ข้อกังวลใจอย่างหนึ่งของคนรักสุนัขเมื่อไปเที่ยวเกาหลีใต้ คงมักได้ยินคำกล่าวเกี่ยวกับการรับประทานเนื้อสุนัข หรือเมนูอาหารต่างๆนั้น มีเนื้อสุนัขปะปนอยู่ด้วยหรือเปล่า แต่หลังจากนี้น่าจะคลายความกังวลได้แล้ว เมื่อ รัฐสภาเกาหลีใต้ผ่านกฎหมายห้ามผลิตและจำหน่ายเนื้อสุนัข โดยการเพาะพันธุ์เพื่อการบริโภคจะมีความผิดและมีบทลงโทษ ในปี 2570 เป็นต้นไป
วันอังคารที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา รัฐสภาเกาหลีใต้ ร่างกฎหมายใหม่ที่จะกำหนดให้การฆ่า เพาะพันธุ์ และขายเนื้อสุนัขเพื่อการบริโภค ผิดกฎหมายตั้งแต่ปี พ.ศ.2570 เป็นต้นไป โดยมีโทษจำคุก 2-3 ปี แต่ยังไม่มีบทลงโทษสำหรับการกินเนื้อสุนัข
แม้ว่าปัจจุบันมีคนเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่ยังคงบริโภคเนื้อสุนัขในเกาหลีใต้ แต่ความนิยมการบริโภคแบบยุคโบราณนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากสื่อต่างประเทศและผู้สนับสนุนด้านสิทธิสัตว์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ของประเทศก็ได้เข้าร่วมเรียกร้องให้สั่งห้าม
การบริโภคเนื้อสุนัขไม่ได้ถูกห้ามหรือรับรองอย่างชัดแจ้งในเกาหลีใต้ แต่ผลสำรวจล่าสุดระบุว่าชาวเกาหลีใต้มากกว่าครึ่ง ต้องการให้มีการห้ามรับประทานเนื้อสุนัข และส่วนใหญ่ก็ไม่รับประทานอีกต่อไป
แม้ไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับขนาดที่แน่นอนของอุตสาหกรรมเนื้อสุนัขของเกาหลีใต้ แต่นักเคลื่อนไหวและเกษตรกรกล่าวว่า มีสุนัขหลายแสนตัวถูกฆ่าเพื่อเป็นเนื้อในการบริโภคในแต่ละปี
ในปี 2022 สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของเกาหลีใต้ KBS รายงานว่ามีการเลี้ยงสุนัขมากกว่าครึ่งล้านตัวเพื่อเป็นอาหารทั่วประเทศ และมีร้านอาหาร 1,600 แห่งจำหน่ายเนื้อสุนัข ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ มีฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัขสำหรับเนื้อสัตว์ 1,156 แห่ง และโรงฆ่าสัตว์ 34 แห่ง ตามการระบุของกระทรวงเกษตร อาหาร และกิจการชนบท
อย่างไรก็ดี ภายหลังการร่างกฎหมายนี้ จะมีการให้ระยะเวลาผ่อนผัน 3 ปีเพื่อให้อุตสาหกรรมเปลี่ยนผ่านและปิดตัวลงได้ โดยจะเริ่มบังคับใช้จริงจังในปี 2570
ทั้งนี้ การห้ามกินเนื้อสุนัขของเกาหลีใต้ผ่านมติเป็นเอกฉันท์ โดยรัฐสภาผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 208-0 กฎหมายดังกล่าวจะกลายเป็นกฎหมายหลังจากได้รับการรับรองจากสภาคณะรัฐมนตรีและลงนามโดยประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline