ขนาดใหญ่สถิติอันดับหนึ่งของโลก ทำให้ “Starbucks Reserve Roastery” แห่งเมืองชิคาโก เป็นมากกว่าแค่ร้านกาแฟแบรนด์ดัง แต่เสมือนการได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กับเวิร์กช็อปกาแฟขนาดย่อมๆ
จากร้านกาแฟเล็กๆในตลาด Pike Place เมืองซีแอตเทิล ที่ได้วิสัยทัศน์ของ “โฮวาร์ด ชูลท์ส” ผู้บริหารที่มาเปลี่ยนแปลงให้ร้านกาแฟธรรมดากลายเป็นแบรนด์ใหญ่ จนกล่าวได้ว่า ในวันนี้ “สตาร์บัคส์” นับเป็นแบรนด์ร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกก็ไม่ผิด
หลังจากขึ้นหิ้งเป็นแบรนด์ระดับโลก สิ่งที่ร้านกาแฟชื่อดัง สร้างความฮือฮาให้กับบรรดาแฟนพันธุ์แท้เสมอ คือ การเปิดสาขาใหม่ๆ ที่หลายแห่งนั้นไม่เพียงเป็นแค่ร้านกาแฟ แต่จัดเต็มความอลังการจนกลายเป็นจุดหมายให้นักท่องเที่ยวต้องแวะไปเช็กอิน
ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ “Starbucks Reserve Roastery Chicago” สาขาที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2019 และสร้างความฮือฮาด้วยการเป็นร้าน Starbucks ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากที่เซี่ยงไฮ้กับโตเกียวเคยครองสถิติมาก่อนหน้านั้น
อาคารตระหง่านสูง 5 ชั้น ตั้งอยู่บน Michigan Avenue ตัดกับ Erie Street โลเคชั่นอันโด่งดังของเมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟสาขานี้ ซึ่งมีขนาดพื้นที่กว่า 35,000 ตารางเมตร
เมื่อเข้าไปด้านในสิ่งสะดุดสายตา คือ ถังเหล็กสีทองแดงอันโดดเด่นอยู่กลางร้าน สูง 56 ฟุต ราวตึกสองชั้น เป็นจุดศูนย์กลางของโรงคั่วที่เปรียบได้กับงานประติมากรรมทำหน้าที่เหมือนนาฬิกาทราย โดยมีเมล็ดกาแฟคั่วเหมือนเม็ดทราย ผิวของถังทรงกระบอกสูงใหญ่ถูกเจาะรูเพื่อเผยให้เห็นกาแฟคั่วสดที่เคลื่อนผ่านท่อไปทุกทิศทาง เป็นเครื่องมือสำคัญในกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟเพื่อส่งไปที่บาร์กาแฟซึ่งตั้งอยู่ในแต่ละชั้นนำไปปรุงเป็นเครื่องดื่ม นับเป็นการผสมผสานระหว่างรูปทรงทันสมัยกับการใช้งานจริง โดยให้เมล็ดกาแฟพักและระบายอากาศหลังจากคั่ว
ความใหญ่โตของร้านกาแฟแบรนด์ดัง สาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้ความรู้สึกมากกว่าเข้าไปซื้อกาแฟ เพราะเปรียบได้กับการได้เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์กาแฟขนาดย่อม เมื่อก้าวเข้าไปชั้นแรก ลูกค้าจะพบกับเครื่องดื่มกาแฟชงด้วยมือ ขนมอบสดใหม่ ของขวัญสุดพิเศษ และกาแฟที่หายาก
ชั้นสองเป็นร้านเบเกอรี่อิตาเลียนแท้ที่สร้างสรรค์โดย Rocco Princi ซึ่งเป็นผู้รวบรวมวัฒนธรรมการกินสไตล์อิตาลี กับความหลงใหลในกาแฟของ Starbucks เข้าไว้ด้วยกัน
ชั้นสามเป็นพื้นที่ให้ดื่มด่ำไปกับศิลปะ วิทยาศาสตร์ และเสมือนโรงละครแห่งกาแฟ สัมผัสประสบการณ์การลองชิมกาแฟและการสร้างสรรค์วิธีการชง เจลาโต้ที่เติมไนโตรเจน และเอสเปรสโซคลาสสิก ค้นพบนวัตกรรมกาแฟที่นำเสนอรสชาติอันน่าทึ่ง
ชั้นสี่เป็นที่ตั้งของ Arriviamo Cocktail Bar ซึ่งมีกาแฟ ค็อกเทลที่เสิร์ฟคู่กับชา รวมถึงค็อกเทลสุดพิเศษออกแบบโดยมิกโซโลจิสต์ชาวท้องถิ่นในชิคาโก นอกจากนี้ยังมีบาร์กาแฟ Barrel-Aged (กาแฟในถังหมักวิสกี้) ซึ่งนำเสนอการสร้างสรรค์กาแฟบ่มถังแบบไร้แอลกอฮอล์ และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านการคั่วเข้ากับงานฝีมือการบ่ม ส่วนชั้นห้าดาดฟ้านั้น มอบทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Michigan Avenue ที่เปิดให้บริการในวันที่สภาพอากาศเป็นใจ
Starbucks Reserve Roastery ชิคาโก
เปิดทุกวัน 8.00-20.00 น. (ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เปิดถึง 21.30 น.)
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline