให้ประชาชนได้กราบสักการะพร้อมกันทั้ง 3 องค์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 2,567 ปี เพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวง เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ากราบสักการะได้ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์-18 มีนาคม 2567 ใน 4 ภูมิภาคทั่วไทย ตามสถานที่สำคัญ 4 จุด ดังนี้

-กรุงเทพมหานคร เปิดให้ประชาชนเข้าสักการบูชา ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 – 20.00 น. โดยในวันที่ 26 ก.พ. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จฯ สักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงด้วย

ประชาชนเดินทางเข้ากราบสักการะ “พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุพระอัครสาวกซ้าย-ขวา” ที่เปิดให้สักการะวันแรกตรงกับวันมาฆบูชาที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกันอย่างเนืองแน่น (ภาพ : สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม )
นอกจากนี้ภายในบริเวณมณฑปยังมีการจัดนิทรรศการ “การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดียมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ให้ความรู้ประกอบการสักการะอีกด้วย

-จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้ประชาชนเข้าสักการบูชา ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ระหว่างวันที่ 5 - 8 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 - 20.00 น.

นิทรรศการภายในบริเวณมณฑป (ภาพ : สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม )
-จังหวัดอุบลราชธานี เปิดให้ประชาชนเข้าสักการบูชา ณ วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ่) ระหว่างวันที่ 10 - 13 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 - 20.00 น.

-จังหวัดกระบี่ เปิดให้ประชาชนเข้าสักการบูชา ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล ระหว่างวันที่ 15 - 18 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 - 20.00 น. โดยทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป จะมีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลให้กับศาสนิกชนที่เข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ด้วย

ทั้งนี้ประชาชนสามารถเข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เพื่อความเป็นมหามงคลอันยิ่งใหญ่และสูงสุดต่อชีวิต ได้ตามวัน เวลา และสถานที่ ดังกล่าว

มณฑปประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ (ภาพ : สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม )




กำลังโหลดความคิดเห็น