xs
xsm
sm
md
lg

7 กิจกรรม “เที่ยวพังงา” สนุกหลากรส ครบ 365 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สปายามเช้า ริมคลองมะรุ่ย
“พังงา” เมืองน่าเที่ยวแห่งทะเลฝั่งอันดามัน ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล หรือเกาะแก่งต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนมากนึกถึงภาพของท้องทะเลใสแจ๋ว หาดทรายขาวสวย อย่างไรก็ดี พังงา ยังมีจุดขายในเรื่องการท่องเที่ยวอีกหลากหลายรูปแบบ ทั้งธรรมชาติอื่นๆ เที่ยวชุมชน ตระเวนชิมอาหารการกิน และวัฒนธรรม จนกล่าวได้ว่า เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ครบทั้ง 365 วัน

ขอนำมาทำความรู้จักกับ “7 กิจกรรม เที่ยวพังงา” ที่หลากหลายรสชาติ

บรรยากาศล่องแพ
ล่องแพไม้ไผ่วังเคียงคู่
กิจกรรมสุดชิลไปกับการ “ล่องแพไม้ไผ่” ปล่อยใจไหลล่องไปตามสายน้ำบริสุทธิ์ที่มีต้นน้ำมาจากอุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ ระยะทางของการล่องแพ ประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ รับพลังจากผืนป่าเขียวขจี

การล่องแพที่นี่ มีระดับน้ำที่ส่วนใหญ่ไม่ลึก และเป็นการนั่งไปบนแพไม้ไผ่ขนาดใหญ่ จึงไม่จำเป็นต้องตัวเปียก (ยกเว้นเปียกก้นและเท้า จึงควรสวมเสื้อผ้าสบายๆกับรองเท้าแตะ) หรือใครอยากลงเล่นน้ำ ก็มีจุดแวะให้เล่นน้ำได้

บรรยากาศล่องแพ
กิจกรรมล่องแพไม้ไผ่วังเคียงคู่ ราคา 500 บาท (นั่งได้สองคน)
เปิดบริการทุกวัน วันละ 8 รอบ เริ่มรอบแรก 9.00 น.
ควรจองล่วงหน้า 1-2 วัน โทร.09-5410-1988, 08-9727-3021
รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/KomolCorner


ถ้ำพุงช้าง
สำรวจถ้ำพุงช้าง
ถ้ำพุงช้าง เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด การันตีด้วยการเป็น “อันซีนไทยแลนด์” โครงการแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ที่นี่เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีความยาวประมาณ 1,200 เมตร ภายในถ้ำประกอบด้วยหินงอกหินย้อยจำนวนมาก สวยงามดั่งประติมากรรมอันประณีตลงมาจากเพดานถ้ำ บางช่วงมีประกายของหินระยิบระยับ โดยเฉพาะหากเดินทางมาในช่วงหน้าแล้งจะเห็นได้ชัด

ความตระการตาของถ้ำลับแห่งพังงานั้น มีจุดให้แวะชมเป็นจำนวนมาก อาทิ หินรูปจระเข้ บ่อน้ำมนต์รูปหัวช้าง หินรูปไดโนเสาร์ หินรูปเต่ายักษ์ เป็นต้น ส่วนหินงอกหินย้อยระหว่างเส้นทางก็งดงามอลังการ มีรูปร่างแปลกตา ชวนให้จินตนาการไปถึงหนังไซไฟวิทยาศาสตร์ แนวสัตว์ประหลาดนอกโลกก็ยังได้ ส่วนไฮไลต์ห้ามพลาด ต้องยกให้กับ “หินรูปช้างเผือกสีขาวนวล” ที่อยู่บนเพดานถ้ำช่วงท้าย ซึ่งเป็นหินที่มีลักษณะคล้ายหัวช้าง มีดวงตา ใบหู ขาหน้า และมีงวงยื่นออกมาด้วย

หินรูปหัวช้างในถ้ำพุงช้าง (ภาพ: khobjaithailand)
ตั้งอยู่ในพื้นที่ “วัดประพาสประจิมเขต" หลังศาลากลางจังหวัด ถ.เพชรเกษม อ.เมือง
เปิดให้เที่ยวทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-16.00 น.
ค่าเข้าชมคนไทย 200 บาท เด็ก 100 บาท ชาวต่างชาติ 500 บาท
สอบถาม โทร. 08-6683-6844 หรือ 08-5784-4839

ยามเช้าที่คลองมะรุ่ย บ้านโคกไคร
สปาสามร้อน บ้านโคกไคร
ตื่นเช้าไปสัมผัสแสงแรกของเขตแดนพังงา-กระบี่ กันที่ “บ้านโคกไคร” ชุมชนซึ่งมีกับ “คลองมะรุ่ย” ไหลเป็นเส้นแบ่งพรมแดนระหว่างจังหวัด คลองแห่งนี้กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านโคกไคร จัดกิจกรรมล่องเรือจากลำคลองหน้าชุมชนโคกไครมุ่งสู่แหล่ง “สปาสามร้อน” ที่อยู่อีกฟากฝั่งคลอง พื้นที่จังหวัดกระบี่

รับลมเย็นๆยามเช้าชมวิวอันสวยงามก่อนไปทำกิจกรรม “สปาหาดทรายร้อน” (ต.เขาใหญ่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่) ที่เกิดจากความร้อนใต้ดินของรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย รอยแยกของเปลือกโลกที่ยังคงมีความร้อนพวยพุ่งออกมาอยู่ตลอด ทำให้บริเวณนี้เกิดปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา รูปแบบ 3 ร้อน หนึ่งเดียวในเมืองไทย ได้แก่ ทรายร้อน โคลนร้อน และน้ำเค็มร้อน อันเป็นที่มาของ “สปาสามร้อน”

สปาสามร้อน
นักท่องเที่ยวจะได้พอกตัว หรือแขนขา ด้วยโคลนร้อนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กินอาหารว่างขนมพื้นบ้าน ชาใบขลู่ จากชุมชน ก่อนจะล่องเรือกลับมารับประทานอาหารทะเลสดใหม่ที่บ้านโคกไครปิดท้าย

กิจกรรมจัดได้เดือนละ 10 วัน ในช่วง 3 ค่ำ – 7 ค่ำ และจะปรากฏเพียงไม่กี่ชั่วโมงตั้งแต่ราวตีห้า (05.00 น.) ไปจนถึงช่วงสาย ๆ ของวัน

บ้านโคกไคร ต.มะรุ่ย อ.ทับปุด จังหวัดพังงา
สอบถาม สมพร สาระการ โทร. 08-7886-0465

บ่ออนุบาลเต่า
ปล่อยเต่าที่ศูนย์อนุรักษ์ฯ

แหล่งเที่ยวขวัญใจคนรักเต่า ต้องยกให้ “ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3” ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมบ่ออนุบาลเต่า เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ในการปฏิบัติงานการอนุรักษ์เต่าทะเลของกองทัพเรือ มีการอนุบาลเต่าหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งเต่าตนุ เต่าหญ้า และเต่ากระ รวมทั้งวงจรชีวิตของเต่าทะเล

เต่าจากศูนย์อนุรักษ์ฯ กลับสู่ทะเล
นักท่องเที่ยวจะได้เดินชมโรงเพาะเลี้ยงเต่าเป็นโรงเรือนริมทะเล เกือบ 20 บ่อ โดยมีลูกเต่าที่นำมาอนุบาลก่อนปล่อยลงทะเลให้ชมเพื่อเป็นการปลูกฝังให้มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งนี้สามารถติดต่อล่วงหน้าเพื่อขอปล่อยเต่าลงสู่ทะเลได้ด้วย

ตั้งอยู่ที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง
เปิดทุกวัน 8.30-16.30 น. คนไทยเข้าฟรี ชาวต่างชาติ มีค่าเข้าชม 60 บาท
สอบถาม โทร.093 814 0248

ลูกชก
รู้จัก “ลูกชก” ชุมชนบ้านบ่อแสน
หนึ่งในพืชท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวพังงา คือ ต้นเหนา หรือต้นชก ต้นไม้ตระกูลปาล์มที่ขึ้นตามแนวภูเขาหิน มีขนาดใหญ่กว่าต้นตาล คล้ายใบมะพร้าวแต่ใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านคลองบ่อแสน มีกิจกรรมให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้เกี่ยวกับต้นเหนา มีการสาธิตการทำลูกชกตั้งแต่การปีนขึ้นไปเก็บจากต้น การทำลูกชกลอยแก้ว การทำบัวลอยลูกชก ตลอดจนการพาไปเรียนรู้กับกลุ่มผ้ามัดย้อมจากต้นเหนา

บัวลอยลูกชก
กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านคลองบ่อแสน ต.บ่อแสน อ.ทับปุด
สอบถาม สุวรรณา โทร. 08-9290-4037

หลาดลองแล
ช้อปแบบวิถีถิ่น “ตลาดลองแล”
ตลาดชุมชนที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจกันของชาวบ้านบางนุ ต.ตะกั่วทุ่ง จนประสบความสำเร็จ กลายเป็นตลาดพื้นบ้านที่ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากคนในท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอาหารการกินสุดละลานตาที่หายาก ทั้งคาวหวาน สินค้าพืชผัก อาหาร ขนม และผลิตภัณฑ์จากชุมชน

หลาดลองแล
ภายในตลาดมีบรรยากาศที่ร่มรื่นจัดซุ้มต่างๆเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงการสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เป็นงานฝีมือระดับโอทอปชื่อดัง และสินค้าทุกอย่างในตลาดยังมีราคาถูกอีกด้วย

“หลาด ลองแล บางนุ”
บ้านบางนุ ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
เปิดวันอาทิตย์ 10.00-17.00 น.

ร้านขนมจีน ป้าศล
ตามรอยความอร่อย “มิชลินไกด์”
จังหวัดพังงา ได้รับการบรรจุเป็นเส้นทางความอร่อยโดย “มิชลินไกด์ ประเทศไทย” มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 โดยร้านอาหารในจังหวัดพังงาได้รับคัดเลือกให้อยู่ในประเภท “บิบ กูร์มองด์” (Bib Gourmand) หรือร้านอาหารคุณภาพในราคาคุ้มค่า ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวที่เป็นนักกิน ไม่พลาดที่จะปักหมุดเป็นจุดหมายมาตามรอยความอร่อย ซึ่งร้านอาหารในพังงาที่ได้รางวัลนั้น มีความผสมผสานหลากหลายทั้งอาหารท้องถิ่นทางใต้ อาหารทะเลสดใหม่ และอาหารที่ได้รับอิทธิพลจากจีน

หมูเคยหอม - เมนูมิชลินไกด์ ร้านครัวต้นฝน
โดยในปีล่าสุด มีร้านอาหารจำนวน 11 ร้าน ที่รักษาสถานะบิบ กูร์มองด์ ไว้เช่นเดิม ได้แก่ ตะโกลา, สามช่องซีฟู้ด, โคกกลอยบะหมี่ต้มไข่, ขนมจีนป้าศล, กอบโภชนา, ครัวต้นฝน, เรอดัง, ฮกกี่เหลา, ในเหมือง, มันโภชนา และครัวหลวงเทน

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น