เที่ยวแม่ฮ่องสอน ตอนใต้ “แม่สะเรียง สบเมย แม่ลาน้อย” เสน่ห์ดินแดนขุนเขากับสายน้ำ

ละอองไอชุ่มฉ่ำปลายวัสสานฤดู โปรยปรายความสดชื่นแก่ผืนป่าดิบเขาในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่เงา เติมเต็มสายน้ำเงาให้ไหลเชี่ยวคดเคี้ยวไปตามเกาะแก่งแอ่งโค้งที่โอบล้อมความเขียวขจีของป่าธรรมชาติกับพื้นที่เกษตรกรรม แม้ม่านหมอกจางๆจากความชุ่มชื้นปกคลุมไปทั่ว แต่ก็ไม่อาจปกปิดเสน่ห์ความงามของเส้นทางท่องเที่ยว “แม่ฮ่องสอนตอนใต้”

เส้นทางท่องเที่ยวทางตอนใต้ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นดินแดนที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับนักเดินทางผู้หลงใหลความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติท่ามกลางวิถีชีวิตเรียบง่ายอยู่เสมอไม่ว่าฤดูกาลใด เฉกเช่นปลายฝนต้นหนาว ที่เรื่องราวของผืนน้ำกับความเขียวขจียังคงมัดหัวใจผู้มาเยือนได้ไม่น้อยไปกว่าช่วงเวลาอื่น


เริ่มต้นอย่างชุ่มฉ่ำ “แม่สะเรียง"
อุปสรรคของฝนกระหน่ำหนาเม็ดทำให้เราต้องปรับแผนการเดินทาง จากเดิมที่ต้องตื่นเช้ามืดแล้วมุ่งหน้าไปสู่อำเภอสบเมย เพื่อสัมผัสความงดงามของ “ดอยพุ่ยโค” หรือ ดอยพุย (ภาษาท้องถิ่นชาวกระเหรี่ยง) ดอยงามที่มีระดับความสูงอยู่ที่ 1,406 เมตร ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งหญ้าสีทอง ชมทะเลหมอกได้แบบ 360 องศา และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตกในดอยเดียวกัน (ผู้ประสานงาน ขึ้นดอยพุ่ยโค: คุณนที 06-4846-2501, 08-4976-0334)


แต่เมื่อสภาพอากาศไม่เป็นใจในเช้าแรก โปรแกรมชมดอยสวยจึงต้องพับโครงการเก็บไป แล้วเปลี่ยนมาสำรวจเมืองแม่สะเรียงยามสายในบรรยากาศฝนพรำไปแทน โดยเริ่มต้นที่ “วัดจองสูง” วัดเก่าแก่ในตัวอำเภอ

วัดจองสูง หรือวัดอุทยารมณ์ เป็นวัดไทยใหญ่ สะดุดสายตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยสถาปัตยกรรมที่มีกลิ่นอายแบบช่างชาวเมียนมา โดยเฉพาะเจดีย์ทรงมอญสีทองอร่ามเรียงกันสามองค์ อายุเก่าแก่กว่าร้อยปี

เดิมวัดแห่งนี้เคยเป็นสำนักสงฆ์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2381 โดยมีเจ้าอาวาสเป็นชาวไทยใหญ่ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2431 เมืองยวม หรือแม่สะเรียง เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ และวัดก็ได้รับความเสียหายไปด้วย ชาวบ้านจึงได้รวบรวมปัจจัยสร้างใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2439 และเรียกว่าวัดจองสูงมาตั้งแต่นั้น


สำหรับสิ่งสำคัญของวัดอย่างพระเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญสามองค์ พระเจดีย์องค์ทางทิศตะวันตกสร้างขึ้นในสมัยต้นรัชกาลที่ ๖ พระเจดีย์องค์กลางไม่ปรากฏว่าสร้างในสมัยใด เดิมทีเป็นพระเจดีย์ที่เก่าเหลือแค่ครึ่งองค์ และมีผอบทองรูปเต่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ข้างใน ภายหลังได้ทำการบูรณะใหม่จนเสร็จในปี พ.ศ. 2499 ส่วนเจดีย์เจ็ดยอดแบบชเวดากองทางทิศตะวันออก เดิมเป็นวิหารแบบไทยใหญ่ หลังคาซ้อนเป็นชั้น ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปก่ออิฐ 9 องค์ ต่อมาไฟไหม้วิหารหมด เหลือเพียงพระพุทธรูปตากแดดตากฝนอยู่ จึงได้ก่อสร้างพระเจดีย์เพื่อบรรจุพระพุทธรูปที่เหลือจากไฟไหม้ครั้งนั้น และเมื่อถึงวันเพ็ญ เดือน 3 ของทุกปี ทางวัดจะจัดงานนมัสการพระเจดีย์

วัดจองสูง ยังมีวิหารไม้สร้างใหม่บนยกพื้นสูง หลังคาหลายชั้นตามแบบการสร้างจองของไทยใหญ่ ภายในมีพระพุทธรูปปิดทองแบบมัณฑะเลย์ มีพระนอน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปไม้องค์เล็กแบบเมียนมาที่งดงาม และมีผอบบรรจุพระธาตุ นอกจากนี้ยังมีศาลาที่ประดิษฐานพระพุทธรูปแบบไทยใหญ่ มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์


ถัดจากวัดเก่า เติมพลังยามเช้าด้วยกาแฟรสชาติดีที่ “กาแฟมิตรไมตรี” ร้านกาแฟชื่อดังประจำอำเภอแม่สะเรียง ที่ผู้เป็นเจ้าของมีความหลงใหลในกาแฟ จึงอยากให้ชาวแม่สะเรียงได้ชิมกาแฟรสชาติดีในราคาจับต้องได้ โดยเปิดร้านมาประมาณ 5 ปีแล้ว


“กาแฟมิตรไมตรี” ลูกค้าเลือกเมล็ดกาแฟคั่วเข้ม กลาง หรืออ่อน ได้ เป็นการชงด้วยกรรมวิธีแบบโบราณผสมผสานกับสูตรเฉพาะของทางร้าน มีกาแฟสกัดเย็น ขนม เบเกอรี ที่อร่อยไปพร้อมกับพื้นที่ระเบียงร้าน เปิดโล่งให้นั่งชมบรรยากาศแม่น้ำยวม (ตั้งอยู่ที่ ถ.แหล่งพานิช ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง โทร. 06-1457-8155,เฟซบุ๊ก: kafaemitmaitri


ล่องแคนู “แม่เงา” ปลายฤดูฝนที่ “สบเมย”
เส้นทางลงไปตอนใต้สุดของแม่ฮ่องสอน จากอำเภอแม่สะเรียงสู่จุดหมายปลายทาง “อุทยานแห่งชาติแม่เงา” อำเภอสบเมย ระยะทางราว 45 กิโลเมตร ผ่านถนนคดเคี้ยวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็คุ้มค่ากับความเหน็ดเหนื่อยเมื่อทัศนียภาพรอบตัวค่อยๆเปลี่ยนเป็นขุนเขา ป่าดิบ และสายธารจากป่าต้นน้ำ

ก่อนถึงที่ทำการอุทยานฯ ไม่ควรพลาดจุดชมทัศนียภาพ “แม่น้ำสองสี” จุดตัดของแม่น้ำสองสาย ระหว่าง “แม่น้ำยวม” ที่มีต้นน้ำกำเนิดจากอำเภอขุนยวม แม่ฮ่องสอน กับ “แม่น้ำเงา” ที่มีต้นน้ำจากอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งแม่น้ำสองสายนี้ ไหลลงไปบรรจบกับแม่น้ำเมย ก่อนจะไหลลงไปรวมกับแม่น้ำสาละวิน

ความจริงแล้วจุดชมความงามแม่น้ำสองสี เป็นไปตามชื่อเรียกขาน โดยแม่น้ำเงา มีสายน้ำที่ ใส ส่วนแม่น้ำยวมมีสีขุ่นกว่า จนสามารถมองเห็นได้เป็นสองสีขนานกัน แต่สำหรับช่วงฤดูฝนที่กระแสน้ำหลาก จุดบรรจบสองสายน้ำจึงกลายเป็นแม่น้ำสีเดียวขุ่นเข้มราวกับสีชาเย็น แต่ทว่าทัศนียภาพที่มาทดแทนกันก็เป็นกลุ่มเมฆหนาลอยอ้อยอิ่งเคลื่อนต่ำมาปกคลุมแนวเขาเขียวครึ้มเบื้องหน้า


สำหรับ “อุทยานแห่งชาติแม่เงา” เมื่อเทียบกับแห่งอื่นถือเป็นอุทยานขนาดเล็ก เนื้อที่ประมาณ 412 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก สถานที่สำคัญเป็นยอดเขาสูง เช่น ดอยปุยหลวง ดอยเซอเทอลู่ ดอยคุยหลวง และมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน แต่ที่ขึ้นชื่อเป็นพิเศษ คือ “แม่น้ำเงา" ซึ่งเป็นลำน้ำที่ใสสะอาดสะท้อนเป็นเงาตามชื่อที่เรียกขาน


แม่น้ำเงาเป็นลำน้ำที่ยาวไหลผ่านพื้นที่ของอุทยานฯ ความยาวประมาณ 42 กิโลเมตร กว้างประมาณ 10-20 เมตร ตามสภาพของภูมิประเทศ ซึ่งความงดงามของสภาพธรรมชาติสายน้ำที่รายล้อมด้วยขุนเขากับพื้นที่เกษตรกรรมที่เงียบสงบ ห่างไกลจากความวุ่นวาย ชาวบ้านที่นี่จึงตั้งกลุ่มท่องเที่ยวสร้างกิจกรรมล่องแม่น้ำเงาด้วยเรือแคนู การล่องแพไม้ไผ่ นั่งเรือหางยาวไปยังบริเวณต้นน้ำของแม่น้ำเงาเพื่อชมหมู่บ้านกะเหรี่ยง รวมถึงกิจกรรมเดินป่า ซึ่งจัดขึ้นจากการรวมกลุ่มของชาวบ้านในพื้นที่ คือ “กลุ่มเส้นทางเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา”


การมาเยือนอุทยานแห่งชาติแม่เงา เพื่อกิจกรรมล่องน้ำด้วยเรือแคนู ในช่วงปลายฤดูฝน พ่วงมาด้วยความสมบุกสมบันของการเดินทางอยู่บ้าง แต่คงโดนใจสายลุยแน่นอน เพราะต้องนั่งตะลอนไปบนรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อของชาวบ้านนานนับชั่วโมง ฝ่าสายฝนโปรยปรายออกจากอุทยานฯ โดยมีทิวทัศน์ของเทือกเขา ไร่นา และหมู่บ้านอันเงียบสงบชอุ่มอิ่มเป็นอาหารตาไว้แก้เบื่อ ทั้งนี้ก็เพื่อไปยังจุดปล่อยเรือซึ่งเริ่มต้นจากบ้านสบโขงโดยมีปลายทางการล่องเรือ คือ หมู่บ้านนาดอย ซึ่งเป็นจุดหมายสำหรับการกางเต็นท์พักแรมริมน้ำ


แต่เมื่อสภาพฟ้าฝนทำให้การเดินทางล่าช้าออกไป ทีมงานชาวบ้านจึงร่นระยะทางไว้เพียงครึ่ง ปล่อยเรือให้ใกล้กว่าเดิมเพื่อประหยัดเวลา แต่ก็ได้อรรถรสสนุกสนานไม่ต่างกัน ซึ่งการล่องแคนูในช่วงปลายฝน สายน้ำเงาไม่ใสปิ๊งแบบฤดูกาลอื่น แต่ก็ยังคงความงามของทิวทัศน์รอบตัวที่เขียวชอุ่มไปทั่ว 


ทั้งนี้เรือแต่ละลำมีชาวบ้านผู้ชำนาญเป็นฝีพาย คอยคัดท้ายดูแลให้เป็นอย่างดี ใช้เวลาประมาณชั่วโมงก็จบกิจกรรมอันชุ่มฉ่ำกลางสายฝน


โปรแกรมสำรวจขุนน้ำเงาแบบย่อของเราปรับเปลี่ยนไปนอนกางเต็นท์กันที่บ้านสบโขง ที่มีลานกางเต็นท์ริมแม่น้ำ สงบเป็นส่วนตัว เพื่อที่ช่วงเวลาเช้า จะได้ออกไปเดินเล่นชมทิวทัศน์รอยต่อสามจังหวัด แม่ฮ่องสอน-ตาก-เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดกางเต็นท์




อย่างไรก็ตาม การผจญภัยสำรวจไปในพงไพรและสายน้ำของชาวบ้าน มีโปรแกรมที่สมบูรณ์แบบมากกว่านี้ เช่น โปรแกรมเดินป่าระยะไกล แบบ 3 วัน 2 คืน หรือแบบ 2 วัน 1 คืน มีทั้งการล่องเรือ ชมน้ำตก เดินป่า ซึ่งมีกิจกรรมและราคาแตกต่างกันออกไป สามารถติดต่อสอบถามได้ทาง Facebook : เส้นทางเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา (https://www.facebook.com/MaeNgowTrekking)

ข้อมูลเพิ่มเติม: พื้นที่การท่องเที่ยวเส้นทางดังกล่าว มีสัญญาณโทรศัพท์เพียงบางจุดของเครือข่าย AIS ดังนั้น หากใครต้องการท่องเที่ยวสไตล์ดิจิทัลดีท็อกซ์ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี


รับพลังกรีนซีซั่น “แม่ลาน้อย”
ออกจากป่ากลับมาสู่เมืองอีกครั้ง แต่ทว่าก็ยังเป็นเมืองเล็กๆที่รุ่มรวยความสงบอย่าง “แม่ลาน้อย” อำเภอที่โอบล้อมความชอุ่มชุ่มชื้นของขุนเขากับผืนนาสีเขียวสดช่วงฤดูก่อนข้าวออกรวง โดยเลือกมาพักผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากโปรแกรมผจญภัยในสบเมยที่ “เฮินไต รีสอร์ท”

“เฮินไต รีสอร์ท” เป็นที่พักลำดับต้นๆที่เหล่านักเดินทางนึกถึงเมื่อมาเยือนแม่ลาน้อย ด้วยบรรยากาศของรีสอร์ทที่ผสมผสานกลิ่นอายความร่วมสมัยกับวัฒนธรรมไทยใหญ่ (เฮินไต ก็แปลว่า บ้านของไทยใหญ่) โดยเสน่ห์ที่เป็นจุดขายที่สุด เป็นทิวทัศน์ของทุ่งนาสุดลูกหูลูกตากับแนวเขารอบๆ โดยเฉพาะการเลือกมาเยือนในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ท้องนากำลังเป็นสีเขียวขจี มองไปทางไหนก็รับพลังแบบกรีนซีซั่นได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นระเบียงห้อง มองออกมาจากหน้าต่าง สระว่ายน้ำส่วนกลาง หรือทางเดินที่ลัดเลาะไปตามจุดต่างๆของรีสอร์ท


ห้องพักที่เฮินไต รีสอร์ท มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ โดยนอกจากอาคารสไตล์บ้านไทยใหญ่ที่ด้านในเป็นรูปแบบร่วมสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครันแล้ว ล่าสุดก็มีที่พักสไตล์รถบ้านเป็นอีกทางเลือกให้ลูกค้า

 (รายละเอียด เฮินไตรีสอร์ท: https://facebook.com/HerntaiResortMaelanoi)


เช้าตรู่วันถัดมา ออกจากเฮินไตไปตาม เส้นทางหลวงหมายเลข 1266 มุ่งสู่จุดหมาย “ดอยขุมคำ”หรือจุดชมวิว กม.9 อำเภอแม่ลาน้อย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอำเภอเล็กๆแห่งนี้ เพราะเป็นสถานที่ให้มาเก็บทะเลหมอกกันได้ตลอดทั้งปี


โดยเจ้าของเฮินไตฯ ยังแนะนำเราให้แวะไร่ข้าวโพดริมทาง ซึ่งมีทางเดินเท้าลัดเลาะไปเก็บภาพความงามสวยๆในมุมอันซีนแม่ลาน้อยส่งท้ายก่อนเดินทางกลับ






ข้อมูลการเดินทาง
การเดินทางจากกรุงเทพฯไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน สะดวกสบายขึ้น เมื่อสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเส้นทางบินสู่เมืองสามหมอกแล้ววันนี้ โดยบินจาก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ แม่ฮ่องสอน (ผ่านการแวะต่อเครื่องที่สนามบินลำปาง 40 นาที)

ตารางเที่ยวบินจาก สุวรรณภูมิ - แม่ฮ่องสอน (ต่อเครื่องสนามบินลำปาง) PG205* เวลา 11:55 - 15:00 น.
ตารางเที่ยวบินจาก แม่ฮ่องสอน - สุวรรณภูมิ (ต่อเครื่องสนามบินลำปาง) PG206* เวลา 15:30 – 18:35 น.


รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.bangkokair.com หรือ โทร.02-270-6699


สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline