เป็นปีที่มาแรงจริงๆสำหรับประเทศนิการากัว (Nicaragua) ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ สื่อท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง Lonely Planet ประกาศให้เป็น Top 10 ของประเทศที่คุ้มค่ากับการท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งปี 2024 และช่วงสายของวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา (ตามเวลาประเทศไทย) “เชย์นิส ปาลาซิออส” (Sheynnis Palacios) สาวงามตัวแทนจากนิการากัว ก็คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2023 มาครองได้เป็นครั้งแรกของประเทศ
เมื่อมองมาที่จุดเด่นในด้านการท่องเที่ยว Lonely Planet ให้เหตุผลของการยกให้ประเทศนิการากัวรเป็น Best in Travel 2024 ในหมวด “จุดหมายท่องเที่ยวสุดคุ้มค่า” ว่าเป็นจุดหมายปลายทางราคาประหยัดอันดับต้นๆ ของทวีปอเมริกากลาง
ประเทศนี้มีกิจกรรมโต้คลื่น แสงอาทิตย์อันอบอุ่น หมู่บ้านสไตล์โคโลเนียล ป่าเขตร้อน เกาะร้าง การลองไปชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาสักครั้งหนึ่งจากบนยอดภูเขาไฟสักลูกในนิการากัวอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในปี 2024 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้สัมผัสอีกมากมาย เช่น ถนนโบราณที่ปูด้วยหินในเมืองกรานาดา หมู่บ้านนักเล่นเซิร์ฟที่กระจายอยู่ตามชายฝั่งแปซิฟิก หรือเขตอนุรักษ์ธรรมชาติมากถึง 78 แห่ง
นอกชายฝั่งทะเลแคริบเบียนของนิการากัว ยังมีไฮไลต์อย่างหมู่เกาะ Corn ซึ่งมีวิถีชีวิตเนิบช้าเป็นจุดหมายที่คนท้องถิ่นชื่นชอบ ไม่มีสถานที่ใดที่จะดีไปกว่าการได้สัมผัสกับสวรรค์ที่ถูกลืมแห่งนี้ไปมากกว่าที่ลิตเติ้ลคอร์นบีช และการนอนบังกะโลริมทะเล
สำหรับเว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวประเทศนิการากัว ให้ข้อมูลน่าสนใจไว้ว่า ดินแดนแห่งนี้เป็นการผสมผสานระหว่างธรรมชาติ ความลี้ลับ และอาหารรสชาติต้นตำรับ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางในอุดมคติสำหรับทุกคนที่มาเยือน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายต่างๆในราคาที่เอื้อมถึง วัฒนธรรม และผู้คนที่เป็นมิตร
โดยสิ่งเหล่านี้ คือ 9 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับเสน่ห์ของประเทศในอเมริกากลางแห่งนี้
ดินแดนแห่งทะเลสาบและภูเขาไฟ
นิการากัวเป็นที่รู้จักดีจากภูเขาไฟ เช่น San Cristóbal, Cerro Negro, Masaya, Mombacho, Maderas, Concepción ฯลฯ และทะเลสาบ Cocibolca, Xolotlán, Apanás ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชาวท้องถิ่นหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่างก็เพลิดเพลินกับความงามทางธรรมชาติเหล่านี้ ทำให้การท่องเที่ยวรูปแบบผจญภัยกลางแจ้ง ชมชายหาด ธรรมชาติ การท่องเที่ยวในชนบท ทัวร์เกาะ เล่นกระดานโต้คลื่น ดำน้ำลึก และเดินป่า ล้วนเป็นกิจกรรมยอดนิยม
ดินแดนแห่งมรดกโลก
ประเทศนี้เป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลก 4 แห่งของยูเนสโก ได้แก่ ซากโบราณสถานของเลออน บิเอโฆ (León Viejo) , อาสนวิหารลีออน (León), ภาษาและวัฒนธรรมของชาวการิฟูนา (Garifuna) และการแสดงละครที่เรียกว่า El Güegüense
เสน่ห์เมืองเก่าสไตล์โคโลเนียล
ลีออน (León), กรานาดา (Granada) และ ซิวดัดอันติกา (Ciudad Antigua) คือ สามเมืองแรกที่ก่อตั้งโดยชาวสเปนหลังจากเดินเรือมาถึงดินแดนนิการากัว อย่างไรก็ตาม ลีออน และกรานาดา ยังเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองอาณานิคมที่งดงามและมีความสมบูรณ์ในด้านสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสะท้อนให้เห็นการเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ในอดีต
ดินแดน 7 ภาษา
เนื่องจากประเทศนี้เป็นบ้านของวัฒนธรรมผสมผสานไม่ว่าจะเป็นลูกครึ่งแอฟโฟร และชนพื้นเมือง จึงมีภาษาต่างๆ มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในภูมิภาคแคริบเบียน ได้แก่ ภาษาอังกฤษแบบครีโอล มิสกิโต มายยังนา รามา อุลวา การิฟูนา และภาษาสเปนซึ่งเป็นภาษาที่พูดกันทั่วประเทศ
แหล่งความหลากหลายทางชีวภาพ คิดเป็น 7% ของโลก
นิการากัวมีความหลากหลายทางชีวภาพประมาณ 7% ของโลก ครอบคลุมทั้ง พืช สัตว์มีกระดูกสันหลัง ปลา นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง สัตว์ขาปล้อง หอย ปะการัง และเชื้อรา ที่เป็นสายพันธุ์ที่มีอยู่ในประเทศ โดยมีระบบนิเวศพืช 68 แห่ง และคิดเป็น 60% ของอเมริกากลาง
เขตสงวนชีวมณฑล
ประเทศนี้มีเขตสงวนชีวมณฑล 3 แห่งที่รับรองโดยยูเนสโก ได้แก่ Bosawás, Ometepe และ Río San Juan ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หลากหลายชนิด ภูมิภาคแคริบเบียนยังเป็นเขตสงวนชีวมณฑล ตามที่รัฐสภาของประเทศประกาศไว้ในปี ค.ศ.2021
อุทยานธรณีโลกแห่งแรกในอเมริกากลาง
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2020 แม่น้ำ Río Coco ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ได้รับสถานะให้เป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกโดยยูเนสโกในทวีปอเมริกากลาง ครอบคลุมเขตเทศบาล Somoto, Totogalpa, San Lucas, Las Sabanas และ San José de Cusmapa ในจังหวัด Madriz มีอาณาเขตพื้นที่เกือบ 1,000 ตารางกิโลเมตร และมีแหล่งภูมิศาสตร์ 12 แห่งที่มีความเกี่ยวข้องทางธรณีวิทยาและภูมิทัศน์ระดับนานาชาติ
แหล่งกำเนิดของบิดาแห่งลัทธิฮิสแปนิกสมัยใหม่
นิการากัว เป็นดินแดนกำเนิด “รูเบน ดาริโอ” Rubén Darío กวีชาวนิการากัวผู้ริเริ่มวรรณกรรมภาษาสเปนที่เรียกว่า Modernismo ซึ่งรุ่งเรืองในปลายศตวรรษที่ 19 เขามีอิทธิพลอย่างมากต่อวรรณกรรมและสื่อสารมวลชนภาษาสเปนในศตวรรษที่ 20 นับเป็นตัวแทนและนักปฏิวัติวรรณกรรมสเปนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งในชีวิตของเขาเคยเป็นกวี นักข่าว และนักการทูตและถือเป็นวีรบุรุษของชาติ
ประเทศนี้มีอาหารหลากหลายประมาณ 2,000 เมนู
อาหารการกินของนิการากัว ก็นับเป็นสิ่งโดดเด่น เป็นประเทศที่มีการผสมผสานสูตรอาหารจากข้าวโพดและมะพร้าว แต่ละเมืองมีอาหาร เครื่องดื่ม และของหวานเป็นของตัวเอง ซึ่งเหมือนกันในแต่ละโอกาส เทศกาล หรือฤดูกาลของปี บางส่วนที่รู้จักกันดีที่สุดคือ gallopinto, nacatamal, vigorón ฯลฯ
ข้อมูลเพิ่มเติม
นักท่องเที่ยวชาวไทย เดินทางไปนิการากัวได้อย่างสะดวก เพราะเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถขอ Visa on Arrival (VOA) เมื่อเดินทางไปถึงได้ โดยเสียค่าธรรมเนียม 10 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และพำนักได้ไม่เกิน 30 วัน
ไม่มีเที่ยวบินตรงจากไทย จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องอย่างน้อย 2 ครั้ง โดยมีจุดหมายอยู่ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติ Augusto Cesar Sandino ในเมืองมานากัว ประเทศนิการากัว
ฤดูกาลท่องเที่ยวที่ดีที่สุด คือ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - พฤษภาคม ที่มีอากาศดี ส่วนเดือนมิถุนายน - ตุลาคม ถือเป็นกรีนซีซั่น ซึ่งเป็นช่วงที่มีฝนเขตร้อน แต่ก็นำพาความเขียวชอุ่มและอากาศที่เย็นสบายชุ่มฉ่ำ
เว็บไซต์การท่องเที่ยวนิการากัว https://www.visitnicaragua.us
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline