ย้อนรำลึก “หลินฮุ่ย” ผู้ล่วงลับในหลากหลายแง่มุม กับชีวิตร่วม 20 ปีในสวนสัตว์เชียงใหม่ที่สร้างสีสันความน่ารัก รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ก่อนปิดตำนานแพนด้าเมืองไทยไปด้วยความเศร้าและอาลัย
ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวเศร้าของเมืองไทย ต่อการจากไปของ “หลินฮุ่ย” หมีแพนด้าเพศเมียขวัญใจชาวไทย โดยหลินฮุ่ย (และช่วง ช่วง) เป็นหมี “แพนด้ายักษ์” (Giant Panda, Ailuropoda melanoleuca) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีรูปร่างคล้ายหมี และจัดอยู่ในวงศ์ของหมี แต่พฤติกรรมของมันกลับแตกต่างจากหมีโดยสิ้นเชิง
แพนด้ายักษ์มีหัวใหญ่ จมูกสั้น ขนทั้งตัวเป็นสีขาว ส่วนรอบ ๆ ตาทั้งสองข้าง หู ไหล่ รวมทั้ง ขาหน้า ขาหน้าทั้ง 2 ข้างและ 2 ขาหลัง ตลอดจนหัวไหล่จะมีสีดำ เท้าหน้ามี 6 นิ้ว พร้อมที่จะกางกว้างออกเมื่อปะทะกัน หรือปีนป่ายต้นไม้
แพนด้ายักษ์เป็นสัตว์กินพืชเป็นอาหาร โดยอาหารของมัน 99% คือ ไผ่ ส่วนที่เหลือบางทีอาจเป็นพวก ไข่ ปลา และแมลงบางชนิดในไม้ไผ่ที่มันกิน
หมีแพนด้านับเป็นสัตว์อนุรักษ์ที่หายาก ปัจจุบันมีถิ่นอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งจากการประเมินตามหลักวิชาการในปี 2543 คาดว่า โลกนี้มีแพนด้ายักษ์ประมาณ 2 พัน-3 พันตัว ถือเป็นสถานการณ์ของหมีแพนด้าที่ดีขึ้น เนื่องจากมีการเพิ่มจำนวนขึ้น
แพนด้ายักษ์เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการทูตของเมืองจีน โดยทางการจีนได้ส่งแพนด้ายักษ์ไปยังสวนสัตว์บางประเทศ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนและชาตินั้น ๆ ซึ่งการปฏิบัติเช่นนี้จึงมีการเรียกขานแพนด้าที่ส่งออกจากจีนไปให้ประเทศต่าง ๆ ว่า “ทูตสันถวไมตรี”
อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา จีนได้ยกเลิกการให้หมีแพนด้าเป็นทูตสันถวไมตรี หากแต่เปลี่ยนมาใช้วิธีการให้ยืมเป็นเวลา 10 ปี พร้อม ๆ กับการจ่ายธรรมเนียมพื้นฐานปีละ 1,000,000 เหรียญสหรัฐ และมีข้อกำหนดว่า “ลูกของแพนด้ายักษ์ใด ๆ ที่เกิดระหว่างการยืมนั้น ถือเป็นทรัพย์สินของสาธารณรัฐประชาชนจีน”
สำหรับหลินฮุ่ย (และช่วง ช่วง) ถือเป็นหมีแพนด้าคู่แรกที่รัฐบาลไทยได้ดำเนินการขอแพนด้ายักษ์ 1 คู่ จากประเทศจีนไปตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งทางการจีนได้ส่งหมีแพนด้ามายังเมืองไทยในปี 2546
และเพื่อเป็นการรำลึกถึงการจากไปของ “หลินฮุ่ย” เราขอนำ 9 เรื่องราวแห่งความทรงจำในหลากหลายแง่มุมของหลินฮุ่ยและช่วง ช่วง แพนด้าคู่แรกและคู่เดียวในมาย้อนรำลึกกัน หลังคู่แพนด้าขวัญใจชาวไทยต่างลาลับเดินทางกลับดาวแพนด้าไป
1.บ้านเกิด-พ่อ แม่ : หลินฮุ่ย (ภาษาจีน: 林惠, Lin Hui) เป็นแพนด้ายักษ์เพศเมีย เกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2544 ที่ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ เขตอนุรักษ์วู่หลง เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน หลินฮุ่ยเกิดจาพ่อหมีแพนด้าชื่อ “Pan Pan” (พ่าน พ่าน) และแม่หมีแพนด้าชื่อ “Tang Tang” (ถัง ถัง)
2.ทูตสันถวไมตรี : หลินฮุ่ยและช่วง ช่วงเดินทางมาอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2546 เพื่อเป็นทูตสันถวไมตรีระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยหลินฮุ่ยมีอายุได้ราว 2 ขวบ ส่วนช่วง ช่วง มีอายุได้ราว 3 ขวบ
3.แพนด้าคู่แรกในเมืองไทย : หลิน ฮุ่ย-ช่วง ช่วง ถือเป็นแพนด้าคู่แรกในเมืองไทย และเป็นแพนด้าคู่สุดท้ายที่ประเทศจีนอนุมัติให้ออกนอกประเทศโดยก่อนหน้านี้มีแพนด้าอยู่ในประเทศต่าง ๆ เพียง 5 ประเทศเท่านั้น
4.แพนด้าฟีเวอร์ : เมื่อคู่หมีแพนด้ายักษ์ หลินฮุ่ย และช่วง เดินทางจากประเทศจีนมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทยได้มีพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะนำแพนด้าทั้งคู่ไปเลี้ยงดูแลที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งหลังจากนั้นได้เกิดปรากฏการณ์กระแสแพนด้าฟีเวอร์ขึ้นในเมืองไทยอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง
5.ชื่อไทย : หลินฮุ่ย มีชื่อเรียกในภาษาไทยว่า “เทวี” และมีชื่อล้านนาว่า “คำเอื้อย” ส่วนช่วง ช่วง มีชื่อเรียกภาษาไทยว่า “เทวัญ” และชื่อล้านนาว่า “คำอ้าย” แต่คนก็นิยมเรียกแพนด้าทั้ง 2 ตามชื่อดั้งเดิมในภาษาจีน
6.โลโก้สวนสัตว์ : หลังแพนด้าทั้ง 2 มาอยู่ที่เมืองไทยจนเกิดปรากฏการณ์แพนด้าฟีเวอร์ ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ก็ได้นำรูปหมีแพนด้ามาเป็นโลโก้ของสวนสัตว์ รวมถึงเป็นหนึ่งในมาสคอตของสวนสัตว์เชียงใหม่
7.แพนด้าบุคลิกภาพยอดเยี่ยม : หลินฮุ่ยเคยได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทองแดง ประเภทแพนด้าบุคลิกภาพยอดเยี่ยม จากการโหวตของแฟนคลับทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ Giant Panda Zoo.com
8.แม่ของหลินปิง : หลินฮุ่ยมีลูกสาวชื่อ “หลินปิง” (เพศเมีย) ที่ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2552 โดยกรรมวิธีผสมเทียม จากน้ำเชื้อของช่วง ช่วง ที่อยู่ด้วยกันมากว่า 5 ปี โดยชื่อหลินปิงมาจากการประกวดตั้งชื่อลูกแพนด้า
หลินปิงถือนอกจากจะเป็นแพนด้ายักษ์ตัวประวัติศาสตร์ที่เกิดในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นแพนด้ายักษ์ตัวแรกของโลกที่เกิดในประเทศเขตศูนย์สูตร ในเดือนนอกฤดูผสมพันธุ์ของหมีแพนด้าอีกด้วย
อย่างไรก็ดีตามกฎการให้ยืมแพนด้าของจีนเราจึงต้องส่งหลินปิงกลับคืนสู่เมืองจีนที่ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์หมีแพนด้า เมืองเฉิงตู เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2556
ปัจจุบันหลินปิง ลูกแม่หลินฮุ่ยและพ่อช่วง ช่วง ได้กลายเป็นคุณแม่ลูกแฝด แห่งศูนย์วิจัยและอนุรักษ์หมีแพนด้า เมืองเฉิงตู ประเทศจีน ไปเรียบร้อยแล้ว
9.ปิดตำนานแพนด้าในไทย : เช้าวันที่ 19 เมษายน 2566 ชาวไทยต้องพบกับข่าวเศร้าต่อการจากไปของหลินฮุ่ย ซึ่งเบื้องต้นสวนสัตว์เชียงใหม่แถลงว่าเป็นการจากไปตามอายุขัยด้วยวัย 21 ปี หลังจากหลินฮุ่ยอยู่สร้างสีสัน ความสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ให้คนไทยมาร่วม 20 ปีเป็นการปิดตำนานแพนด้าที่หลงเหลืออยู่ตัวสุดท้ายในเมืองไทยไปด้วยความเศร้าและอาลัย
อย่างไรก็ดีแม้ว่าวันนี้ ทั้งช่วง ช่วง และหลินฮุ่ย จะลาลับเดินทางกลับสู่ดาวหมี แต่ว่าเรื่องราวของทั้งคู่กับตำนานหมีแพนด้าในเมืองไทยคงอยู่ในใจของคนไทยส่วนใหญ่ไปอีกนานเท่านาน