ภาคตะวันออกของไทย มีความอุดมสมบูรณ์ตามแบบป่าไม้เขตร้อน โดยเฉพาะ “ป่าชายเลน” ถือเป็นจุดเด่นอันเกิดจากสภาพภูมิประเทศติดริมทะเล มีพื้นที่ทั้งน้ำเค็ม น้ำกร่อย และน้ำจืด ผสมผสานกัน กลายเป็นความหลากหลายทางชีวภาพที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ
นอกจากความสมบูรณ์ของผืนป่าแล้ว ป่าชายเลนหลายพื้นที่ยังได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว การต่อยอดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จนกล่าวได้ว่า ภาคตะวันออกของไทย เป็นจุดหมายปลายทางไม่ควรพลาดของนักท่องเที่ยวหัวใจอนุรักษ์ที่สนใจระบบนิเวศของป่าชายเลน
ชวนมาทำความรู้จัก “10 ป่าชายเลนน่าเที่ยวแห่งดินแดนภาคตะวันออก”
“บ้านท่าระแนะ” เที่ยวสามป่า ตื่นตาลานตะบูนโบราณ จ.ตราด
ผืนป่าอุดมสมบูรณ์อายุกว่าร้อยปีในเมืองตราด ที่นอกจากความน่ามหัศจรรย์จากธรรมชาติแล้ว ในวันนี้มีสีสันใหม่จากกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ คือ “พายซับบอร์ด" สำรวจไปตามผืนน้ำมุ่งหน้าไปสู่ลานตะบูนโบราณ
ป่าที่บ้านท่าระแนะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งรับประกันด้วยรางวัลชุมชนต้นแบบเรื่องการดูแลทรัพยากรป่าชายเลนอันดับหนึ่งของประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2556 มาแล้ว
ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวหมู่บ้าน เป็นผู้ดำเนินการ มีการล่องเรือไปตามผืนน้ำที่รายล้อมด้วยธรรมชาติพันธุ์ไม้ที่เป็นเอกลักษณ์แบบ 3 ป่า ได้แก่ ป่าต้นจาก ป่าโกงกาง และป่าตะบูน ซึ่งเจริญเติบโตสูงรกครึ้มปราศจากการรบกวนจากมลพิษใดๆ ต้นไม้บางต้นมีอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี ทำให้บรรยากาศของการล่องเรือราวกับกำลังเดินทางย้อนไปสู่โลกยุคดึกดำบรรพ์ รวมทั้งยังมีทีม “SUP Aholic Trat” กลุ่มนักพายซับบอร์ดที่จัดการท่องเที่ยวร่วมกับชุมชน
วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวชุมชนบ้านท่าระแนะ โทร. 08-1161-6694
ทีม SUP Aholic Trat โทร. 08-6159-1924 หรือ 09-828-9954
อ่าวคุ้งกระเบน โครงการพลิกฟื้นป่าชายเลนเพื่อปวงชน จ.จันทบุรี
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ถือเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญในภาคตะวันออก ที่ช่วยพลิกฟื้นป่าชายเลนอันเสื่อมโทรม ให้กลับกลายมาเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านประมงและการเกษตรที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่จังหวัดจันทบุรี พระองค์ได้พระราชทานพระราชดำรัสแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีว่า "...ให้พิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสม จัดทำโครงการพัฒนาด้านอาชีพการประมงและการเกษตร ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเล และจังหวัดจันทบุรี..." อีกทั้งยังได้พระราชทานเงินที่ราษฎรจังหวัดจันทบุรีทูลเกล้าฯ ถวายในโอกาสนั้นเป็นทุนเริ่มดำเนินการ
ป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนจึงได้พลิกฟื้นจากป่าเสื่อมโทรม กลายเป็นป่าชายเลนอันทรงคุณค่าที่มากไปด้วยระบบนิเวศอันหลากหลาย อีกทั้งภายหลังจากที่ฟื้นฟูสภาพป่ากลับคืนเป็นป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์แล้ว ชาวบ้านในพื้นที่รอบผืนป่าก็มีรายได้เพิ่มจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและผลิตผลจากผืนป่า นับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ช่วยฟื้นฟูผืนป่าและช่วยสร้างรายได้ให้ประชาชนอีกทางหนึ่ง และยังกลายเป็นห้องเรียนธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นแห่งภาคตะวันออก
“ป่าในเมือง” เส้นทางเดินเที่ยวป่าชายเลนที่ยาวระดับโลก จ.ระยอง
โครงการ “ป่าในเมือง” จ.ระยอง หรือบ้างเรียกว่า “ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ” โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าชายเลนบริเวณปากแม่น้ำระยอง ตำบลปากน้ำและตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง อาณาเขตประมาณ 500 ไร่ ซึ่งมีลักษณะทอดยาวขนานไปกับพื้นที่เมือง เป็นแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีสะพานศึกษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ สัตว์นานาชนิดในป่าชายเลน พร้อมความงดงามของพระเจดีย์กลางน้ำ
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ กล่าวถึงป่าแห่งนี้ไว้ว่า ป่าอยู่ในการดูแลของกรมทะเล ใช้เวลาหลายปีกว่าจะทำโครงการนี้เสร็จสิ้นทั้ง 4 ส่วน จนถึงปีนี้เปิดเต็มรูปแบบ ทางเดินยาว 7 กิโลเมตร ผมพยายามค้นว่ามีที่ไหนในโลกยาวกว่าที่นี่ คำตอบคือยังไม่เจอครับ ขนาดออสเตรเลียยังแค่ 2.5 กม. ถ้าใครฟิตเดินครบทั้งเส้นทางไป/กลับ 14 กิโลเมตร
สวนพฤกษศาสตร์ระยอง สัมผัสเสน่ห์ป่าลึกลับ “ป่าเสม็ดพันปี” จ.ระยอง
“สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” ตั้งอยู่ใน อ.แกลง จ.ระยอง จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ศึกษาวิจัย และรวบรวมพรรณไม้ในภาคตะวันออก และเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรพันธุ์พืช โดยเฉพาะสภาพนิเวศวิทยาของพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าเสม็ด รวมถึงเพื่อเป็นแหล่งให้ความรู้ของประชาชน แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ในเชิงนิเวศแก่ผู้เข้าชม โดยมีกิจกรรมล่องเรือสำรวจป่า
เมื่อนั่งเรือท่องเที่ยวต่อไปเรื่อยๆ จะพบกับไฮไลท์ คือ ป่าเสม็ด ซึ่งที่นี่รับการเรียกขานว่า “ป่าเสม็ดพันปี” ที่ส่วนใหญ่เป็นต้นเสม็ดขาว แต่ก็มีเสม็ดแดงขึ้นอยู่บ้าง โดยต้นเสม็ดที่นี่ขึ้นอยู่บนพื้นทราย มีสภาพพื้นที่เป็นดินและป่าพรุน้ำท่วมขังมาก-น้อย ตามฤดูกาล
สวนพฤกษศาสตร์ระยอง ตั้งอยู่ที่ หมู่2 ตำบลชากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. มีบริการเรือนำเที่ยว
ทุ่งโปรงทอง เหลืองทองอร่าม ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จ.ระยอง
"ทุ่งโปรงทอง" อยู่ในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ หมู่ 7 ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง มีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ แต่เดิมเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านทำการประมง เลี้ยงกุ้ง ทำการเกษตร ทำสวนผลไม้ จนกระทั่งทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณนี้ได้ถูกทำลาย และจากนั้นจึงมีการฟื้นฟูพื้นที่และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบริเวณทุ่งโปรงทองให้ผู้ที่สนใจเข้าไปเดินชมกันอีกด้วย
เหตุที่เรียกว่า "ทุ่งโปรงทอง" เพราะเต็มไปด้วยต้นโปรงขึ้นเบียดกันแน่น ใบของต้นโปรงสีเขียวตองอ่อนแทรกออกเป็นพุ่มแน่นจนแทบไม่เห็นพื้นด้านล่าง มีความสูงจากพื้นทางเดินราวเมตรกว่าๆ ทุ่งโปรงที่ใบเบียดแทรกกันแน่นนี้เมื่อถูกแสงแดดจากสีเขียวตองสะท้อนให้เห็นเป็นสีทองอร่ามเต็มสะพรั่งทั่วท้องทุ่ง ตรงจุดชมวิวกลางทุ่งต้นโปรงนี้ สามารถเห็นวิวได้รอบทิศ เสมือนถูกโอบด้วยทุ่งสีเหลืองทอง ตัดด้วยขอบสีเขียวเข้มของใบโกงกางที่เป็นพุ่มล้อมอยู่โดยรอบ ถือเป็นจุดชมวิวที่สร้างความตื่นตา ประทับใจให้กับหลายๆ คน ที่ได้มาสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติป่าโปรงทองแห่งนี้
คลองบางกะจะ ป่าชายเลนนอกกระแส เพชรเม็ดงามของเมืองจันท์ จ.จันทบุรี
คลองบางกะจะ ซ่อนตัวอยู่เงียบๆมาเนิ่นนานในเมืองจันทบุรี แต่ความสมบูรณ์และความงดงามของป่าชายเลนแห่งนี้ ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก จนกระทั่งการรวมตัวของคนในชุมชนเล็กๆแห่งตำบลบางกะจะ ในนาม "SUPscribe Chanthaburi” ได้ออกไปสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
มีจัดกิจกรรมท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกสัมผัสธรรมชาติและสายน้ำในท้องถิ่นด้วย “ซับบอร์ด” ไปพร้อมๆกับการสร้างแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์แก่ผู้มาเยือน ความงามของป่าชายเลนคลองบางกะจะ จึงเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนกลายเป็นจุดหมายขวัญใจของนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลธรรมชาติอันเงียบสงบ และสำรวจพื้นที่ชุ่มน้ำพร้อมกับการได้ออกกำลังกายไปในตัว
SUPscribe Chanthaburi ติดต่อได้ผ่านช่องทาง Facebook ไร่ตามฟาร์มสุข facebook.com/raitamfarmsuk หรือ SUPscribe Chanthaburi facebook.com/Supscrib
สะพานรักษ์แสม เส้นทางสำรวจป่าชายเลน และการอนุรักษ์พันธุ์ปู จ.ระยอง
“สะพานรักษ์แสม” สะพานแขวนไม้อันสวยงามที่สร้างทอดข้ามคลองท่าตาโบ๊ยสู่ป่าชายเลนผืนใหญ่อันอุดมสมบูรณ์ เดิมสะพานรักษ์แสมเป็นเพียงสะพานไม้เล็ก ๆ ต่อมาทางชุมชนได้มีการพัฒนาต่อยอดสร้างเป็นสะพานแขวนให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระบบนิเวศรอบๆ ป่าชายเลน มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร
ผืนป่าชายเลนบริเวณสะพานรักษ์แสม ถือเป็นเขตอนุรักษ์และเพาะพันธุ์สัตว์ โดยเฉพาะกับ“ปูแสม”(เป็นพื้นที่ห้ามจับปูแสม) โดยชาวชุมชนบ้านเนินทรายหมู่ที่ 2 และสมาชิกเครือข่าย ได้รวมกลุ่มกันจัดตั้ง“ธนาคารปูแสม”ขึ้น เพื่ออนุรักษ์และขยายพันธุ์ให้มีจํานวนเพิ่มมากขึ้น นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแล้ว สะพานแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่ที่มีการจัดพิธีแต่งงานที่แหวกแนวไม่น้อย คือ “พิธีแต่งงานปู” ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
กิจกรรมท่องเที่ยวชุมชนบ้านเนินทราย สะพานรักษ์แสม และพิธีแต่งงานปู โทร. 08-9829-7325,เทศบาลตำบลเนินฆ้อ โทร. 038-037611
ล่องเรือมาด บ้านสลักคอก กอนโดลาแห่งเกาะช้าง จ.ตราด
“บ้านสลักคอก” หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะช้าง จังหวัดตราด ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอีกแห่งสำหรับนักท่องเที่ยว ด้วยกิจกรรมอันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของไทย คือ “การล่องเรือมาด”
เรือมาด เป็นพาหนะที่มีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณของชาวบ้านแถบนี้ ลักษณะเป็นเรือขุดทำจากไม้ตะเคียน ใช้วิธีการแจวในการล่องไปตามผืนน้ำ ตามบันทึกประวัติศาสตร์ของเกาะช้าง ยังมีการสันนิษฐานว่า เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสมาที่หมู่บ้านสลักคอก พระองค์ทรงประทับเรือมาดเป็นราชพาหนะเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวสลักคอก
ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้ สอบถาม โทร. 08-7748-9497
หาดทรายดำ อันซีนตราด สปาทรายดำริมทะเล จ.ตราด
เดินผ่านสะพานคอนกรีตเข้าไปในพื้นที่ป่าชายเลนอันสมบูรณ์ได้ประมาณ 5 นาที จุดหมายปลายทางอันซีนเมืองตราด ก็รอต้อนรับผู้มาเยือน นั่นคือ หาดทรายดำ
ป่าชายเลนในอำเภอแหลมงอบ มีเอกลักษณ์หาชมได้ยาก เพราะหาดทรายสีดำจากธรรมชาติมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลกเท่านั้น โดยสีดำของทราย คือ ไลโมไนต์ (Limonite) ลักษณะเป็นสีน้ำตาลแดงไปจนถึงดำ เป็นแร่ที่เกิดจากการยุบสลายของเศษเหมืองและเปลือกหอย ผสมด้วยควอตซ์/ซิลิกา หรือเป็นการผุกร่อนของเหล็ก
แม้จากการศึกษาพบว่าทรายดำไม่มีผลต่อการรักษาโรค แต่ชาวบ้านก็ได้นำทรายจากริมหาดมาใช้ในกิจกรรมเพื่อความผ่อนคลาย คือ “สปาหาดทรายดำ” ที่นำมาพอกตัว ขัดเท้า ขัดผิว ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของป่าชายเลน ซึ่งเชื่อกันว่าสปาทรายดำทำให้โลหิตไหลเวียนดี แก้ปวดเมื่อย ดูดซับสารพิษมีผลดีต่อผิวพรรณ
สวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.๙ จ.จันทบุรี (คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จ เปิดในปี 2567)
โครงการฯ สวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.๙ เกิดขึ้นโดยประชาชนและทุกภาคส่วน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙
ก่อให้เกิดการฟื้นฟูป่าชายเลนที่เคยถูกบุกรุก ครอบครอง ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มแหล่งอาศัย แหล่งวางไข่ และแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำในป่าชายเลนอันเป็นแหล่งอาหารและแหล่งสร้างรายได้ที่สำคัญให้แก่ชุมชนชายฝั่งอีกด้วย
โดยสวนพฤกษศาสตร์ฯ แห่งนี้ จะเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านป่าชายเลนและรวบรวมพรรณไม้ป่าชายเลนแห่งแรกของโลก
ที่ตั้ง บ้านเสม็ดงาม หมู่ที่ 10 ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองจังหวัดจันทบุรี เนื้อที่ประมาณ 518 ไร่ และอาจขยายถึงท้องที่บ้านอิเทพ หมู่ 3 ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรีอีกด้วย
อัปเดตรายละเอียดได้ที่นี่ https://www.facebook.com/IMBoGRama9DMCR/
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline