เริ่มต้นปีใหม่ 2567 ด้วยความเป็นมงคล สักการะขอพร 9 ด้าน ที่ “วัดโพธิ์” ไม่ว่าจะความโชคดี ความมงคล แคล้วคลาดปลอดภัย ชีวิตราบรื่นไร้อุปสรรค
ลาแล้วปีเก่า 2566
เริ่มต้นปีใหม่ 2567
ในปีใหม่นี้ หลายๆ คนเลือกการไปไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นสิ่งดีๆ ในปี 2567 และสถานที่ยอดฮิตก็คือวัดย่านสนามหลวง ที่มีตั้งแต่ศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว วัดมหาธาตุ และวัดโพธิ์ ที่ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้ ก็จะมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมากันอย่างคึกคัก
และสำหรับโอกาสอันดีนี้ เราจึงขอเชิญชวนทุกคนไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพร 9 ด้าน กันที่ “วัดโพธิ์” วัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร
“วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร” หรือ “วัดโพธิ์” เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรี เดิมชื่อ “วัดโพธาราม" เป็นวัดโบราณที่ราษฎรสร้างไว้ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑) เสวยพระราชสมบัติ และทรงย้ายเมืองหลวงมายังฝั่งพระนคร มีการสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นใหม่ จึงทรงปฎิสังขรณ์วัดโพธารามที่อยู่บริเวณเดียวกันไปด้วย
ไฮไลต์ของวัดโพธิ์ คือ “พระพุทธไสยาสน์” ซึ่งเปรียบเสมือนภาพแทนสัญลักษณ์ของวัดโพธิ์ ซึ่งพระพุทธไสยาสน์เป็นพระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระพุทธไสยาส เป็นพระพุทธรูปนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมี ต้นตำรับการนวดวัดโพธิ์ ก็ถือเป็นจุดกำเนิดการนวดแผนไทย ซึ่งนวดแผนไทย ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ รวมไปถึงที่วัดแห่งนี้ยังเป็นแหล่งรวบรวมศาสตร์ และศิลป์ที่สำคัญไว้หลากหลายแขนง วิจิตรงดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนจากทั่วโลก จึงทำให้ “วัดโพธิ์” ไม่เพียงเป็นมรดกล้ำค่าของประเทศไทย แต่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่สำคัญทรงคุณค่าในระดับโลก
สำหรับการไปสักการะขอพร 9 ด้าน นั้น ทางวัดโพธิ์ได้จัดทำเส้นทางตามรอยจุดสักการะทั้ง 9 แห่งไว้ ดังนี้
จุดที่ 1 พระพุทธเทวปฏิมากร "สิริมงคลแห่งการเริ่มต้นใหม่"
พระประธานที่งานดังเทวดาสร้าง พระพุทธเทวปฏิมากร ที่เชื่อว่าเมื่อมาสักการะแล้ว "จะช่วยให้โชคดีทำให้เกิดความสงบจิตสงบใจ คิดทำการสิ่งใดก็สมเร็จผลทุกประการ หากผู้ใดคิดการร้ายจะหลีกหายไปในบัดดล"
จุดที่ 2 พระพุทธโลกนาถจากกรุงเก่า "ขอให้มีลูก"
คนอยุธยาเชื่อกันว่าพระโลกนาถทรงอำนาจศักดิ์สิทธิ์ คุณเสือเจ้าจอมในรัชกาลที่ ๑ จึงขอลูกกับพระโลกนาถ และขอพระราชทานสลักรูปเด็กผมจุกชายหญิง 2 ตนไว้บนผนังวิหารเบื้องหลังพระโลกนาถ
จุดที่ 3 ประตูเฮง หรือ ประตูฮก ลก ซิ่ว "ประตูแห่งความมงคล"
เป็นศิลปะแบบจีนตั้งอยู่ที่หน้าพระอุโบสถ มีความเชื่อกันว่าเป็นประตูแห่งความมงคล ช่วยล้างอาถรรพ์ สะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง ผู้มาวัดโพธิ์จึงมักจะมาเดินลอดประตูเฮงแห่งนี้เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล
จุดที่ 4 พระพุทธชินราช "ขอพรให้หายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บ"
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่คนไทยจำนวนมากเดินทางไปสักการะบูชาไม่ขาดสาย และมักไหว้ขอพรเรื่องต่างๆ เพื่อเสริมสิริมงคลในชีวิตให้เจริญรุ่งเรือง โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมขอพรให้หายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บ บ้างก็ขอให้ช่วยปกป้องคุ้มครองครอบครัวให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรง
จุดที่ 5 พระพุทธชินศรี พระปางนาคปรก "ปกป้องคุ้มครองภัย"
เชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปประจำวันเสาร์ ก็เพราะวันเสาร์เป็นวันแข็งและดาวเสาร์ก็เป็นดาวบาปเคราะห์ใหญ่ ผู้ที่เกิดวันนี้จึงมักอาภัพ มักมีเรื่องทุกข์ใจ ผิดหวัง และพบเจออุปสรรคอยู่เสมอ ดังนั้น โบราณจึงให้พระนาคปรกประจำวันนี้ เปรียบเสมือนให้พญานาคราชได้แผ่พังพานปกป้องคุ้มครองให้เจ้าชะตาพ้นทุกข์และภัยพิบัติต่างๆ
จุดที่ 6 พระพุทธไสยาสน์ (ปางโปรดอสุรินทราหู) "ขอให้มีสติ ถ่อมตน เห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง"
เมื่อผู้ที่มาขอพรขอให้มีอนุสติ รำลึกถึงเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าทรงโปรดอสุรินทราหู ที่ทะนงตนว่ายิ่งใหญ่และเหนือกว่าพระพุทธเจ้า จนพระพุทธองค์เนรมิตพระวรกายให้สูงใหญ่กว่า จนอสุรินทราหูคลายฐิทิมานะ รับฟังธรรมจากพระองค์
จุดที่ 7 พระพุทธศาสดา พระประธานองค์เดิม "ร่มเย็นเป็นสุขดังร่มโพธิ์ ร่มไทร"
พระพุทธศาสดา เป็นพระประธานเดิมของวัดโพธาราม รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานเป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ และอัญเชิญพระพุทธเทวปฏิมากรมาประดิษฐานแทน
จุดที่ 8 ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ "เปิดทางให้ราบรื่น ไร้อุปสรรคขัดขวาง"
ศาลกรมหลวงชุมพรฯ เดิมสร้างขึ้นที่เชิงสะพานนางเลิ้งแต่พอมีการตัดถนนผ่านที่ตั้งของศาล จึงได้ย้ายมาตั้งอยู่ที่วิหารคดในวัดโพธิ์ ผู้คนมีความเชื่อกันว่า ก่อนที่จะทำพิธีกรรมใดๆ จะต้องมาสักการะที่ศาลแห่งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการเปิดทางให้ราบรื่น ไร้อุปสรรคขัดขวาง
จุดที่ 9 ยักษ์วัดโพธิ์ ทวารบาลผู้ปกปักรักษา "ขอพรพญายักษ์ทั้ง ๔ ตน แห่งวัดโพธิ์"
พญาขร มีผิวกายสีหงเสน (สีแดงเสนผสมสีขาว)
ประจำอยู่ประตูด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีความเชื่อกันว่า ท่านสามารถดลบันดาลอำนาจ วาสนา บารมีให้กับผู้ที่มาสักการะขอพร
พญาสัทธาสูร มีผิวกายสีเขียว ประจำอยู่ประตู
ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ขึ้นชื่อในเรื่องของการประทานพรด้านตำแหน่งหน้าที่การงาน ผู้คนนับหน้าถือตา มีชื่อเสียง มีเกียรติในสังคม
พญามัยราพณ์ (ไมยราพ) มีผิวกายสีม่วงอ่อน
ประจำอยู่ประตูด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีความเชื่อกันว่า ท่านมีอิทธิฤทธิ์ในการปราบศัตรูพ่าย หรือเปลี่ยนศัตรูร้ายให้กลายเป็นมิตรที่ดี
พญาแสงอาทิตย์ มีผิวกายสีแดงชาด ประจำอยู่
ประตูด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผู้คนมักจะมาขอพรให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ รวมไปถึงด้านความรักด้วย
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
