ชวนเที่ยว “กาฬสินธุ์” เมืองเล็กน่ารักแห่งภาคอีสาน นอกจากจะมีไฮไลต์คือการไปชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดในอาเซียนแล้ว ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่น่าไปสัมผัส
“กาฬสินธุ์” จังหวัดเล็กๆ ในภาคอีสาน ที่หลายคนคุ้นเคยกับการเป็นแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์ และการมีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ให้ได้ชม
แต่ที่กาฬสินธุ์ใช่ว่าจะมีให้เที่ยวแค่ไดโนเสาร์ ยังมีวัดงาม วิวสวย และจุดเช็คอินอีกหลายแห่งที่ไม่ควรพลาด
ชวนมาเที่ยว 10 จุดเช็คอินเมืองกาฬสินธุ์ เมืองเล็กสุดน่ารักแห่งภาคอีสาน
วัดกลาง
เอาฤกษ์เอาชัยทริปท่องเที่ยวด้วยการไปที่ “วัดกลาง” ในตัวเมืองกาฬสินธุ์ ไปสักการะ “พระพุทธสัมฤทธิ์นิโรคันตราย” หรือ “หลวงพ่อองค์ดำ-ชุ่มเย็น” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองกาฬสินธุ์ สร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ.2353 เป็นพระพุทธรูปประทับขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย ศิลปะล้านช้าง เดิมนั้นประดิษฐานอยู่ที่วัดนาขาม (อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์) ก่อนจะถูกอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดกลางแห่งนี้ และทุกๆ ปี ในช่วงวันสงกรานต์ ชาวกาฬสินธุ์จะอัญเชิญหลวงพ่อองค์ดำแห่รอบๆ เมือง เพื่อให้ชาวบ้านได้สรงน้ำ ปรากฏว่าก็จะมีฝนตกทุกครั้ง ชาวกาฬสินธุ์จึงเรียกท่านอีกชื่อว่า หลวงพ่อชุ่มเย็น
หลักเมืองภาพยนตร์
โรงหนังเก่าใจกลางเมืองกาฬสินธุ์ โรงหนังแห่งนี้เปิดกิจการมาตั้งแต่ พ.ศ.2512 โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่ฉาย คือ "วิมานคนแคระ" (The Gnome-Mobile) ภาพยนตร์แนวแฟนตาซี ปี ค.ศ.1967 ของบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ และได้ปิดตัวลงไปใน พ.ศ.2539 ซึ่งเป็นยุคที่โรงหนังยุคใหม่เข้ามาแทนที่ รวมทั้งยังมีทางเลือกการชมความบันเทิงด้วยหนังแผ่นอยู่กับบ้าน โรงหนังเก่าถูกทิ้งร้างไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆมาเนิ่นนาน จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับทางจังหวัดกาฬสินธุ์ได้เข้ามาสร้างสีสันด้วยการให้ศิลปินกราฟิตี้เข้ามาวาดลวดลายในย่านชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ สตรีทอาร์ตกาฬสินธุ์
พระธาตุยาคู
“พระธาตุยาคู” ตั้งอยู่ที่ อ.กมลาไสย เป็นพระธาตุที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟ้าแดดสงยาง (เมืองโบราณของกาฬสินธุ์) ซึ่งใช้บรรจุพระอัฐิของพระเถระผู้ใหญ่ที่ชาวเมืองเคารพนับถือ (ญาคู ภาษาอีสาน หมายถึง พระสงฆ์ผู้ใหญ่ในวัด) พระธาตุยาคูยังคงสภาพเป็นโบราณสถานที่สมบูรณ์ องค์พระธาตุมีลักษณะทางศิลปกรรมอันโดดเด่นใน 3 ยุคสมัย คือ ส่วนฐานเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุมสร้างในสมัยทวารวดี ส่วนล่างองค์เจดีย์เป็นทรงแปดเหลี่ยมสร้างในสมัยอยุธยา ส่วนองค์ระฆังและส่วนยอดสร้างต่อเติมในสมัยรัตนโกสินทร์ รอบองค์พระธาตุมีใบเสมาเก่าแก่ปักอยู่ตามทิศต่างๆ
วัดโพธิ์ชัยเสมาราม
เป็นวัดโบราณที่เชื่อกันว่าเป็นวัดประจำเมืองฟ้าแดดสงยาง มีการค้นพบใบเสมาในเมืองฟ้าแดด มีใบเสมาหินขนาดใหญ่ที่อาจถือเป็นเอกลักษณ์ของอีสาน เนื่องจากแทบจะไม่พบในภาคอื่นเลย ชาวบ้านได้นำใบเสมาหินที่ขุดพบมารวบรวมไว้ที่วัดจำนวนมาก ใบเสมาที่พบในเมืองฟ้าแดดสงยางมีความโดดเด่นคือ นิยมแกะสลักภาพเล่าเรื่องราวพุทธประวัติและชาดก
สะพานเทพสุดา
“สะพานเทพสุดา” สะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ข้ามเขื่อนลำปาว จากบริเวณแหลมโนนวิเศษ อ.สหัสขันธ์ ถึงบริเวณเกาะมหาราช อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ บนสะพานเทพสุดาสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามบริเวณพื้นที่เขื่อนลำปาวได้อย่างชัดเจน มองเห็นทั้งวิถีชีวิตชาวบ้านที่ทำการประมง ไปจนถึงกิจกรรมการท่องเที่ยวล่องแพในเขื่อน
เขื่อนลำปาว
เขื่อนดินขนาดใหญ่ที่ช่วยบรรเทาอุทกภัยและช่วยเหลือด้านการเกษตร อีกทั้งยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ มี “หาดดอกเกด” เป็นหาดเนินดินที่กว้างขวาง มากินข้าว นั่งเล่นกันได้ หรือบริเวณริมสันเขื่อน ช่วงเย็นๆ แดดร่มลมตกก็อากาศเย็นสบายมากๆ มานั่งกินอาหารชมวิวสวยๆ กันได้
พิพิธภัณฑ์สิรินธร
ที่กาฬสินธุ์เป็นแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์กินพืชที่สมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทยและไดโนเสาร์ชนิดอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากใครอยากมาศึกษาเรื่องราวของไดโนเสาร์ต้องมาที่ “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ดีที่สุดในอาเซียนอีกด้วย
ภายในจัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ถึง 8 โซนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่เรื่องโลกและจักรวาล เล่าต่อเนื่องมาตามยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตและตัวชูโรงอย่าง “ไดโนเสาร์” ที่นอกจากจะนำเสนอเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่อื่นๆ แล้ว ก็ยังพูดถึงการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของ 8 สายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่พบได้เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น โดยได้จัดแสดงไว้อย่างอลังการบริเวณโถงกลาง
รวมถึงมีหุ่นจำลอง “สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส” ที่ยืนเด่นกลางโถงอ้าปากแยกเขี้ยวทำหน้าถมึงทึง ซึ่งเจ้าตัวนี้ถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่ เพราะมันเป็นบรรพบุรุษของ “ไทรันโนซอรัส เร็กซ์” หรือ “ที-เร็กซ์” จอมโหดแห่งเรื่อง “จูราสสิค เวิลด์” นั่นเอง
วัดพุทธนิมิต
“วัดพุทธนิมิตร” หรือ “วัดภูค่าว” วัดเงียบสงบที่มีสถาปัตยกรรมงดงามหลายจุด เริ่มจากด้านหน้ามีพระพุทธรูปสี่อิริยาบถ ถัดมาเป็น “พระมหาธาตุเจดีย์พุทธนิมิต” เป็นเจดีย์ยอดทองคำหนัก 30 กิโลกรัม ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจาก 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินเดีย ศรีลังกา เนปาล และพม่า รวมทั้งพระอรหันตธาตุ พระพุทธนิมิตเหล็กไหล และพระพุทธรูปหินทรายอีกเป็นจำนวนมาก
ทางด้านพระอุโบสถของที่นี่ก็สวยแปลกตา เป็น “พระอุโบสถไม้” ที่วิจิตรงดงามโดยสร้างขึ้นจากไม้ขนาดใหญ่ที่นำขึ้นมาจากใต้เขื่อนลำปาว ด้านในประดิษฐาน "พระมงคลชัยสิทธิ์โรจนฤทธิประสิทธิพร" เป็นพระประธานปางตรัสรู้หรือปางสมาธิสีทองสุกอร่าม
อีกจุดหนึ่งที่ต้องไปสักการะเมื่อมาถึงวัดแห่งนี้ก็คือ “พระพุทธไสยาสน์” ที่แกะสลักบนแผ่นผาอายุนับพันปี สันนิษฐานว่าเป็นพระโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า มีลักษณะพระเศียรไม่มีเกตุมาลา นอนตะแคงซ้าย พระเศียรหนุนทับต้นแขน โดยท่อนแขนที่หนุนพระเศียรไม่ได้ตั้งขึ้นและพระหัตถ์ไม่ได้รองรับพระเศียร ความยาวตลอดองค์พระ 2 เมตร สูง 0.5 เมตร มีทองคำเปลวปิดอยู่ทั่วองค์
วัดพุทธาวาสภูสิงห์
บริเวณด้านบนภูสิงห์ประดิษฐาน “พระพรหมภูมิปาโล” พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ องค์สีขาว มีพระลักษณะสมส่วนและสวยงามที่สุดองค์หนึ่งของไทย มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 346 เมตร ทำให้ด้านบนสามารถมองเห็นวิวสวยๆ ของเขื่อนลำปาว และสภาพบ้านเรือนในอำเภอสหัสขันธ์ได้ด้วย
สามารถขึ้นมาสักการะพระพรหมภูมิปาโลที่ด้านบนเขาด้วยการเดินขึ้นบันได 654 ขั้น แต่ถ้าใครเดินขึ้นบันไดไม่ไหว ก็สามารถขับรถขึ้นไปด้านบนได้ เพียงแต่ต้องใช้ความระมัดระวังมากหน่อย เพราะเป็นถนนแคบๆ อาจมีรถสวนทางขึ้น-ลงได้ตลอด
ผาแดงภูสิงห์
ที่เที่ยวแห่งใหม่ที่ทางจังหวัดกาฬสินธุ์เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรณีวิทยาและธรรมชาติ ระยะทางไป-กลับ 4 กิโลเมตร และต้องไต่ขึ้นลงเขา ตลอดระยะทางได้ชมธรรมชาติที่ร่มรื่นเขียวขจี ซึ่งก่อนจะถึงผาแดงภูสิงห์จะต้องแวะชมวิวที่ชะง่อนผา สามารถชมวิวที่สวยงาม เมื่อถึงผาแดงจะได้พบกับผาหินสีแดง พร้อมหินเกลียว ซึ่งเป็นความสวยงามตามธรรมชาติ
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline