xs
xsm
sm
md
lg

“มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์” อาคารโกธิคสุดอลังการ สถานที่ประกอบพิธีบรมราชาภิเษกอังกฤษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี


มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ สถานที่ประกอบพิธีบรมราชาภิเษกอังกฤษมายาวนาน (Photo : www.westminster-abbey.org)
6 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่คนทั่วโลกให้ความสนใจและเฝ้ารอชมความยิ่งใหญ่ของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์อังกฤษพระองค์ใหม่ สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 ที่จัดขึ้นที่ “มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์”ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แห่งสหราชอาณาจักร

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์อังกฤษ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี ในพระราชพิธีครั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา จะทรงได้รับการสวมพระมหามงกุฎพร้อมกัน โดยสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 ถือเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่ในลำดับที่ 40 แห่งราชวงศ์สหราชอาณาจักร

มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์เริ่มใช้ประกอบพิธีบรมราชาภิเษกมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1066 (Photo : www.westminster-abbey.org)
พิธีกรรมต่าง ๆ ในพระราชพิธีครั้งนี้ ข้อมูลเบื้องระบุว่า ส่วนใหญ่ยึดตามประเพณีโบราณที่ถือปฏิบัติกันมาช้านาน โดยจะมีพิธีเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการจะเริ่มด้วยการเคลื่อนขบวนเสด็จจากพระราชวังบักกิงแฮมไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ในช่วงเวลาก่อน 11.00 น. เล็กน้อย ซึ่งจะมีการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเฝ้าชมขบวนเสด็จใน 2 ข้างทางได้ตั้งแต่ช่วงเช้าราว 6.00 น.



มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ สถานที่ประกอบพิธีสำคัญแห่งสหราชอาณาจักร

มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ฝั่งทิศเหนือ โดดเด่นด้วยงานศิลปกรรมโกธิคอันเป็นเอกลักษณ์ (Photo : www.westminster-abbey.org)
สำหรับ “มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์” (Westminster Abbey) เป็นสถานที่สำคัญที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์อังกฤษมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1066 นอกจากนี้ก็ยังเป็นสถานที่ในการประกอบพระราชพิธีพระบรมศพของกษัตริย์อังกฤษ และสถานที่จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสของราชวงศ์ชั้นสูงของสหราชอาณาจักรอีกด้วย

มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ เดิมสร้างขึ้นโดยนักบุญเบเนดิกติน (Benedictine) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 960 เพื่อใช้เป็นสถานที่ทำพิธีทางศาสนาประจำวัน

ภายในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ (Photo : Dean and Chapter of Westminster/www.westminster-abbey.org)
ต่อมาในปี ค.ศ.1245 พระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 ได้สร้างมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ในสไตล์โกธิคอันยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในยุคนั้น คร่อมวิหารหลังเดิมเพื่ออุทิศเป็นอนุสรณ์แก่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดธรรมสักขี (Edward the Confessor) รวมถึงเป็นที่ฝังพระศพของตัวพระองค์เองอีกด้วย

นับตั้งแต่ปี 1066 เป็นต้นมา มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรมาเกือบทุกพระองค์ (ยกเว้นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 และพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8)

หน้าต่างประดับกระจกสีรูปนักบุญต่าง ๆ (Photo : Dean and Chapter of Westminster/www.westminster-abbey.org)
โดยในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้ ภายในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์มีการแบ่งพื้นที่หลัก ๆ เป็นส่วนต่าง ๆ ได้แก่ แท่นบูชาสูง ถัดลงมาเป็นมณฑลพิธีบรมราชาภิเษก พื้นที่สำหรับสวมพระมงกุฎให้พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งของผู้เข้าร่วมพระราชพิธีในบริเวณโถงใหญ่ อาทิ ประมุขของประเทศต่าง ๆ นายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญ เป็นต้น

มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ไฮไลท์ห้ามพลาดแห่งกรุงลอนดอน


มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ ในย่านเวสต์มินสเตอร์ (ใกล้กับพระราชวังเวสต์มินเตอร์) ใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ภายในมหาวิหารโดดเด่นด้วยเพดานโค้งสูงใหญ่ในสไตล์โกธิค (Photo : Dean and Chapter of Westminster/www.westminster-abbey.org)
มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์โดดเด่นไปด้วยสถาปัตยกรรม “โกธิค” (Gothic) หรือ “กอธิค” (ศิลปะที่เกิดในยุโรปช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่12-15) ซึ่งถูกยกให้เป็นหนึ่งในอาคารโกธิคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอังกฤษ

มหาวิหารแห่งนี้โดดเด่นไปด้วยอาคารอันสูงตระหง่าน มียอดแหลมในสไตล์ศิลปกรรมโกธิค ที่แม้จะดูสูงใหญ่แต่ว่ามีความงดงามสมส่วน ภายในอาคารมีโถงทางเดินที่โดดเด่นด้วยเพดานโค้งสูงใหญ่ มีหน้าต่างกระจกสีรูปกษัตริย์และบุคคลสำคัญต่าง ๆ รวมถึงรูปสลักอันสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย

ภายในโบสถ์ St. Edward the Confessor (Photo : Dean and Chapter of Westminster/www.westminster-abbey.org)
นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ St. Edward the Confessor เป็นสถานที่ฝังพระบรมศพของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดธรรมสักขี (Edward the Confessor) ส่วนรอบ ๆ โบสถ์ก็เป็นสถานที่ฝังพระบรมศพของกษัตริย์ยุคกลางพระองค์อื่น ๆ ด้วย

ขณะที่โบสถ์ Lady Chapel นั้น เป็นสถานที่ฝังพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 และ สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งสกอตแลนด์ (Mary I) รวมถึงมี Poet's Corner อันสถานที่ฝังศพของกวีเอกและบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ อาทิ วิลเลียม เชกสเปียร์ (William Shakespeare), เจน ออสเตน (Jane Austen) และ ชาร์ลส์ ดิกเกนส์ (Charles Dickens) เป็นต้น

ภายในโบสถ์ Lady Chapel (Photo : Dean and Chapter of Westminster/www.westminster-abbey.org)
บัลลังก์ราชาภิเษก

ภายในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ยังมีอีกหนึ่งสิ่งสำคัญนั่นก็คือ “บัลลังก์ราชาภิเษก” หรือ “พระราชอาสน์เซนต์เอ็ดเวิร์ด” หรือ “บัลลังก์พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด” ซึ่งเป็นบัลลังก์ที่ใช้ประทับของพระมหากษัตริย์อังกฤษในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งถูกนำมาใช้ในพิธีบรมราชาภิเษกตั้งแต่ปี 1308 และได้ใช้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติเรื่อยมาถึงปัจจุบัน

บัลลังก์ราชาภิเษกสร้างขึ้นตามพระราชดำรัสสั่งของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 1 เพื่อบรรจุ “หินราชาภิเษก” หรือ “ศิลาแห่งชะตาลิขิต” ซึ่งเป็นหินทรายสีแดงทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่เดิมใช้ในพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์แห่งสก็อตแลนด์มาเป็นเวลานับร้อยปี แต่หลังจากที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ทรงรบชนะสก็อตแลนด์และดินแดนทางตอนเหนือ ก็ได้นำหินนี้กลับมาใช้ในพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร

บัลลังก์ราชาภิเษก (Photo : www.westminster-abbey.org)
อย่างไรก็ดีในปี 1996 รัฐบาลอังกฤษได้ส่งคืนหินราชาภิเษกกลับคืนสู่สก็อตแลนด์ แต่มันจะถูกยืมกลับมากรุงลอนดอนเป็นการชั่วคราว เพื่อใช้ในการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้

สำหรับบัลลังก์ราชาภิเษกทำจากไม้โอ๊ก มีขนาดความสูง 2.05 เมตร (6 ฟุต 9 นิ้ว) เดิมปิดด้วยทองคำเปลว ประดับกระจกสีอย่างประณีต รวมถึงมีลวดลายประดับต่าง ๆ เช่น ใบไม้ นก และสัตว์ ถือเป็นตัวอย่างของศิลปะยุคกลางที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันซึ่งหาได้ยากยิ่ง จนถูกยกให้เป็นเครื่องเรือนที่เก่าแก่ที่สุดแห่งอังกฤษที่ยังหลงเหลืออยู่มาจนถึงปัจจุบัน

ภายในโบสถ์ St. Edward the Confessor (Photo : Dean and Chapter of Westminster/www.westminster-abbey.org)
และนี่ก็คือเรื่องราวความน่าสนใจต่าง ๆ ของมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ สถานที่สำคัญในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 กษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งในช่วงเวลาปกติมหาวิหารแห่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ที่ผู้มาเยือนกรุงลอนดอน ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง




กำลังโหลดความคิดเห็น