ในปี พ.ศ. 2560 การเปิดตัวของ “ทางเชื่อมแยกปทุมวัน” หรือ “Skywalk แยกปทุมวัน” ได้รับการตอบรับที่ดีมาก จนกลายเป็นแลนด์มาร์กเชิงศิลปะและมุมถ่ายภาพอันโด่งดังของกรุงเทพฯ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต้องแวะเวียนไปเช็กอินหามุมสวยๆถ่ายรูปกัน
แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แลนด์มาร์กขวัญใจนักท่องเที่ยว ก็กลายเป็นพื้นที่ทะเลาะวิวาทของ “คนบางกลุ่ม” ที่ไร้จิตสำนึก ขาดแคลนปัญญาในการแยกแยะความเหมาะสม มีเหตุวิวาทเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
โดยล่าสุด ช่วงเย็นวันที่ 8 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา กลุ่มคนจากสถาบันเดิมๆ ก็กลับมามีเรื่องทะเลาะวิวาทกันบนพื้นที่ทางเชื่อมแยกปทุมวันอีกครั้ง สร้างความเดือดร้อนแก่นักท่องเที่ยวและผู้สัญจรไปมา
ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของ “ทางเชื่อมแยกปทุมวัน” เกิดจากสมาคมการค้าพลังสยาม หรือที่รู้จักกันในนามพันธมิตรพลังสยาม (Siam Synergy) พร้อมด้วยผู้ประกอบการในย่านสยาม ร่วมกันเปิดทางเชื่อมแยกปทุมวัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่สัญจรไปมาภายในย่านการค้าดังกล่าว
ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ - ย่านการค้าสยามสแควร์ - ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยยังเป็นทางเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติได้อย่างสะดวก
ทางเชื่อมแยกปทุมวัน ยังโดดเด่นด้วยการออกแบบอารยสถาปัตย์ (Universal Design) เพื่อเป็นการคืนกำไรให้สังคม โดยทำการปรับปรุงทางเชื่อมแยกปทุมวันทั้งหมด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ด้วยงบประมาณของเอกชน ให้มีความสวยงามเหมาะสมที่จะรองรับคนทุกกลุ่ม รวมถึงผู้สูงอายุและผู้ทุพพลภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน
โดยทางเชื่อมแยกปทุมวันแห่งนี้ มีแรงบันดาลใจจากชื่อสี่แยกปทุมวัน จึงมีงานประติมากรรมรูป “ใบบัว” เป็นร่มเงาให้คนเดินได้โดยรอบ
สำหรับการเปิดตัวในช่วงแรกนั้น หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมมือจัดพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นย่านแห่งศิลปะ (art district) เป็นศูนย์รวมสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินไทย และต่างประเทศ จัดแสดงงานศิลปะกลางแจ้งอีกด้วย
ทั้งนี้ มหานครทั่วโลก ล้วนแล้วแต่มีลานลอยฟ้าในย่านสำคัญ เพื่อการสัญจรที่ปลอดภัยและสะดวกสบายของประชาชนเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนหลัก รวมทั้งเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่ง “ทางเชื่อมแยกปทุมวัน” หรือ “Skywalk แยกปทุมวัน” ก็ถือเป็นหนึ่งในลานลอยฟ้าที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จนอาจกล่าวได้ว่า เสมือนเป็นหนึ่งในห้องรับแขกในย่านธุรกิจ เป็นลานลอยฟ้าที่เป็นหน้าตาเป็นตาให้กับเมืองหลวงของไทยได้อย่างมีเอกลักษณ์
แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย เมื่อลานสาธารณะแห่งนี้ที่ผู้สร้างคาดหวังเป็นแหล่งแรงบันดาลใจด้านบวก แหล่งพักผ่อน และเปิดให้ทุกคนมาใช้ประโยชน์ ต้องกลายเป็นลานประลองกำลังของกลุ่มคนไร้ความคิด จนสร้างความเดือดร้อนให้สังคมบ่อยครั้ง ราวกับไม่มีวันสิ้นสุด
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline