xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยวญี่ปุ่นมุมใหม่ ขอพร-เสริมมงคลสายมู ดูใบไม้เปลี่ยนสีสุดตื่นตาที่ “โทโฮคุ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี


เที่ยวญี่ปุ่นมุมใหม่ ขอพร-เสริมมงคลสายมู ดูใบไม้เปลี่ยนสีสุดตื่นตาที่ “โทโฮคุ” สถานที่ในภาพ : วัดเอนสึอิน)
ชวนเที่ยวญี่ปุ่นมุมมองใหม่ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรสายมูวัด-ศาลเจ้า ท่ามกลางบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีอันสุดตื่นตาแห่งภูมิภาค “โทโฮคุ” ที่ได้ชื่อว่าเป็นแดนสวรรค์ของ “ใบไม้เปลี่ยนสี”

ภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นนั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นแดนสวรรค์ของผู้ชื่นชอบความงามของ “ใบไม้เปลี่ยนสี” ในฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากภูมิภาคแห่งนี้มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีทิวทัศน์งดงามหลากหลาย โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ทั่วทั้งภูมิภาคจะถูกย้อมไปด้วยสีสันสดใสของใบไม้หลากสีสัน ทั้ง เขียว เหลือง ส้ม แดง ย้อมภูมิภาคโทโฮคุตั้งแต่เหนือจรดใต้ ในระหว่างช่วงปลายเดือนกันยายนไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนให้ดูงดงามน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งไม่ว่าจะไปที่ไหนก็สามารถหาชมความสวยงามของใบไม้หลากสีได้ไม่ซ้ำกัน

5 วัด-ศาลเจ้า ขอพรสายมู ดูใบไม้เปลี่ยนสีสุดสวยที่โทโฮคุ
ด้วยเหตุนี้ทาง JR East จึงได้คัดสรร 5 วัด-ศาลเจ้า ที่นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมสิริมงคลแล้ว ยังงดงามไปด้วยบรรยากาศแห่งเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีอันน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเชื่อมโยงกับการเดินทางด้วยรถไฟ มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวไทยที่สนใจ ดังนี้

1.ศาลเจ้าโมริโอกะ ฮาจิมังกุ


ศาลเจ้าโมริโอกะ ฮาจิมังกุ
ศาลเจ้าโมริโอกะ ฮาจิมังกุ (Morioka Hachiman Shrine) ตั้งอยู่ในเมืองโมริโอกะ จังหวัดอิวาเตะ เป็นศาลเจ้าที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอิวาเตะ ที่นี่มีจุดอันโดดเด่นคือเสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าปากทางเข้า

เมื่อผ่านประตูเข้ามาจะพบกับศาลเจ้าสีแดงหลังใหญ่ ล้อมรอบด้วยใบไม้สีเขียว แดงสลับเหลือง-ส้ม เป็นภาพอันสวยงามน่าประทับใจ ศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องทำพิธีสะเดาะเคราะห์ด้วยการอธิษฐานแล้วเป่าลมเข้าไปในน้ำเต้า 3 ครั้ง จากนั้นนำไปแขวนทิ้งไว้ เชื่อว่าสิ่งไม่ดีต่าง ๆ จะถูกปิดผนึกไว้ในน้ำเต้า

-วิธีการเดินทางโดยรถไฟ JR EAST : จากสถานีโตเกียวนั่งรถไฟ JR Tohoku-Hokkaido Shinkansen ไปยังสถานีโมริโอกะ (Morioka Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 14 นาที ต่อรถบัสสาย Naganoที่สถานีโมริโอกะ หมายเลข 251 ลงสถานีฮาจิมันกุมาเอะ (Hachimangu mae)ใช้เวลาประมาณ 13 นาทีถึงที่หมาย

2.วัดชูซนจิ


ทางเดินย้อมสีใบไม้ที่วัดซูซนจิ
วัดชูซนจิ (Chusonji Temple) ตั้งอยู่ในเมืองฮิราอิซึมิ จังหวัดอิวาเตะ เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 1 พันปี สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 850 เพื่ออุทิศแก่ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตในสงคราม

ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีวัดแห่งนี้จะถูกย้อมด้วยสีแดง เหลือง ส้ม และเขียว ไล่จากเดินทางด้านหน้าวัดไปยังสิ่งน่าสนใจต่าง ๆ ภายในวัด ดูน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

วัดชูซนจิ ขึ้นชื่อด้านอธิษฐานขอพรเรื่องความสำเร็จ ความสมหวังในชีวิต โดยวัดแห่งนี้ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในปี ค.ศ. 2011

วัดชูซนจิ
ภายในวัดชูซนจิมีไฮไลต์ คือ “วิหารสีทอง” ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1124 (ปีเท็นจิที่ 1) ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระอมิตาภะพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระโพธิสัตว์พระมหาสถามปราบต์โพธิ์สัตว์ประดิษฐานอยู่เคียงข้าง

-วิธีการเดินทางโดยรถไฟ JR EAST : จากสถานีโตเกียวนั่งรถไฟ JR Tohoku Shinkansen ไปยังสถานีอิจิโนะเซกิ (Ichinoseki) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟ JR สายโทโฮคุ (Tohoku Main Line) นั่งต่อไปอีก 8 นาที ลงที่สถานี Hiraizumi จากนั้นนั่งรถบัสรอบเมือง Hiraizumi Loop Bus Run Run ประมาณ 10 นาที

3.วัดยามาเดระ


วัดยามาเดระ
วัดยามาเดระ (Yamadera Temple) หรือ วัดริชชะคุจิ โฮชุซัน (ชื่อทางการ) ตั้งอยู่ในจังหวัดยามางาตะ เป็นวัดนิกายเทนไดที่มีอายุมากกว่าพันปี มีไฮไลท์เป็นบันไดหิน 1,015 ขั้น ซึ่งเชื่อกันว่าหากใครเดินขึ้นไปจนสุดจะพบแต่ความสำเร็จในชีวิต สุขภาพจะแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

โดยเมื่อเดินขึ้นบันไดไปจนสุดจะได้พบกับจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของหุบเขาเบื้องล่าง อันสวยงามกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ถือเป็นรางวัลแก่ผู้พิชิตที่ช่วยให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

-วิธีการเดินทางโดยรถไฟ JR EAST : จากสถานีโตเกียว นั่งรถไฟ JR Tohoku Shinkansen ไปยังสถานีเซนได (Sendai Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นเปลี่ยนสายเป็นรถไฟ JR สายเซนซัง (Senzan Line) มาลงที่สถานียามาเดระ (Yamadera Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

4.วัดโจกิเนียวไร ไซโฮจิ


วัดโจกิเนียวไร ไซโฮจิ
วัดโจกิเนียวไร ไซโฮจิ (Jogi Nyorai Saihoji Temple) ตั้งอยู่ในเมืองเซนได จังหวัดมิยางิ โดยมีไฮไลต์คือ “เจดีย์ 5 ชั้น” ที่ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะดูสอดรับกับสีสัน แดง ส้ม เหลือง ของใบไม้ที่บรรจงเปลี่ยนสีได้อย่างลงตัวดุจดังจิตรกรธรรมชาติสรรสร้าง

ภายในวัดโจกิเนียวไร ยังมี 2 สิ่งสสำคัญคือ “พระพุทธรูปเนียว” ที่เชื่อว่าใครที่มาสักการะจะสมมาดปรารถนากับชีวิต และ “ต้นเรนริโนะเคะยากิ” (Renri no Keyaki) ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการขนานนามว่า “ต้นเคะยากิแห่งรักนิรันดร์” ซึ่งเกิดจากการที่ต้นเคะยากิ 2 ต้นประสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าให้โชคในเรื่องความรัก คู่ครอง และเรื่องการขอลูก

-วิธีการเดินทางโดยรถไฟ JR EAST : จากสถานีโตเกียวนั่งรถไฟ JR Tohoku Shinkansen ไปยังสถานีเซนได (Sendai Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นต่อรถบัสที่รถบัสที่ Sendai Station West Exit Bus Terminal หมายเลข 10 ขึ้นรถสาย Sendai City Bus ที่เขียนว่าไปโจกิ (Jogi) นั่งจนสุดสาย ใช้เวลาประมาณ 80 นาที

5.วัดเอนสึอิน


วัดเอนสึอิน
วัดเอนสึอิน (Entsuin Temple) ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึชิม่า จังหวัดมิยากิ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1647 เพื่อเป็นสุสานของมิตสึมุเนะบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์

วัดแห่งนี้มีห้องโถงหลักที่ล้อมด้วยต้นไม้โทนสีแดง ทองและสีส้มรอบ ๆ เรียกได้ว่าเป็น “สวรรค์แห่งฤดูใบไม้เปลี่ยนสี” ในยามค่ำคืนจะถูกตกแต่งด้วยไฟไลต์อัพ เป็นฉากอันสวยงามชวนประทับใจไม่น้อย

วัดเอนสึอินมีความโดดเด่นด้านการขอพรเรื่องความรัก เพื่อให้ได้คู่ครองที่ถูกใจจากพระโพธิสัตว์กวนอิม

-วิธีการเดินทางโดยรถไฟ JR EAST : จากสถานีโตเกียวนั่งรถไฟ JR Tohoku-Hokkaido Shinkansen ไปยังสถานีเซนได (Sendai Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นต่อสาย Tohoku line จากสถานีเซนได มาลงที่ Matsushima Station แล้วเดินต่ออีก 19 นาที

และนี่ก็คือ 5 จุดท่องเที่ยวสายมู ควบคู่ไปกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่น่าสนใจแห่งภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งเปรียบดังจิตรกรธรรมชาติบรรจงใช้พู่กันแต่งแต้มสร้างสรรค์ขึ้นมา ให้ดูงดงามน่าตื่นตาตื่นใจกระไรปานนั้น

JR EAST (ภาพ : เพจ JR EAST Travel Thailand)
#############################################

JR-EAST ได้ปรับค่าบัตรโดยสาร (บัตรบางประเภทรวมถึง JR Hokkaido) หลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2023 เป็นต้นไป ผู้สนใจตรวจสอบรายละเอียดได้ที่
https://www.jreast.co.jp/e/pdf/press_20230802_regional_pass.pdf

หมายเหตุ : ภาพประกอบ จาก ปชส. JR EAST





กำลังโหลดความคิดเห็น