xs
xsm
sm
md
lg

ทาสแมวห้ามพลาด! ปักหมุด 4 จุด ที่เที่ยวเอาใจสาวกคนรักแมวในกรุงโตเกียว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ใครเป็นทาสแมวยกมือขึ้น! วันนี้ขออาสาพาคนรักแมวเหมียวทั้งหลายไปตะลุย 4 ที่เที่ยวเรื่องแมวๆ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รับรองว่าได้รับทั้งความสุข สนุก และประทับใจ ให้กับใครหลายคนอย่างแน่นอน


จอ LED แมวยักษ์ที่สถานีชินจูกุ

ทาสแมวคนไหนที่ผ่านมาบริเวณใจกลางย่านชิจูกุ จะต้องไม่พลาดมารอดูความน่ารักของเจ้าแมวยักษ์ ซึ่งเป็นภาพ 3 มิติเคลื่อนไหวเสมือนจริง ปรากฎตัวอยู่บนจอโฆษณา LED ขนาดใหญ่ ซึ่งจอดังกล่าวตั้งอยู่ที่บริเวณด้านบนของอาคาร "Cross Shinjuku" ใกล้กับหน้าสถานีรถไฟชินจูกุ โดยเมื่อเดินออกมาจากสถานีรถไฟชิจูกุแล้วมองขึ้นไปก็จะเห็นเจ้าแมวยักษ์ตัวนี้ปรากฎตัวอยู่บนตึก


ภาพ 3 มิติของแมวยักษ์ที่ออกมาดูราวกับมีชีวิตจริงๆ ทำให้เป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คนที่ผ่านไปได้เป็นอย่างดี โดยภาพของแมวจะเปิดวนเป็นรอบในทุกๆ 15 นาที อวดความน่ารักให้ชมราว 1 นาที ที่ใครเห็นแล้วจะต้องหยุดแวะดูความขี้เล่นของน้องแมวตัวนี้ สำหรับใครที่สนใจมาชมจอ LED แมวยักษ์ ให้เดินทางมายังบริเวณสถานีรถไฟชินจูกุ ทางออก East Exit


วัดโกโทคุจิ วัดแมวกวักสุดน่ารัก

“วัดโกโทคุจิ” (Gotokuji) หรือที่เรียกกันว่า “วัดแมวกวัก” ตั้งอยู่ในเขตเซตางายะ กรุงโตเกียว สามารถเดินทางไปได้ง่ายๆ โดยเริ่มต้นจากสถานีชินจุกุ (Shinjuku) มองหารถไฟสายโอดาคิว (Odakyu Line) แล้วรถไฟจะพาเรามายังสถานีโกโทคุจิใช้เวลาราว 15 นาทีเท่านั้น


เมื่อออกมาจากสถานีก็รู้เลยว่ามาถูกที่เพราะจะมีแมวกวักสีขาวตัวโตมานั่งรออยู่แล้ว ออกจากสถานีมาแล้วเลี้ยวซ้ายเดินไปตามถนนเส้นเล็กๆ อีกราว 10 นาที ก็จะถึงวัด ระหว่างทางเป็นย่านร้านค้าและบ้านเรือนที่เป็นระเบียบสะอาดสะอ้าน ซึ่งเขาก็พยายามแต่งบ้านและร้านให้เข้ากับตำนานของย่านนี้ด้วยการวางแมวกวักเพื่อตกแต่ง วาดลวดลายน่ารักๆ ของแมวเหมียวตามเสาไฟฟ้า ตามป้ายโฆษณาต่างๆ และแม้แต่รถไฟท้องถิ่นสายสั้นๆ ที่วิ่งในย่านนี้ก็ยังมีลวดลายบนขบวนรถไฟเป็นเจ้าแมวกวักสีขาวด้วยเช่นกัน

ภายในวัดแห่งนี้มีรูปปั้นแมวสีขาวใส่ปลอกคอสีแดงและกระดิ่งสีทองนับพันๆ ตัวทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็กและขนาดจิ๋วนั่งกันอยู่ที่นี่เอง แต่ละตัวหน้าตาท่าทางเหมือนกันหมดคือยกมือขวาขึ้นกวักข้างๆ หู น่าเอ็นดูเป็นที่สุด


ชื่อเสียงโด่งดังเกี่ยวกับแมวกวักของวัดนี้ ทำให้ผู้คนมากมายเดินทางมาเพื่อขอพรที่วัด และทางวัดได้ทำรูปปั้นแมวสีขาวปลอกคอสีแดงเหล่านี้ขึ้นจากปูนปั้นเพื่อให้คนที่มาวัดได้นำกลับไป เมื่อคนเหล่านั้นขอพรได้สมหวังอย่างที่ตั้งใจก็จะนำรูปปั้นแมวมาวางไว้ที่วัดคล้ายกับเป็นการแก้บนนั่นเอง ดูจากจำนวนรูปปั้นแมวที่มากมายมหาศาลเหล่านี้แล้วคาดว่าต้องมีคนสมหวังกันไม่น้อยเลยทีเดียว




ย่านยานากะ

ยานากะ (Yanaka) เป็นหนึ่งในย่านที่น่าสนใจในโตเกียว เป็นย่านที่มีน้องแมว ทั้งแมวจริงและของกินของใช้รูปแมวเต็มไปหมด ซึ่งตั้งที่อยู่บริเวณสถานี JR Nippori เหมาะสำหรับการมาเดินเตร็ดเตร่สบายๆ หลบหลีกผู้คนและความวุ่นวายจากย่านการค้าอย่างชิบูย่าหรือชินจูกุ

ย่านยานากะ ได้ชื่อว่าเป็นย่านแมวแห่งโตเกียว สาเหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะสมัยก่อนย่านนี้เต็มไปด้วยแมว แต่เพราะปริมาณที่เยอะจึงเริ่มเกิดปัญหากับชุมชน ทำให้มีมาตราการควบคุมจำนวนแมว จำนวนน้องแมวที่เห็นเตร็ดเตร่ตามซอกซอยจึงลดลง


ยานากะกินซ่า เป็นถนนเล็ก ๆ ยาวประมาณ 170 เมตร มีสัญลักษณ์ประจำย่านคือแมวเหมียว มองไปทางไหนก็เจอแต่อะไร ๆ ที่เป็นเจ้าเหมียว ของกินของใช้ลายแมวเหมียวสุดน่ารัก ทั้งของตกแต่งกระจุกกระจิก สินค้าแฮนด์เมด จานชามแก้วน้ำ ตุ๊กตา และของใช้มากมาย แน่นอนว่าทุกชิ้นล้วนแต่เป็นแมวเหมียว ซื้อกลับไปเป็นของฝากเพื่อนๆ ทาสแมวกันได้เลย

และอีกหนึ่งไฮไลต์ก็คือ “โดนัทรูปหางแมว” ที่โด่งดังในโลกโซเชียล เพราะความน่ารักเกินห้ามใจและรสชาติที่หลากหลาย ทำให้ใครๆ ต่างแวะเข้าร้านนี้




เกาะเอโนะชิมะ เกาะแมวใกล้โตเกียว

หากพูดถึง “เกาะแมว” ที่ญี่ปุ่นนั้นมีมากมาย ใครมีโอกาสมาเที่ยวโดยเฉพาะเหล่าทาสแมว ต้องห้ามพลาดไปเยือนที่ “เกาะเอโนะชิมะ” (Enoshima Island) เป็นเกาะแมวที่อยู่ใกล้เมืองโตเกียวที่สุด




เกาะเอโนะชิมะ ตั้งอยู่ที่จังหวัดคานากาว่า มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ศาลเจ้า และเหล่าแมวเหมียว แม้ว่าจะมีประชากรแมวน้อย แต่ก็น่ารักไม่แพ้เกาะอื่นๆ อย่างแน่นอน นอกจากเหล่าน้องแมวแล้ว ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอาทิ “ประภาคารเอโนะชิมะซีแคนเดิล” (Enoshima Sea Candle) ประภาคารที่สามารถขึ้นไปชมวิว 360 องศา บนหอคอยสูง 120 เมตร มองเห็นทิวทัศน์อันแสนงดงาม

และมี “ศาลเจ้าเอโนชิมะ” (Enoshima Shrine) เทพแห่งการตกปลาและการเดินทางทางทะเล ที่มีศาลเจ้าเล็ก ๆ 3 ศาลกระจายอยู่ทั่วเกาะ



สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น