ไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกในการชมแสงเหนือ หรือ aurora borealis ดินแดนขอบด้านใต้ของ อาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) สามารถมองเห็นแสงออโรร่าได้เกือบทุกคืน และยังมีอุณหภูมิที่อบอุ่นกว่าสถานที่ชมอื่นๆ
แสงเหนือเกิดจากอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์พุ่งเข้าสู่สนามแม่เหล็กโลก ลมสุริยะพัดพาลงมายังขั้วแม่เหล็กของซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ สร้างรูปร่างคล้ายเกือกม้าของอนุภาคสีเขียว สีแดง และสีน้ำเงิน หมุนวนเปลี่ยนรูปร่างเหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสำคัญที่จะเห็นความงดงามบนผืนฟ้าได้เต็มตา คือ ความมืดและท้องฟ้าที่ปราศจากเมฆ
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะไปหาสถานที่อันมืดมิดในดินแดนแห่งแสงไฟและน้ำแข็ง ซึ่งมีประชากรเพียงสามแสนกว่าคนกระจายอยู่ทั่วเกาะ การเดินทางไปในไอซ์แลนด์ มีโอกาสสูงที่จะได้เห็นแสงเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวางแผนดีๆ
เริ่มจากจัดตารางเวลาที่ดีที่สุดในการดูแสงเหนือในไอซ์แลนด์ โดยฤดูกาลชมแสงเหนือที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ช่วงเดือนกันยายน - เมษายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ค่ำคืนอันมืดมิดและยาวนานเข้ามาแทนที่คืนฤดูร้อนอันสดใสในไอซ์แลนด์ แต่โอกาสก็ดีขึ้นในช่วงกลางฤดูหนาวด้วยการนำความมืดเข้ามามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเดินทางไปไอซ์แลนด์ในฤดูหนาว ก็อย่าวางแผนตามล่าแสงเหนือในช่วงพระจันทร์เต็มดวง เพราะอาจทำให้แสงจากดวงจันทร์สว่างเกินไป
นอกจากนี้ การจะไปไอซ์แลนด์ในช่วงหนึ่งในสองปีที่มีวิษุวัต (Equinox) หรือ ช่วงที่ กลางคืนเท่ากับกลางวัน ก็เป็นเรื่องที่ดี ความสว่าง 12 ชั่วโมง กับความมืด 12 ชั่วโมง ในช่วงเวลานี้ สนามแม่เหล็กของลมสุริยะจากดวงอาทิตย์ (ซึ่งทำให้เกิดแสงเหนือ) จะหันเข้าหามุมที่เหมาะสมที่สุดเมื่อเทียบกับโลก อาจนำไปสู่การแสดงผลที่สว่างกว่า ปรากฏการณ์ออโรราจะถึงจุดสูงสุดในช่วงที่ดวงอาทิตย์สูงสุด เมื่อดวงอาทิตย์ถึงจุดที่มีแสงจ้าที่สุดในรอบ 11 ปี โดยครั้งต่อไปคาดว่าจะเริ่มในปี 2568
ระหว่างการเดินทาง ก็ลองโหลดแอพพลิเคชั่น ที่ช่วยพยากรณ์การเกิดแสงเหนือ ซึ่งแสดงตำแหน่งของออโรร่าวงรีรอบอาร์กติกเซอร์เคิล และระบุความน่าจะเป็นที่จะเห็นตำแหน่งที่เราอยู่
สถานที่ที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์
เรคยาวิก (Reykjavík)
แม้ว่าแสงเหนือจากเมืองหลวงอาจมีปัญหาบ้างเมื่อเจอแสงจากเมือง แต่ลองวางแผนขับรถให้ห่างจากมลพิษทางแสงออกไปแถวอุทยานแห่งชาติ Thingvellir ที่สวยงามเป็นสถานที่ยอดนิยมที่จะเดินทางจากเรคยาวิก และคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) อันอุดมสมบูรณ์ที่ล้อมรอบเมืองหลวง ก็เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมแสงเหนือ
เฮิฟน์ (Höfn)
ขับไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเฮิฟน์ไม่ไกลถึงทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ซึ่งภูเขาน้ำแข็งจากธารน้ำแข็งไหลลงสู่ทะเล เป็นสถานที่คลาสสิกในการถ่ายภาพแสงเหนือ เช่นเดียวกับหาด Icy ที่อยู่ใกล้เคียง
สโกการ์ (Skógar)
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเล็กๆ แห่งนี้ คือ น้ำตก Skógafoss อันยิ่งใหญ่ หันหน้าไปทางทิศใต้ สามารถชมแสงออโรร่าด้านบนและเห็นแสงสีเขียวสะท้อนในแม่น้ำได้ เป็นภาพถ่ายที่โดดเด่นอีกภาพหนึ่งที่ควรลองมาดู
คาบสมุทรสแนฟเฟิลเนส (Snaefellsnes)
ขับรถไม่กี่ชั่วโมงจากเรคยาวิกก็จะถึง คาบสมุทรสแนฟเฟิลเนส พื้นที่ป่าที่ไม่มีมลภาวะทางแสง และมีที่พักแบบธรรมชาติที่ยอดเยี่ยม
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม:https://www.visiticeland.com
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline