บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ ศ. 2567 ที่จุดชมวิวเสม็ดนางชีบูทีค รีสอร์ต บ้านหินร่ม ม.2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบธรรมชาติ ได้เดินทางขึ้นมาพักค้างคืนเพื่อรอสัมผัสกับแสงแรกของวันขึ้นปีใหม่ 2567 จนห้องพักเต็มทุกหลัง
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาเฝ้ารอชมแสงแรกของวันปีใหม่ 2567 ที่จุดชมวิวเสม็ดนางชี ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องของจังหวัดพังงาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากสามารถชมวิวที่สุดอเมซิ่งของอ่าวพังงาแบบพาโนรามา 180 องศา มีป่าเกาะเป็นเขาหินปูนหลากหลายรูปแบบ เรียงรายกันอยู่อย่างสวยงามจนสุดลูกหูลูกตา โดยผู้ประกอบการได้สร้างห้องพักเก๋ ๆสไตล์บูทีค พร้อมกับรังสรรค์เมนูซีฟูดที่สุดแสนอร่อยและสด โดยใช้วัตถุดิบจากชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ ปัจจุบันเสม็ดนางชีจึงเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญต้องห้ามพลาดของจังหวัดพังงา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
สำหรับคำว่า “เสม็ดนางชี” นั้น เดิมชาวบ้านเรียกว่าบ้าน “เหม็ดนางชี”อยู่ระหว่างบ้านหินร่มและบ้านคลองท่อมในตำบลคลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ที่มาของชื่อนั้นมาจากเรื่องเล่าปรัมปรา ว่าในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้ มีพระภิกษุชรา 1 รูป อาศัยอยู่ที่ เขาพระอาดเฒ่า พระภิกษุหนุ่ม1รูป อาศัยอยู่ที่เขาพระอาดหนุ่ม และมีแม่ชีอาศัยอยู่ที่ใกล้จุดชมวิว และจะเดินไปมาหาสู่กัน แล้วต้องเดินผ่านลำคลอง
เมื่อแม่ชีเดินผ่านในลำคลอบงจะต้องเหม็ดผ้าขึ้น (พับผ้าขึ้น, ถลกชายผ้า) ให้พ้นจากระดับน้ำ ไม่เช่นนั้นชายผ้าก็จะเปียกหมด เลยเป็นที่มาของคำว่า "เหม็ดนางชี" และเพี้ยนมาเป็น "เสม็ดนางชี" ในปัจจุบัน ส่วนเขาพระอาดนั้นมาจากพระภิกษุที่เห็นแม่ชีถลกผ้าข้ามคลองแล้วมีอาการกำหนัด ซึ่งภาษาถิ่น จะเรียกว่า “อาด” จึงเป็นที่มาของเขาพระอาดด้วยเช่นกัน