องค์กรองุ่นและไวน์นานาชาติ เผยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในปีนี้ ส่งผลให้การผลิตไวน์จากทั่วโลก ลดลงต่ำสุดในรอบ 60 ปี
องค์กรองุ่นและไวน์นานาชาติ( International Organization of Vine and Wine) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยข้อมูลที่น่ากังวลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าในปีนี้ การผลิตไวน์ทั่วโลก มีแนวโน้มต่ำที่สุดในรอบ 60 ปี เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
จากข้อมูลที่รวบรวมใน 29 ประเทศ ซึ่งคิดเป็น 94% ของการผลิตทั่วโลกในปี 2022 การผลิตไวน์ทั่วโลกในปี 2023 คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 24,170 - 24,660 ล้านลิตร ซึ่งลดลง 7% เมื่อเทียบกับปริมาณที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของปี 2022
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขในปีนี้ยังไม่รวมประเทศใหญ่ๆ เช่น จีน ซึ่งยังไม่มีข้อมูล นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตที่มีความผันผวนสูงซึ่งสังเกตได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ทำให้การคาดการณ์ยากยิ่งขึ้น
องค์กรฯ เผยว่าปีนี้เป็นการผลิตที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 (214 ลบ.ม.) โดยสถานการณ์นี้สามารถนำมาประกอบกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในประเทศผู้ผลิตไวน์รายใหญ่ในทั้งสองซีกโลก ในขณะที่ซีกโลกใต้ เช่น ออสเตรเลีย อาร์เจนตินา ชิลี แอฟริกาใต้ และบราซิล ส่วนไวน์ในกลุ่มซีกโลกเหนืออย่าง อิตาลี สเปน และกรีซ เป็นประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด จากสภาพอากาศเลวร้ายในช่วงฤดูการเพาะปลูก
มีเพียงสหรัฐอเมริกาและประเทศในสหภาพยุโรปบางประเทศ เช่น เยอรมนี โปรตุเกส และโรมาเนีย เท่านั้นสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวย ซึ่งส่งผลให้มีปริมาณเฉลี่ยหรือสูงกว่าค่าเฉลี่ย
นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่โลกเผชิญสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง เช่น น้ำค้างแข็ง ฝนตกหนัก และความแห้งแล้ง จึงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลผลิตของไร่องุ่นทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ในบริบทที่การบริโภคทั่วโลกลดลงและสต็อกสินค้ายังอยู่ในระดับสูงหลายภูมิภาคของโลก การผลิตที่ต่ำในปีนี้ก็อาจนำความสมดุลมาสู่ตลาดโลกได้เช่นกัน
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline