ททท. ชวนเที่ยว “เขาสามเกลอ” ธรรมชาติงามสุดแปลกตา สัญลักษณ์อันโดดเด่นแห่ง “เขื่อนเชี่ยวหลาน” หรือ “กุ้ยหลินเมืองไทย” จ.สุราษฎร์ธานี
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ภูมิภาคภาคใต้ และ ททท.สำนักงานสุราษฎร์ธานี ชวนล่องเรือชมทัศนียภาพทะเลสาบ “เขื่อนเชี่ยวหลาน” หรือ “เขื่อนรัชชประภา” ซึ่งมีบรรยากาศที่เงียบสงบน้ำใสรายล้อมด้วยภูเขาหินปูนที่สูงชันมีรูปร่างแปลกตาสวยงามจนได้รับการขนานนามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย”
เขื่อนรัชชประภา หรือชื่อเดิมคือ เขื่อนเชี่ยวหลาน เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2525 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน พ.ศ. 2530
หลังสร้างแล้วเสร็จ เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2530 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระราชทานนาม ให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” ที่มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”
เขื่อนรัชชประภา เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว มีความสูง 94 ม. มีความยาวสันเขื่อน 761 ม. และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง มีความจุ 5,638.8 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตร.กม. สร้างขึ้นเพื่อนปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก
ด้วยสภาพพื้นที่ บรรยากาศ วิวทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบ ภูเขาหินปูน และผืนป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ ผนวกกับองค์ประกอบความงามอื่นๆจากธรรมชาติ ส่งผลให้เขื่อนเชี่ยวหลานเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมืองไทย โดยได้รับฉายาว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” ซึ่งมีนักท่องเที่ยวรุ่นแล้วรุ่นเล่าเดินทางไปสัมผัสกับบรรยากาศความงามอยู่ไม่ได้ขาด
สำหรับผู้ที่มาเที่ยวเขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน นั้นก็มีกิจกรรมอันหลากหลายชวนให้เพลิดเพลิน ซึ่งสามารถเลือกเที่ยวได้ทั้งแบบวันเดย์ทริป (ไปเช้า-เย็นกลับ) หรือนอนพักค้างในทะเลสาบเชี่ยวหลานสัมผัสบรรยากาศสุดฟิน
ภายในเขื่อนเชี่ยวหลานมีกิจกรรมและสิ่งน่าสนใจหลากหลายให้เลือกทำและเที่ยวชม อาทิ “นอนเขื่อน” สัมผัสบรรยากาศสุดฟินของที่พักต่าง ๆ ท่ามกลางธรรมชาติของทะเลสาบและขุนเขา, “ล่องเรือยามเช้า ชมทะเลหมอก” เป็นบริการเสริม (ฟรี) ของที่พักต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะได้ชมทะเลหมอกลอยอ้อยอิ่งเหนือทะเลสาบแล้ว วันไหนโชคดียังมีนกเงือกฝูงใหญ่ให้ชมกันอีกด้วย
“เที่ยวถ้ำ” ภายในพื้นที่เขื่อนเชี่ยวหลาน ได้แก่ ถ้ำน้ำทะลุ ถ้ำประกายเพชร และ ถ้ำปะการัง ที่งดงามไปด้วยหินงอกหินย้อย “ล่องเรือเที่ยวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง” ชมวิถีชีวิตสัตว์ป่าหายากออกหากิน อาทิ กระทิง ช้าง หมูป่า ค่างแว่นถิ่นใต้, “จุดชมวิวไกรสร” ชมทิวทัศน์มุมสูง มุมกว้างของธรรมชาติผืนป่า ขุนเขา และสายน้ำในทะเลสาบเชี่ยวหลาน
ส่วนสายกินไม่ควรพลาดการลองลิ้มชิมรส ปลาน้ำจืดบนแพที่เปิดเป็นร้านอาหารและรีสอร์ต ซึ่งมีเมนูเด็ด ได้แก่ “ปลาแรดทอดกระเทียม” และเมนูปลาปลาน้ำจืดอีกหลากหลาย
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต้องห้ามพลาดกับไฮไลต์ล่องเรือชม “เขาสามเกลอ” ที่ถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์แห่งเขื่อนเชี่ยวหลาน
เขาสามเกลอ เป็นยอดเขาแหลมเล็ก ๆ 3 ยอดที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาอวดโฉมเรียงกันอยู่กลางทะเลสาบสีมรกต
เขาสามเกลอมีตำนานเล่าขานเชื่อมโยงกับศาลศักดิ์สิทธิ์ในเขื่อนเชี่ยวหลานคือ “ศาลพ่อตาโจงโดง”ที่ชาวบ้านในพื้นที่เคารพนับถือ โดยเชื่อว่าเป็นจุดที่เรือขันหมากของพ่อตาโจงโดง ขณะกำลังไปสู่ขอยายแก้ว ล่มลงที่นี่ และพานพุ่มได้จมลงเกิดเป็นภูเขาที่มีรูปร่างคล้ายพานพุ่มสามพานพุ่ม จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “เขาขันหมาก”
ขณะที่ใกล้ ๆ กับเขาสามเกลอนั้นเป็นที่ตั้งของ “เขาอินเดียนแดง” ที่ตั้งชื่อตามลักษณะรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายอินเดียนแดงเพียงแต่ต้องใส่จินตนาการเข้าไปด้วย ส่วนอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือ “หน้าผาหญิงสาว” กับหน้าผาใหญ่ที่มีร่องรอยตามธรรมชาติปรากฏเป็นรูปคล้ายหญิงสาว 2 คนบนหน้าผา ซึ่งก็ต้องใช้จินตนาการในการชมเช่นกัน
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของเขาสามเกลอ ธรรมชาติที่ดูแปลกตาน่าทึ่ง ซึ่งหากใครที่มาเยือนเขื่อนเชี่ยวหลานแล้วไม่ได้ล่องเรือไปชมเขาสามเกลอนั้นถือว่ายังมาไม่ถึงกุ้ยหลินเมืองไทยโดยสมบูรณ์
###############################################
สำหรับโปรแกรมท่องเที่ยวที่นี่มีทั้งแบบวันเดย์ทริปและแบบพักค้างคืน ซึ่งมีผู้ให้บริการที่พักอยู่หลากหลายรวมถึงที่พักของอุทยานแห่งชาติเขาสก โทร. 077 395 139
สามารถสอบถามข้อมูลที่พัก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ที่ ททท. สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7728 8817-9
ภาพเขาสามเกลอ โดย อโนทัย งานดี