ชวนไปอร่อยสไตล์เชฟเทเบิ้ลกับร้าน “กลัทโทนี่ บาย เดอะ ซิน” (Gluttony By The Sin) ร้านอาหารไร้สัญชาติ เปลี่ยนแปลงตามใจเชฟ แต่รับประกันว่าเลือกใช้วัตถุดิบอย่างดี รสชาติถูกปากคุ้มค่าแน่นอน
ชื่อร้าน “กลัทโทนี่ บาย เดอะ ซิน” (Gluttony By The Sin) หมายถึง บาปแห่งความตะกละ เป็น 1 ในบาป 7 ประการตามหลักคำสอนของศาสนาคริสต์ ซึ่งร้านได้นำความหมายนี้มาผสานกับคอนเซปต์ของทางร้านที่ใช้วัตถุดิบและการกินอย่างคุ้มค่าอีกด้วย
ภายในมีการตกแต่งที่ล้อไปกับชื่อร้านในธีม “Heaven and Hell” โดยชั้นแรกคือครัวเปิด ต่อมาที่ชั้นที่ 2 เป็นโซนบาร์ตกแต่งโทนสีขาวฟ้าสว่างสดใสราวกับอยู่ในสวรรค์ และชั้นที่ 3 สำหรับเสิร์ฟเชฟเทเบิ้ล ตกแต่งโทนสีดำแดงแสงไฟสลัวๆ เหมือนอยู่นรก พร้อมตู้เก็บไวน์หลากสัญชาติให้เลือกจิบ
“เชฟโต้ง” ยุทธจักร แสงศาสตรา เจ้าของร้าน Gluttony By The Sin เล่าว่า ตนเติบโตกับอาชีพเชฟมานานเกือบ 20 ปี และเคยหมดแพชชั่นและหยุดอาชีพเชฟไปนานหลายปี แต่สิ่งที่ทำให้อยากกลับมาทำอาหารอีกครั้งคือความต้องการพัฒนาอาหารไทยโดยใส่ตัวตนของตัวเองเข้าไป ผ่านมุมมองของคำว่าอาหารมีชีวิต มีวิวัฒนาการ และไม่ควรจำกัดสัญชาติ จึงเป็นที่มาของการกลับมาเปิดร้าน Gluttony By The Sin นั่นเอง
อาหารที่นี่จึงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามฤดูกาลแบบที่ทุกคนเรียกว่า “Chef table” หรือ “ตามใจเชฟ” บรรยากาศที่ร้านง่ายๆ เป็นกันเองและไม่มีพิธีรีตอง ซึ่งอาหารของทางร้านจะนำเสนอหลายแบบ ทั้งไทย ญี่ปุ่น นอร์ดิก สเปน ยุโรป และอินเดีย ปะปนกันไป และใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นส่วนใหญ่ และมีวัตถุดิบนำเข้าสำหรับเมนูที่จำเป็น นอกจากนี้ยังมีเก็บผัก ผลไม้ จากสวนหน้าร้านอีกด้วย
โดยคอร์สนี้มีทั้งหมด 6 จาน (ราคา 2,800/คน) เริ่มจานแรกที่ “หอยนางรมกับยูซุคาเวียร์” หอยนางรมสดจากชาวประมงในประเทศไทยที่เชฟเสิร์ฟมาแบบสดๆ ราดด้วยน้ำส้มจี๊ดที่ทางเชฟปลูกเอง ท็อปด้วยคาเวียร์จำแลงที่ใช้เทคนิคการทำจากเนื้อส้มจี๊ด และโฟมน้ำจิ้มซีฟู้ด พร้อมลูกเล่นควันงดงามตื่นตาตื่นใจ รสชาติเปรี้ยวซ่าตัดรสชาติความเป็นโลหะของหอยนางรมได้อย่างนุ่มนวล
ต่อด้วยเมนูที่ 2 “กุ้งอบเกลือ กับไอศกรีมซอร์เบทฝรั่งพริกเกลือ หน่อไม่ฝรั่งขาวดอง” ด้วยความที่เชฟโต้งเคยทำงานที่ประเทศสเปนมาก่อน เชฟเลือกใช้กุ้งแดงจากสเปนหากินยาก ที่เสิร์ฟแบบดิบก่อนจะโชว์ลูกเล่นทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้กุ้งสุกกินได้ทั้งเปลือก มีรสชาติหวาน กินคู่กับไอศกรีมซอร์เบทฝรั่งแช่บ๊วยรสเปรี้ยว
พอมาถึงเมนูที่ 3 “เซวิเช่กุ้งวุ้นข้าวแดงอังคัก” เชฟก็ซ่อนไว้ภายในถ้วยที่กินเมนูที่แล้ว ซึ่งตอนแรกนึกว่าเป็นเพียงลายของชามแต่แท้จริงคือลูกเล่นของเมนูนี้ ที่ได้แรงบันดาลใจจาก “เซบิเช” ยำชนิดหนึ่งของสเปน ที่เชฟนำส่วนผสมทั้งหมดมาทำในรูปแบบเจลลาติน รสชาติเปรี้ยวโดดหอมสมุนไพร
ต่อมาจานที่ 4 “พาสต้าทอเทอรินีซอสลอบสเตอร์” ที่มีความเป็นอิตาเลียนคลาสสิกด้วย พาสต้าชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายเกี๊ยวพร้อมซอสจากล็อบสเตอร์ตั้งตัว จานนี้เชฟเสิร์ฟในรสชาติของคนเอเชียด้วยการใช้น้ำมันเทียนแดง ที่อยู่ในอาหารอิโดนีเซีย ฟิลิปปินส์มาใช้ ทำให้มีรสชาติเค็ม เข้มข้น หอมมัน มีความเผ็ดเบาๆ แฝงอยู่
เมนคอร์ส “สเต็กหมูดำไอเบริโก” พร้อมซอสสูตรลับ เป็นหมูดำสายพันธุ์ที่เลี้ยงในคาบสมุทรในส่วนของประเทศสเปนและโปรตุเกสซึ่งสามารถกินแบบกึ่งสุกกึ่งดิบได้ และเลือกระดับความสุกได้เหมือนเนื้อ เชฟเลือกใช้ในส่วนของคอหมูระดับมีเดียมแรร์กึ่งสุกกึ่งดิบ มีความนุ่มละมุนหอมรมควัน
ตบท้ายด้วยเมนูของหวาน “ช็อคโกแลตซูเปอร์โนวา” ด้วยความที่เชฟเป็นคนที่ชอบกินช็อกโกแลตมากๆ เลยคิดเมนูที่ใช้เทคนิคเยอะมากใช้เวลาเตรียมการ 2 วัน เพื่อให้ได้รสสัมผัส 10 รสที่แตกต่าง เมื่อเข้าปากแล้วรู้สึกระเบิดออก ทั้งความเปรี้ยว ซ่า ละมุน กรอบ หอมสมุนไพร เป็นของหวานที่แปลกใหม่ควรค่าแก่การลิ้มลอง
ร้านกลัทโทนี่ บาย เดอะ ซิน ตั้งอยู่ที่ โครงการ Areeya The Parti ลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการ อังคาร-ศุกร์ 14.00-23.00 น. และ เสาร์-อาทิตย์ 12.00-23.00 น. (หยุดวันจันทร์) พิเศษเฉพาะลูกค้าบัตรเครดิต KTC ลด 10% คะแนน X10 โทร. 09-5632-9915 Web : https://www.gluttonybythesin.biz/ Facebook : Chef’s Table Gluttony By The Sin
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline