แฟนคลับของ “เบลล่า - ราณี แคมเปน” ที่ติดตามผ่านอินสตาแกรม คงทราบกันแล้วว่า วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นางเอกสาวคนดังเดินทางไปท่องเที่ยวกับครอบครัวที่เกาะฮ่องกง โดยโพสต์รูปการนั่งเคเบิลคาร์ไปยัง “อารามโป่หลิน” (Po Lin Monastery) และ “องค์พระใหญ่เทียนถาน" (Tian Tan Buddha) ซึ่งเปรียบเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองฮ่องกง
จึงชวนคุณมาท่องเที่ยวตามรอยเบลล่า โดยทำความรู้จักกับองค์พระใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง อันเป็นจุดหมายท่องเที่ยวที่ผู้มาเยือนฮ่องกงต้องปักหมุดไว้เป็นสถานที่ไม่ควรพลาด
“อารามโป่หลิน” (Po Lin Monastery) ซึ่งมีสัญลักษณ์เด่น คือ องค์พระใหญ่ “เทียนถาน” (Tian Tan Buddha) พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางนั่งขนาดใหญ่ที่สุดของฮ่องกง ตั้งอยู่ใน “หมู่บ้านนองปิง” (Ngong Ping Village) เขตที่ราบสูงทางตะวันตกของเกาะลันเตา (Lantau Island) เกาะบริวารของฮ่องกง
นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเพื่อเดินทางไปชมความยิ่งใหญ่ขององค์พระพุทธรูป ที่มีความสูง 26.4 เมตร โดยหากรวมฐานดอกบัวขององค์พระด้วย นับว่ามีความสูงถึง 34 เมตร
พระใหญ่บนเกาะลันเตาเป็นพระพุทธรูปที่สง่างาม ตั้งโดดเด่นอยู่บนยอดเขามุกเย่ (Muk Yue) อาณาบริเวณของวัดโป่หลิน ซึ่งพระพุทธรูปสำริดขนาดมหึมาองค์นี้ สื่อเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงของฮ่องกง ความรุ่งเรืองของจีน และสันติภาพบนโลก
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ได้กลายเป็นสถานที่สำคัญในฮ่องกง ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งพุทธศาสนิกชน และผู้นับถือศาสนาอื่นๆ ก็แวะมาชื่นชมความอลังการขององค์พระ รวมถึงชมทิวทัศน์ผ่านประสบการณ์การนั่งเคเบิลคาร์ ระยะทาง 5.6 กิโลเมตร ข้ามผืนน้ำทะเล และทิวเขาสลับซับซ้อนน่าตื่นตาตื่นใจ เดินช้อปชิมชิลล์ไปกับหมู่บ้านโบราณจำลองที่มีมุมสวยๆให้ถ่ายภาพ ก่อนจะไปพิสูจน์ความศรัทธากับการเดินขึ้นบันได จำนวน 268 ขั้น เพื่อขึ้นไปสักการะองค์พระใหญ่อย่างใกล้ชิด
จุดเริ่มต้นขององค์พระ ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2516 พระคุณเจ้า Chi Wai, พระคุณ Yuen Wai และคณะสงฆ์ของอารามโป่หลิน ได้รับเชิญให้ไปประเทศญี่ปุ่น พระคุณเจ้าต่างประทับใจอย่างมากในความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปแห่งคามาคุระ หรือองค์หลวงพ่อไดบุทสึ
ต่อมามีโอกาสเดินทางไปไต้หวันและได้เห็นพระพุทธรูปที่ Changhua อีก จึงตั้งปฏิญาณว่าจะกลับมาสร้างพระใหญ่ที่ฮ่องกงขึ้นมาบ้าง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2517 อารามโป๋หลินได้รับมอบที่ดินจากรัฐบาลบนภูเขามุกเย่ ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งใจว่าจะสร้างองค์พระในอนาคต
ในปี พ.ศ. 2522 เมื่อมีการเปิดประเทศจีน พระสงฆ์จากอารามโป่หลินได้รับนิมนต์ไปจีนแผ่นดินใหญ่ พระคุณเจ้าก็มีโอกาสไปเยี่ยมชม Tian Tan (แท่นบูชาแห่งสวรรค์) ในกรุงปักกิ่ง จึงเกิดแนวคิดในการสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่บนแท่นฐานของ "เทียนถาน" รูปปั้นที่ฮ่องกงจึงถูกเรียกว่า พระพุทธรูปใหญ่เทียนถาน
การออกแบบพระพุทธรูป ออกแบบตามลักษณะ 32 ประการ คือ "เครื่องหมายประจำกาย" ของพระพุทธเจ้าตามที่กล่าวไว้ในพระสูตร พระพักตร์จำลองแบบมาจากพระพุทธไวโรจนะแห่งถ้ำหลงเหมินเพื่อความอิ่มเอิบ และงดงาม จีวรได้แรงบันดาลใจมาจากเส้นสายที่นุ่มนวลของพระพุทธรูปศากยมุนีในถ้ำ 360 ของถ้ำตุนหวง องค์พระใหญ่เทียนถานบนเกาะลันเตา จึงเป็นสุดยอดของงานประติมากรรมที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะในสมัยราชวงศ์สุยและราชวงศ์ถัง ยุคที่พุทธศาสนารุ่งเรืองในประเทศจีน
ทั้งนี้ ด้วยขนาดขององค์พระ ที่ประดิษฐานบนเนินเขาสูง จึงต้องมั่นใจว่าพระพุทธรูปจะไม่ได้รับความเสียหายจากพายุ ผู้เชี่ยวชาญจึงได้ทำการคำนวณแรงต้านลม น้ำหนัก และความแข็งแรงของวัสดุในทุกส่วน โดยได้สถาบันอากาศพลศาสตร์แห่งปักกิ่งสร้างแบบจำลองการทดสอบขึ้นเป็นพิเศษอีกด้วย
ในวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2532 ทองสัมฤทธิ์ชิ้นสุดท้ายถูกติดตั้งและจัดพิธีเทกระจาดในวันเดียวกัน พระพุทธรูปองค์ใหญ่ใช้เวลาสร้างถึง 3 ปี เป็นความร่วมแรงร่วมใจของผู้มีจิตศรัทธา พุทธศาสนิกชน ศิลปิน ช่างฝีมือ โดยมีพิธีสมโภชองค์พระใหญ่ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2536
พระพุทธรูปเทียนถาน ได้รับเลือกให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมชิ้นที่ 4 จากทั้งหมด 10 ชิ้นของฮ่องกงในปี ค.ศ. 2000 ถือเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เป็นสุดยอดของประติมากรรมทางพุทธศาสนาที่มีการผสมผสานระหว่างศิลปะสำริดแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนฮ่องกง
ทั้งนี้ ชาวฮ่องกงเชื่อว่า หากใครได้มานมัสการขอพรองค์พระใหญ่แห่งวัดโป๋หลินแล้ว ชีวิตก็จะมีแต่ความโชคดี มีความสุขสมหวัง และประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน
ข้อมูลการเดินทาง
มุ่งหน้าไปสู่เขต Tung Chung เพื่อขึ้นกระเช้าลอยฟ้า หรือ เคเบิลคาร์นองปิง 360 (Ngong Ping 360) ไปสู่เกาะลันเตา โดยกระเช้าลอยฟ้านี้ถือเป็นกระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกในฮ่องกง การเดินทางเริ่มต้นข้ามอ่าวตุงชุง มองเห็นทิวทัศน์น่าตื่นตาตื่นใจ มองเห็นสนามบินฮ่องกง และเลี้ยว 60 องศาไปทางเกาะลันเตาเหนือ มองเห็นทะเลจีนใต้ที่กว้างใหญ่ และความเขียวขจีของพื้นที่เกาะลันเตา ใช้เวลาประมาณ 25 นาที ก็มองเห็นองค์พระใหญ่อยู่ลิบๆ
สำหรับกระเช้าลอยฟ้ามีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา และแบบที่มีพื้นกระจกใส (Crystal Cabin) ที่พื้นด้านล่างใสมองเห็นทิวทัศน์ได้แบบรอบทิศทาง
ราคาตั๋วกระเช้าลอยฟ้า ไป-กลับ
Standard Cabin ผู้ใหญ่ 235 เหรียญฮ่องกง (ประมาณ 1,025 บาท) เด็ก 110 เหรียญฮ่องกง ผู้สูงอายุ 155 เหรียญฮ่องกง
Crystal Cabin ผู้ใหญ่ 315 เหรียญฮ่องกง (ประมาณ 1,373 บาท) เด็ก 190 เหรียญฮ่องกง ผู้สูงอายุ 235 เหรียญฮ่องกง
ทั้งนี้ สามารถเลือกซื้อตั๋วไปกลับของกระเช้าลอยฟ้าแตกต่างกันอย่างละเที่ยวได้ในราคา 275 เหรียญฮ่องกง (ประมาณ 1,200 บาท)
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline